BLOGGER TEMPLATES AND TWITTER BACKGROUNDS

วันพฤหัสบดีที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2554

วันพุธสุดท้าย

วันนี้วันที่ 29 มิถุนายน เป็นวันสมโภชนักบุญเปโตรและเปาโล
เป็นผู้นำทางด้านความเชื่อและการประกาศพระวรสาร..
เป็นวันฉลองความเชื่อ ไว้ใจและความรักต่อพระคริสตเจ้า
และพร้อมที่จะนำความรักนี้ออกไปสู่ทุกคน..ในฐานะที่เป็นบุตรของพระเจ้า

วันนี้ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ..
เพียงแค่ในตอนค่ำ..พากันออกไปเดินเล่น
พักผ่อน หย่อนใจ ตามประสาคนใกล้จะกลับบ้านและไม่มีอะไรทำ
รอกลับบ้านอย่างเดียว..

เราสามคน..ก็ไปด้วยกัน





ชมบรรยากาศ
ดื่มบรรยากาศ
ด่ำบรรยากาศ
สัมผัสกับเครื่องดื่ม และอาหารที่ได้รสชาดถึงใจยามค่ำคืน
ตักตวงบรรยากาศรอบ ๆ ตัว ใกล้แม่น้ำที่ไหลผ่านใจกลางกรุงโรม








มองดูบรรยากาศรอบ ๆ
มองเห็นการแสวงหา ความสุข ความอิ่ม ความพึงพอใจ
แม้ราตรีนี้จะไม่ยาวนาน
แต่ผู้คนที่มาก็ได้รับความสนุกสนานและมีความสุขในรูปแบบที่แตกต่างกันไป




ร้านขายขนมแห้งหวาน..มีมาจากเมืองไทยด้วย


เครื่องเล่นสำหรับทดสอบพลกำลัง..


อีกมุมหนึ่งของแม่น้ำ


ส่วนใหญ่จะเป็นบาร์ ที่ให้บริการเครื่องดื่ม เสียงเพลง และอาหาร










เราไม่ได้มาเพื่อแสวงหาความสุข
แต่
เราพากันออกมาเพื่อแบ่งปันความสุข

การพบปะกับผู้คน
การพบปะกับสิ่งใหม่ ๆ
การพบปะกับอะไรก็ตาม
ด้วยใจที่เป็นสุข
นั่นแหละคือการแบ่งปันความสุข
เล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ ยิ่งใหญ่..


วันพุธที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2554

วันอังคารสุดท้าย

ไปที่วาติกัน..
ไปร้านค้า.. 
ไปซื้อของฝาก...
ทุกอย่างสวยงาม
ทุกอย่างดูมีคุณค่า..
แต่
ปัญหาก็คือ
ตังค์นะมีไหม?

ก็เลยต้องไปเดินดู เดินชม เท่านั้นเอง


เดินผ่านหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร
ด้วยความคุ้นเคยและไม่แตกต่าง



ร้านนี้เป็นร้านสำหรับขอใบพร..จากพระสันตะปาปา
เจ้าของร้านเป็นคนอิตาเลี่ยน แต่เคยไปเมืองไทยและก็ชอบเมืองไทย พูดภาษาไทยได้นิดหน่อย
คือ "สวัสดีค่ะ"  "ขอบคุณค่ะ"



ร้านนี้เป็นร้านของผ้าปัก..
รายปักเป็นรูปนักบุญสำคัญ ๆ และครอบครัวศักดิ์สิทธิ์
ราคาก็ประมาณ 15 ยูโรขึ้นไป.. แต่สวยงามมาก




ภายในร้านขายของที่ระลึก Soprani
รูปศักดิ์ิสิทธิ์ที่ราคาถูก ตามคุณภาพ





ยังมีอีกร้านค้าเยอะแยะมากมาย
ที่ขายของที่ระลึกเกี่ยวกับศาสนาบ้าง บุคคลบ้าง สัญลักษณ์ต่าง ๆ บ้าง
ขึ้นอยู่กับความชอบ ความพอใจของบุคคล
และขึ้นอยู่กับ "เงิน"ด้วย

ทำไงได้..
ไม่มีเงิน
ก็ได้แค่มอง และชม 
ก็พอแล้ว..



วันจันทร์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2554

วันจันทร์สุดท้าย

วันนี้ เดี๋ยวนี้..อะไรอะไรก็สวยงาม

มองดอกไม้ยังสวยงามเลย..
ดอกไม้ที่หอเปโตร..เพิ่งจะสวยงามในตา ก็วันนี้เอง
ทั้ง ๆ ที่ดอกไม้ก็สวยงามในตัวเองอยู่แล้ว...

ที่หอพักของเรามีดอกไม้ ต้นไม้หลากหลาย นานาชนิด
มีสีสัน สดใส สวยงามทั้งนั้น..

แต่ละอย่าง แต่ละพันธุ์ก็มีเอกลักษณ์เป็นตัวของตัวเอง
ไม่หลงตัว ไม่เกินตัว สวยงามอย่างที่มันเป็น และธรรมชาติที่มันเป็น
จะอยู่ไหน ตรงไหน ความงามของมันก็ไม่เคยเปลี่ยนแปลง..

อย่างไรก็ตาม..ความงามที่มาจากใจ..ก็เป็นความงามที่แท้จริง
เป็นรากแก่นแท้ของความงามทุกอย่าง
ใจงาม..ทุกอย่างกะสวยงาม
ใจสุข..ทุกอย่างก็สวยงาม






























ดอกไม้บาน..ที่สวยงาม
ดอกไม้จะบานที่ไหน?
บานตามธรรมชาติของมัน
หรือ
บานในจิตใจของคน
หรือ


วันพฤหัสบดีที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2554

วันแห่งการปลดปล่อย

วันที่ 22 กรกฎาคม 2011
เวลา 18.00 น.

เป็นวันและเวลาแห่งอิสระภาพทางการศึกษา
เป็นวันและเวลาแห่งการปลอดปล่อยแห่งการเรียนรู้
เป็นวันและเวลาคืนสู่ความเป็นเสรีอีกครั้งหนึ่ง
เป็นวันเวลาแห่งความว่างเปล่าในแหล่งของความรู้
เป็นวันและเวลาแห่งสายลมและแสงแดดที่งดงาม
เป็นวันและเวลาที่ "กรุงโรมสวยงามที่สุด"

วันนี้กว่าจะผ่านไปได้เกือบตาย
วันนี้กว่าจะพ้นไปได้เกือบไม่รอด
วันนี้กว่าจะผ่านพ้นไปได้แทบกระอักเลือด
วันนี้กว่าจะพ้นผ่านไปได้แทบเส้ินเลือดแตก

วันนี้..ช่างยืดยาวเหลือเกิน
วันนี้..ช่างเดินอย่างช้า ช้า
วันนี้..ช่างเต็มไปด้วยความตึงเครียด
วันนี้..ช่างนานแสนนาน

แต่เวลานี้..เป็นเวลาแห่งการปลดปล่อยอย่างแท้จริง

อิสระภาพที่ได้มาจากความจากลำบาก
อิสระภาพที่ผ่านมาได้จากความเครียดและกังวล
อิสระภาพที่ต้องกัดฟันสู้และก้าวไปข้างหน้า
อิสระภาพที่ต้องเอาชนะความกลัวและความผิดหวัง

เวลานี้..เป็นเวลาแห่งความรอดพ้น

พ้นจากแอกและภาระที่แบกไว้มานาน
พ้นจากความยากและความลำบากที่สะสมไว้เป็นเวลานาน
พ้นจากความวาดหวังและความคาดหวังที่พกมานานแสนนาน
พ้นจากสิ่งที่ทำอยู่..ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้เป็นอยู่

เรียนจบแล้ว ทุกอย่างดีแล้ว ทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว แม้จะไม่สมบูรณ์
เรียนจบแล้ว ไม่ได้หมายความว่าจบสิ้นทุกอย่าง
เรียนจบแล้ว หมายถึง การเริ่มเข้าสู่สภาพใหม่
สภาพแห่งการกระทำ..ไม่ใช่สภาพแห่งการจำ
สภาพแห่งการปฏิบัติ.. และลงมือกระทำ

เรียนจบแล้ว

ไม่มีใครสามารถรับรู้ความรู้สึกแทนใครได้
ต้องประสบด้วยตนเอง
ต้องเจอด้วยตัวเอง
ว่า
อิสรภาพและการปลอดปล่อย
ทางกาย ทางสติปัญญา และทางจิตใจ
ที่แท้จริงนั้นเป็นอย่างไร?

มันก็เป็นเช่นวันนี้และเวลานี้

และสุดท้าย (..) ก็จบจนได้

ความรู้สึกแรก..
เป็นความรู้สึกแห่งการขอบคุณ
วันนี้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี
ไม่ใช่ความสามารถของตนเอง
ไม่ใช่ความเก่งของตัวเอง
ไม่ใช่สติปัญญาของตัวเอง
แต่เป็นความช่วยเหลือที่มาจากบุคคลอื่น
ลำพังตัวเอง..คงตายไปนานแล้ว
ลำพังตัวเอง..คงไม่ถึงวันนี้
ลำพังตัวเอง..คงกลับบ้านนานแล้ว

วันนี้ต้องขอบคุณ
น้ำใจดี ความเมตตา ความกรุณา
ความเห็นอกเห็นใจ ความรัก ความห่วงใย
และความเอาใจใส่..

อาจารย์ทั้งสามท่าน..ใจดีที่สุด ทำให้เราดีใจที่สุด

อาจารย์ Marengo
อาจารย์ Binasco
อาจารย์ Merecki

อาศัยความกรุณาและใจดีของท่านเหล่านี้
เราจึงรอดมาได้..จนถึงเวลานี้..

ขอบคุณเสมอ..


วันอาทิตย์ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2554

มิสซาปิดปีการศึกษา 2010

วันนี้เป็นวันอาทิตย์ที่เป็นวันพิเศษหลาย ๆ อย่าง
อย่างแรก..เป็นวันอาทิตย์สมโภชพระตรีเอกภาพ
อย่างที่สอง..เป็นมิสซาโมทนาคุณพระเจ้าโอกาสปิดปีการศึกษา 2010-2011
อย่างที่สาม..เป็นวันฉลองโอกาสบวชครบ 25 ปีการเป็นสงฆ์ของมงซินญอร์อันดรูว์วิษณุ ธัญญอนันต์
อย่างที่สี่..เป็นมิสซาส่งคพ.วิโรจน์ กลับบ้าน (เรียนจบแล้ว)

และที่สำคัญ
วันนี้มีพระคุณเจ้าฟรังซิสเซเวียร์ วีระ  อาภรณ์รัตน์ เป็นประธานในพิธีมิสซา
วันนี้มีมาแมร์มีเรียม เดอ เซนต์อานน์  กิจเจริญ มหาธิการิณีคณะภคินีเซนต์ปอลเดอชาร์ตร
มาร่วมเป็นหนึ่งเดียวกับพวกเราด้วย...

งานนี้ถือว่า..เป็นงานใหญ่..หลาย ๆ

บรรยากาศรอบ ๆ






 พระคุณเจ้าวีระและคณะมาถึงเป็นกลุ่มแรก ๆ


คุณพ่อมงซินญอร์ วิษณุ คุณพ่อวินัย และคณะตามมาเป็นลำดับ

เริ่มพิธีมิสซา..ขอบคุณพระเจ้า



 บรรดาสัตบุรุษที่มาร่วมเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน




 คพ.วินัย และคพ.แบงค์ นักดนตรี..บรรเลงบทเพลงในมิสซา






หลังพิธีมิสซาฯ
มีพิธีการเล็กน้อย




 จะกลับบ้านแล้ว..ขอบคุณ  และขอบคุณ พบกันที่เมืองไทย..เด้อ



โอกาส 25 ปีแห่งการเป็นสงฆ์
"ให้เราคิดถึงมือของเรา มือของมนุษย์ที่ไม่สมบูรณ์ แต่เราได้รับการเจิมจากพระเจ้า
ให้ใช้มือเพื่อนำพระพรของพระเจ้าสู่ประชากร
ให้ใช้มือเพื่อสรรเสริญ ขอบพระคุณพระเจ้า
ให้ใช้มือเพื่อกระทำภารกิจของพระเจ้า
แต่..มือของเราเป็นมือมนุษย์ไม่สมบูรณ์"


เก็บไว้ในความทรงจำร่วมกัน พระสงฆ์ มาเซอร์ ซิสเตอร์ และสัตบุรุษ




ภาพนี้ต้องจารึกไว้อีกนาน..



ร่วมกับพี่น้องสงฆ์


 หลังพิธีมิสซา..เชิญรับประทานอาหารร่วมกัน
ทุกคนเป็นเจ้าภาพ..เชิญอร่อยเด้อ..


 มาเซอร์ลงมือทำเองกับมือ ทั้งบีบ ทั้งคั้น ทั้งคน (ยำแหนม) เพื่อให้ได้รสชาดที่แซบอีหลี..


 เนื้อสเต็กก็มีนะครับ..


พระคุณเจ้าสวดเปิดงาน..รับประทานอาหาร (กลางวัน) มื้อสุดท้าย มื้อเดียว


และก็เริ่มลงมือ..มือของใคร มือของเรา..
ด้วยความสุข และความยินดี


และทุกอย่างก็ผ่านพ้นไป
ด้วยความเรียบร้อย ด้วยใจเปี่ยมสุข

ขอบคุณพระเจ้า
ขอบคุณพระคุณเจ้า
ขอบคุณมงซินญอร์
ขอบคุณพ่อวินัย
ขอบคุณพี่น้องสงฆ์
ขอบคุณมาแมร์
ขอบคุณพี่น้องสัตบุรุษ

ขอบคุณ และ ขอบคุณ