BLOGGER TEMPLATES AND TWITTER BACKGROUNDS

วันอาทิตย์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2553

บนเส้นทางแห่งความรัก ๔

ระหว่างทางเดิน


เกิดคำถาม?
ชายและหญิงเป็นคู่ชีวิตของกันและกันหรือ??
ชายและชาย หญิงและหญิง ไม่ได้หรือ?? ทำไม??

ตั้งแต่แรกเริ่ม มีเพียงชายและหญิงเท่านั้น
ชายสามารถแบ่งปันชีวิตของตนเองอย่างไม่มีขอบเขต
ในขอบเขตของตนเองให้กับหญิงที่ตนเองรักได้
หญิงก็เช่นกัน

ขอบเขตของชายและหญิงไม่เท่ากัน
เป็นความแตกต่างเฉพาะชายและหญิงเท่านั้น

ความรักของชายและหญิงเป็นความสมบูรณ์
เมื่อทั้งสองได้ให้เกิด..บุคคลแห่งความรักขึ้น

เป็นภารกิจของมนุษย์ที่ต้องแสดงออกถึงความรัก
ในการให้กำเนิด..ในการแต่งงาน ในชีวิตคู่

ชาย และ ชาย ให้กำเนิดได้หรือ??
หญิง และ หญิง ให้กำเนิดได้หรือ??
เป็นไปได้ เพียงความรัก..ที่มอบให้กันและกัน
แต่เกิน..ขอบเขตนี้..เป็นไปไม่ได้


คำถาม??
ชายและหญิงเป็นการเติมเต็มให้แก่ชีวิตของกันและกันหรือ??
เปล่าเลย??

ในการแต่งงาน..ไม่ใช่การเติมเต็มให้แต่ละฝ่าย
ชายก็เป็นชายที่มีความสมบูรณ์อยู่ในตัวเอง
หญิงก็เป็นหญิงที่มีความสมบูรณ์อยู่ในตัวเองอย่างเต็มเปี่ยม

ชายและหญิงจะสมบูรณ์เพิ่มขึ้น
เมื่อใช้ชีวิตร่วมกันในการแต่งงาน

พระเจ้าสร้างชายและหญิงให้มีความสมบูรณ์ในตัวเอง

การที่ชายและหญิง..ใช้ชีวิตในการแต่งงาน
เป็นการแสดงออกถึงความสมบูรณ์ของความรักของพระเจ้า
ทำให้เห็นความรักของพระเจ้าชัดเจนและเป็นรูปธรรม

ชายไม่ได้บกพร่อง
หญิงก็ไม่ได้บกพร่อง
ทั้งสองสมบูรณ์ในตัวเอง เพราะมาจากความรักของพระเจ้า

จึงเป็นการถูกต้อง..

ที่ชายและหญิงจะต้องเคารพตนเอง

ที่ชายและหญิงจะต้องให้เกียรติซึ่งกันและกัน

ที่ชายและหญิงจะต้องเป็นพยานถึงความรักของพระเจ้า

ในชีวิตรักของกันและกัน..


วันเสาร์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2553

บนเส้นทางแห่งความรัก ๓


ระหว่างทางเดิน

การเรียนรู้ การแสวงหาประสบการณ์แห่งความรัก
ดำเนินต่อไปอย่างไม่มีสิ้นสุด
ความรักไม่มีที่สิ้นสุด
ไม่มีใครหมดความรักในหัวใจ
เพราะมนุษย์เป็นภาพลักษณ์ของความรักของพระเจ้า

ความรักของพระเจ้าอยู่ในตัวของมนุษย์ทุกคน
ความรักของพระเจ้าเป็นนิรันดร์
ความรักของพระเจ้าเป็นเหมือนน้ำพุ
ยิ่งใช้มากเท่าไร ก็ยิ่งเพิ่มทวีคูณมากเท่านั้น

ประสบการณ์ของความเจ็บปวดจากความรัก
ก็เป็นคุณค่าที่ต้องเรียนรู้
ความเจ็บปวด ไม่ได้ทำให้คุณค่าของความรักลดลง
ที่จริง ความรักไม่ได้ทำให้เราเจ็บปวด
เป็นเราเองต่างหากที่เจ็บปวดจากความต้องการ
ที่ไม่ตรงกับความรักที่แท้จริง

ประสบการณ์ของพระเยซูเจ้าบนไม้กางเขน
เป็นประสบการณ์แห่งความรักที่แท้จริง

พระองค์เจ็บปวดจากร่างกายที่ทนทุกข์ทรมาน
การเฆี่ยนตี การตบสบประมาท หรือ?

พระบิดาเจ้าข้า โปรดอภัยให้เขาเถิด
เพราะเขาไม่รู้ว่ากำลังทำอะไร

นี่เป็นประสบการณ์ของผู้ที่เจ็บปวดจากความรักหรือ?

เปล่าเลย..
เพราะองค์ไม่ได้เจ็บปวดจากความรักที่พระองค์ทรงรักมนุษย์
ความรักมนุษย์ไม่ได้ทำให้พระองค์เจ็บปวด
เพราะความรักของพระองค์ก็ยังคงเต็มเปี่ยมในตัวของมนุษย์

นี่เป็นความรักที่บริสุทธิ์
ความรักที่ไม่มีเงื่อนไขใดใดทั้งสิ้น
ความรักที่ให้หมดทุกสิ่งทุกอย่าง
เพื่อเป็นหนทาง นำมนุษย์ไปสู่ความรักที่แท้จริงในองค์พระบิดา


บนเส้นทางแห่งความรัก ๒


ระหว่างทางเดิน

เมื่อชายและหญิงเริ่มเดินในเส้นทางแห่งความรัก
พวกเขาก็เริ่มเรียนรู้การรู้จักให้ตัวเองแก่คนอื่น
พวกเขาก็เริ่มเรียนรู้การรับจากคนอื่น
นั่นคือ การให้และการรับทั้งจากตัวเองและคนอื่น

นี่เป็นความรักที่ออกจากตัวเองเพื่อคนอื่น
นี่เป็นความเป็นหนึ่งเดียวกันของชายและหญิง
นี่เป็นการแบ่งปันตัวเองแก่คนอื่น

เส้นทางแห่งความรักสวยงามและเปราะบาง
ความรักของชายและหญิงไม่ได้เต็มไปด้วยความสุข
ไม่ได้เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ
ไม่ได้เต็มไปด้วยรอยยิ้ม
เสมอไป..

แต่..มันเปราะบาง
ถ้าไม่ระมัดระวัง อาจจะแตก หรือฉีกขาดได้ง่าย

ชายและหญิงคู่แรกเต็มเปี่ยมไปด้วยความรักของพระเจ้า
ดูเหมือนไม่มีอะไรที่จะมาเปรียบเทียบ
กับความสุขจากความรักที่มีได้

แต่..ชายหญิงก็ทำลายความรักของพระเจ้า
ด้วยการสงสัยในความเป็นพระเจ้าของพระเจ้า

พระเจ้าเป็นผู้สร้างจริงหรือ?
พระเจ้ามีอำนาจสูงสุดจริงหรือ?
พระเจ้าปกครองทุกอย่างจริงหรือ?
พระเจ้าทรงความดีสูงสุดจริงหรือ?


แล้วพวกเขาก็กินผลไม้จากต้นไม้ต้องห้าม
เพื่อพวกเขาจะได้เป็นเหมือนพระเจ้า
เพื่อพวกเขาจะได้ปกครองตนเอง ไม่พึ่งพระเจ้า
และมีศูนย์กลางของชีวิตอยู่ที่ ตัวเอง ไม่ใช่ พระเจ้า

ความรักของชายและหญิงที่รักกัน
ไม่สวยงามเสมอไป
ชายมีความอ่อนแอ มีความบกพร่อง
หญิงมีความอ่อนแอ มีความผิดพลาด
ต่างก็ต่างมีความอ่อนแอ บกพร่อง และผิดพลาด

หากต่างฝ่ายต่างสงสัยซึ่งกันและกัน
หากต่างฝ่ายต่างต้องการแยกตัวเป็นอิสระ
หากต่างฝ่ายต่างยึดตัวเอง เน้นที่ตัวเอง

แน่นอนว่า ความเป็นหนึ่งเดียว ระหว่างกัน.. สิ้นสุด
ยากที่จะหวนคืน


ความรัก..เปราะบาง
ความรักต้องการการเอาใจใส่ การระมัดระวัง
ความรักต้องการการอดทน การให้อภัย
และความไว้วางใ


บนเส้นทางแห่งความรัก ๑


จากจุดเริ่มต้น..
ชายและหญิงล้วนมาจากแหล่งกำเนิดเดียวกัน
จาก..ความรัก
ชายมาก่อนหญิง
และหญิงก็มาจากชาย

ชายอยู่ตามลำพังไม่ได้โดยไม่มีหญิง
หญิงจึงเป็นคู่ชีวิตของชาย
ชายพูดว่า นี่คือ กระดูก นี่คือ เนื้อของฉัน
ทั้งสองเป็นหนึ่งเดียวกัน ทั้งร่างกายและวิญญาณ

ชายและหญิงต่างก็เกิดมาเพื่อกันและกัน
มีศักดิ์ศรีที่เท่าเทียมกัน
ศักดิ์ศรีทุกอย่างที่ชายมี ก็มีอย่างสมบูรณ์ในตัวของหญิง
แต่แตกต่างทางเพียงลักษณ์ทางกายภาพ และความเป็นตัวเองเท่านั้น

เส้นทางเดินของชายและหญิง
ก็คือ เส้นทางแห่งความรัก
ซึ่งมีเป้าหมายปลายทางก็คือ ความรักที่สูงสุด

การออกจากเส้นทางนี้
ดูเหมือนว่า ชายและหญิงจะพบกับอุปสรรคมากมาย
เพราะว่าทางอื่น ไม่ใช่เส้นทางที่แท้จริง

ชายและหญิงรักกันทำให้เกิดโลกใหม่
ทำให้เกิดการแบ่งปัน การออกจากตัวเอง
การเรียนรุ้ตนเองจากความสัมพันธ์กับบุคคลอื่น

ร่างกายของมนุษย์เป็นภาษาของความรัก
มนุษย์พูดภาษาของความรักผ่านทางร่างกายของตนเอง
รวมถึงการพูดภาษาของพระเจ้าด้วย

พระเจ้าก็พูดกับมนุษย์ผ่านทางร่างกายของมนุษย์เช่นกัน
เพราะมนุษย์เป็นภาพลักษณ์และความคล้ายคลึงพระเจ้า

ภาพลักษณ์และความคล้ายคลึงพระเจ้านี้
เป็นของขวัญและเป็นภารกิจหรือหน้าที่
ที่พระเจ้าประทานให้กับมนุษย์
นั่นก็คือ ความรัก..






วันพุธที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2553

Basilica di San Nicola, Tolentino


วิหารแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของนักบวชคณะ
ออกัสติเนียนที่อยู่บริเวณนี้..

สถาปัตยกรรม และศิลปกรรมถูกสร้างขึ้นใน
ศต.ที่ 14 และ สมบูรณ์ในศต.ที่ 17 แต่..ก็มี
การบูรณะซ่อมแซมมาเรื่อย ๆ จนถึงปัจจุบันนี้



ถ่ายภาพพร้อมกับ Franco


ด้านหน้าของ Basilica


บรรายากาศแห่งความศรัทธา มีความเชื่อ
ภายในวิหารแห่งนี้






ภาพวาดแม่พระรับข่าวดีจากอัครเทวดา





พระนางมารีย์ มารดาพระเจ้า




พระแท่น..ศูนย์กลางของวิหารแห่งนี้



ตู้ศีลมหาสนิท..
ซึ่งอยู่ด้านข้างซ้ายมือของวิหารแห่งนี้













การถวายเกีรยติแด่พระเจ้า..
เริ่มต้นด้วยการมอบถวายตัวเองแด่พระเจ้า..
เริ่มต้นด้วยการมอบหัวใจให้พระเจ้า..องค์เดียวเหนือสิ่งอื่นใด
แล้วทุกอย่างก็จะตามมา..

พระเจ้าไม่ต้องการสิ่งใด..
นอกจากหัวใจเนื้อ..ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก
รัก.. มากกว่า
รัก..เหนือกว่า
รัก..เปี่ยมล้นกว่า
สิ่งอื่นใด..ใด..


วันอาทิตย์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2553

Chiesa di S. Eustachio, Belforte


โบสถ์แห่งนี้..ก็มีภาพวาดที่สวยงาม..พร้อมกับ
ประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ..ชวนศรัทธาของนักบุญ
ผู้เป็นองค์อุปถัมภ์ของโบสถ์แห่งนี้...


บรรยากาศภายนอก










บรรยากาศภายในโบสถ์แห่งนี้


ตั้งอยู่ด้านซ้ายมือ


ระห่วางด้านข้างก็จะเห็น








ภายในรูปแม่พระนี้..
มีรูปแม่พระที่เก่าแก่สมัยแรกเดิมซ่อนอยู่..
เป็นภาพวาดแม่พระกับพระกุมาร


รูปกางเขนพระเยซูเจ้า




Sant Sebasiano ที่ทำด้วยไม้



Giovanni Boccati วาดขึ้นในปี 1468


เป็นครั้งแรกที่มีประสบการณ์ถวายมิสซา..ที่แห่งนี้
ก็ถือว่า โบสถ์แห่งนี้เป็นศูนย์กลางของตำบลแห่งนี้
มีผู้คนหลากหลายมาร่วมมิสซาเป็นประจำในที่แห่งนี้
รวมทั้งที่มาจากที่อื่นด้วย หลายคนชอบที่นี่..
เพราะว่าหลังมิสซา..ก็คุยกัน พบปะกัน..และ
รับประทานอาหารเที่ยงด้วยกัน..ที่นี่เป็นบรรยาศดี
แบบบนภูเขา..มีทิวทัศน์ตามธรรมชาติ..

ก็บ้านนอกดีดีของเรานี่เองแหละ (บรรยากาศ)


วันเสาร์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ร้านขายรูปศักดิ์สิทธิ์ ที่ Macerata


มีโอกาสได้เข้าไปดูที่ร้านขายของศักดิ์สิทธิ์..
เห็นภาพสวยงามของแม่พระ และพระเยซูเจ้า..
อีกทั้งเจ้าของร้านก็ใจดี คนขายก็เป็นชาวไต้หวัน
ก็เลย..เก็บภาพนิดหน่อย..
สวยในใจดี..

















รูปภาพเป็นเพียงสื่อกลาง..ที่ทำให้เราคิดถึง
ผู้ที่อยู่เบื้องหลัง..
คุณค่าของรูปภาพ..ไม่ได้อยู่ที่กระดาษ หรือความงาม
ที่บรรจงวาด..
แต่อยู่ภายในรูปภาพ..
ความศักดิ์สิทธิ์..ไม่ได้อยู่ที่สถานที่ตั้งของภาพ
แต่..อยู่ที่ความศรัทธาภักดีจากใจ..

ด้วยความเชื่อ
ด้วยความรัก
ด้วยความศรัทธาภักดี
ด้วยความหวัง
มั่นเสมอ ไม่เปลี่ยนแปลง


ที่ Macerata


คุณพ่อ Matteo Ricci สงฆ์คณะเยซูอิต เป็นธรรมทูตที่ประเทศจีน ท่านเกิดที่นี่
และตายที่ประเทศจีน ท่านเป็นธรรมทูตที่มีผลงานมากมายที่ประเทศจีน
และ..ที่เมือง Macerata นี้ก็เป็นบ้านเกิดของท่าน
http://padrematteoricci.it/


















รูปปั้นของคุณพ่อ Ricci



การแพร่ธรรม..
เริ่มต้นจากการเลือกและการเรียก..
ต่อมาเริ่มด้วยการตอบสนองต่อเสียงเรียก..
ด้วยความเต็มใจ ด้วยความนบนอบ ด้วยความเชื่อฟัง
สิ่งที่เกิดขึ้น..
จึงเกินกว่าที่มนุษย์จะทำได้
จึงมิใช่ผลงานของมนุษย์
เป็นกิจการของพระเจ้า..ที่ทำให้เติบโต
มนุษย์เป็นเครื่องมือสำหรับมนุษย์ให้เข้าใจพระเจ้า..
มนุษย์เป็นสิ่งทีพระเจ้าเลือกเพื่อมนุษย์มุ่งไปหาพระเจ้า..
ชีวิตเรา..ไม่ใช่เพื่อเรา..แต่เพื่อพระเจ้า และเพื่อกันและกัน


วันศุกร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2553

Basilica Santa Maria della Misericordia, Macerata


เป็นวิหารเก่าแก่ และมีประวัติศาสตร์
ในเริ่มต้นนั้น วิหารหลังแกรถูกสร้างขี้นปี 1447 เพียงวันเดียวเท่านั้น
เพื่อห่างไกลจากกาฬโรคที่ระบาดในสมัยนั้น
ต่อมาได้มีการปรับปรุงใหม่มาเรื่อย ๆ จนถึงทุกวันนี้
แม้ว่าจะไม่ใหญ่โตอะไร..แต่ก็สวยงามไม่แพ้ที่อื่นเช่นเดียวกัน


ลักษณะภายนอก มีแม่พระบนจุดสูงสุดของวิหาร




ภายในประดับประดาสวยงาม


มีรูปแม่พระอยู่ตรงกลางเหนือพระแท่น


ด้านข้างติดฝาผนังก็มีรูปวาดเรื่องราวเกี่ยวกับแม่พระ




ด้านข้างก็มีทางเดินที่เชื่อมติดต่อกันได้





พระแม่แห่งความเมตตา..
ช่วยวิงวอนเทอญ