BLOGGER TEMPLATES AND TWITTER BACKGROUNDS

วันพุธที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2556

คริสต์มาส 2013


บรรยากาศ เช้าวันที่ 25 ธันวาคม 2013 
เวลา 07.00 น. 
ณ วัดราชินีแห่งสากลโลก บ้านดอนเชียงบาน














บรรยากาศหลังมิสซา

เชิญอร่อยเด้อ...







พระเยซูเจ้า
ลงมาบังเกิดเป็นมนุษย์
อย่างเงียบ ๆ 

เป็นคนเล็ก น้อย และต่ำต้อย

ความเงียบ และความต่ำต้อย
เป็นสถานที่ที่ทำให้เราได้พบกับการประทับอยู่ของพระเจ้าอย่างแท้จริง

ความยิ่งใหญ่
ไม่ใช่ การมีสิ่งของต่าง ๆ มากมาย มากกว่าคนอื่น
แต่เป็นการ เป็น ที่รู้คุณค่า
สำคัญกว่าสิ่งอื่น 




วันจันทร์ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2556

คริสต์มาส 2013 บ้านเณร


มิสซาคริสตมาส ที่ บ้านเณรฟาติมา
22 ธันวาคม 2013



มีเรื่องเล่าว่า นานมาแล้ว มีพระมหากษัตริย์ที่ดีและฉลาดพระองค์หนึ่ง ปกครองประเทศเปอร์เซีย 
พระองค์ทรงรักประชาชนของพระองค์อย่างมาก พระองค์ทรงต้องการที่จะทราบว่า พวกเขาดำเนินชีวิตอย่างไร
ทรงต้องการที่จะรู้จักความยากลำบากที่พวกเขาต้องทน บ่อยครั้งพระองค์แต่งกายเป็นธรรมกร  หรือคนขอทาน 
และเสด็จเข้าไปในบ้านของคนยากจน และไม่มีใครที่พระองค์เสด็จไปเยี่ยมนั้น จะรู้ว่าพระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ของพวกเขา

ครั้งหนึ่ง ได้เสด็จไปเยี่ยมคนที่ยากจนที่สุดคนหนึ่ง ซึ่งอาศัยอยู่ในถ้ำ 
และ พระองค์ทรงเสวยอาหารเลว ๆ ที่ชายคนนั้นกิน และพูดคุยกับเขาด้วยถ้อยคำที่ให้กำลังใจ แล้วก็เสด็จกลับ 
ต่อมาก็ได้เสด็จมาหาชายคนนั้นอีก และทรงบอกความจริงว่า พระองค์เป็นกษัตริย์

ชายยากจนประหลาดใจมาก กษัตริย์คิดว่า ชายคนนี้คงจะขออะไรหลาย ๆ อย่างจากเราแน่นอน  
จึงตรัสถามว่า เจ้าต้องการอะไร? แต่เขาก็ไม่ได้ขออะไร แต่กลับทูลกษัตริย์ว่า 
“พระองค์เสด็จออกจากวังที่รุ่งเรืองมาอยู่กับข้าพระบาท ในสถานที่มืดมัวและต่ำต้อย สกปรกอย่างนี้ 
อีกทั้งพระองค์ได้เสวยอาหารเลว ๆ ที่ข้าพระบาทถวายให้ พระองค์ทรงนำความสุขมาให้จิตใจของข้าพระองค์ 
พระองค์ประทานขอแพง ๆ แก่คนอื่น 
แต่สำหรับข้าพระบาท พระองค์ประทานพระองค์เองแก่ข้าพระบาท

การบังเกิดมาของพระแมสสิยาห์เป็นเหตุการณ์ที่เป็นศูนย์กลางในประวัติศาสตร์ของมนุษย์
การรอคอยที่ยาวนานและที่มืดมน บัดนี้ได้กลายเป็นความจริง และเปิดเผย และชัดเจนยิ่งขึ้น

การบังเกิดมาของกุมารผู้หนึ่งที่เต็มไปด้วยความเป็นมนุษย์ พระองค์เกิดมาเหมือนกับสิ่งสร้าง เกิดมาในเวลา 
แต่ไม่ใช่สิ่งที่ถูกสร้าง เพราะพระองค์ดำรงอยู่ตลอดนิรันดร และสืบเนื่องมาจากพระบิดาเจ้า 
นั่นคือ พระองค์ทรงเป็นพระเจ้า จากพระเจ้า ทรงเป็นแสงสว่างจากแสงสว่าง พระเจ้าแท้จากพระเจ้าแท้ 
พระองค์ทรงเป็นพระวจนาตถ์ เพื่อเป็นศูนย์กลางของทุกสิ่งสร้าง

ในธรรมล้ำลึกแห่งการบังเกิดมาแสดงให้เห็นถึงความสมบูรณ์ของความจริงของเครื่องหมายแห่งการช่วยให้รอด 
ไม่ใช่แค่มนุษย์ แต่รวมถึงทุกสิ่งบนโลก ไม่ใช่แค่มนุษย์ที่ได้รับการไถ่ แต่รวมทั้งสิ่งสร้างทั้งหลายด้วย 
ซึ่งการบังเกิดมาของพระองค์ได้เป็นการเชิญชวนให้บรรดาสิ่งสร้างร้องเพลงบทใหม่ถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า
 เชิญชวนให้ทุกคน ทุกชาติ ภาษาชื่นชมยินดี และนมัสการสรรเสริญพระองค์ คือ 
พระบุตรนิรันดร พระบุตรที่ทำให้พระประสงค์ของพระบิดาเจ้าสมบูรณ์ 
พระบุตรที่บังเกิดมาเป็นมนุษย์ พระองค์เกิดมาที่เบธเลเฮม เพียงครั้งเดียวและตลอดไป

พระสันตะปาปาฟรังซิส ทรงย้ำว่า เทศกาลคริสต์มาส คือ ช่วงเวลารื่นเริงที่เสียงอึกทึกครึกโครมมาก 
มันจึงเป็นการดีที่เราจะเตรียมตัวรับพระองค์ด้วยการหาเวลาเงียบ สงบ รำพึง 
เพื่อจะได้ฟังเสียงที่พระเจ้าตรัสกับเราด้วยความรัก และความอ่อนโยน

ตรัสอีกว่า พระเจ้าเสด็จมาในโลก มิใช่ด้วยเสียงอึกทึก ครึกโครม แต่ด้วยความเงียบ สงบ ง่าย ๆ 
พระองค์ทรงถ่อมองค์ลงมาเป็นเด็กเล็ก ๆ อ่อนแอ เพื่อช่วยให้เราแข็งแกร่ง พระองค์ยอมตายเพื่อให้เรามีชีวิต

ความเงียบสงบฝ่ายจิตใจหรือจิตวิญญาณจะทำให้เราสัมผัสความรักของพระเจ้า 
ความสงบในจิตใจ หมายถึงการรู้จักความพอดี ความพอเพียง  การไม่ฟุ้งซ่าน แต่สงบใจ ด้วยความเชื่อฟังพระเจ้า

พระสันตะปาปาบอกว่า คริสตมาสปีนี้ ให้เราเรียนรู้ความสุภาพถ่อมตนของพระเยซูเจ้า