BLOGGER TEMPLATES AND TWITTER BACKGROUNDS

วันอาทิตย์ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

สมโภชพระตรีเอกภาพ 2013



เมื่อเราพูดถึงพระตรีเอกภาพ เราจะคิดถึงพระบิดา และพระบุตร และพระจิต พระเจ้าองค์เดียว แต่สามพระบุคคล นี่คือคำสอนพื้นฐานในความเชื่อของเรา ถ้าหากจะถามว่า เอกลักษณ์ของพระตรีเอกภาพคืออะไร คำตอบก็คือ  ความเป็นหนึ่งเดียว
ความเป็นหนึ่งเดียวกัน ที่ไม่อาจแบ่งแยกได้ เป็นความเป็นหนึ่งเดียวของกันและกัน และเพื่อกันและกัน ซึ่งเป็นผลมาจากความรัก นั่นเอง
น.ออกัสติน ได้สรุปว่า พระจิตเจ้าเป็นความรักซึ่งกันและกันของพระบิดาเพื่อพระบุตร และเป็นความรักของพระบุตรเพื่อพระบิดา และจิตเจ้าก็เนื่องมาจากความรักของพระบิดาและพระบุตร และได้กล่าวต่อไปว่า พระจิตเจ้าเป็นของประทานสำหรับมนุษยชาติจากพระบิดาและพระบุตร
นี่แสดงให้เห็นว่า พระบิดาและพระบุตรและพระจิตเจ้ามีความสัมพันธ์เป็นหนึ่งเดียวกัน อันเนื่องมาจากความรัก
การจะเข้าใจถึงพระตรีเอกภาพเป็นเรื่องที่ยากและลำบาก หากจะพยายามเข้าใจด้วยสติปัญญาหรือเหตุผล  เรื่องเล่าเกี่ยวกับนักบุญออกัสติน กับเด็กน้อยบนชายทะเล ทำให้เราเข้าใจได้อย่างดีว่า เหตุผล หรือ สติปัญญาไม่สามารถเข้าใจถึงพระตรีเอกภาพได้อย่างสมบูรณ์ และชัดเจนได้
ขณะที่น.ออกัสตินกำลังเดินคิดเรื่องพระตรีเอกภาพอยู่นั้น ก็เดินไปเรื่อยตามชายหาด ก็ไปพบกับเด็กคนหนึ่งกับลังตักน้ำทะเลขึ้นมาเทใส่รูปู น.ออกัสตินถามว่า หนูกำลังทำอะไร เด็กตอบว่า กำลังจะวิดน้ำทะเลให้แห้ง น.ออกัสติน งงและถามว่า จะเป็นไปได้อย่างไร น้ำทะเลกว้างใหญ่  เด็กตอบว่า ท่านก็เช่นกัน เรื่องพระตรีเอกภาพเป็นธรรมล้ำลึก ท่านจะเข้าใจด้วยสติปัญญาของท่านได้อย่างไร?
น.ออกัสตินสอนว่า โดยความเชื่อ เรารู้ว่าพระเจ้า คือ พระตรีเอกภาพ คือ พระบิดา และพระบุตร และพระจิต อาศัยความเชื่อและการเผยแสดงของพระเยซูเจ้า ทำให้เรารู้ว่า พระตรีเอกภาพอยู่กับเรา
เรื่องพระตรีเอกภาพเป็นธรรมล้ำลึกที่ยิ่งใหญ่จนทำให้คริสตชนหลายคนคิดว่า ธรรมล้ำลึกเรื่องนี้เป็นเรื่องอยู่ลึกลับและอยู่ห่างไกลจากเรา เราไม่สามารถที่จะเข้าใจพระองค์ได้ทั้งหมด แต่ในความเป็นจริงแล้ว พระตรีเอกภาพอยู่ใกล้ชิดกับเรามาก ทุกครั้งที่เราทำสำคัญมหากางเขน เราเอ่ยพระนามของพระบิดา และพระบุตร และพระจิต นี่แหละคือพระตรีเอกภาพ
เมื่อเราพูดถึงเอกลักษณ์ของพระตรีเอกภาพ เราพูดถึง ความรัก และความเป็นหนึ่งเดียวกัน ความรักและความเป็นหนึ่งเดียวกันของพระตรีเอกภาพจะต้องเป็นรูปแบบของความรักและความเป็นหนึ่งเดียวกันของเรา ในครอบครัว ในกลุ่มคริสตชน ในพระศาสนจักร และในโลก
ครอบครัว มีพ่อ แม่ ลูก สิ่งที่จะเสริมสร้างให้เกิดความเป็นหนึ่งเดียวกันก็คือ ความรักเพื่อกันและกัน หากเราทำด้วยความรักเพื่อกันและกัน เราจะรู้สึกว่า สิ่งที่เราทำนั้นมีคุณค่า
พ่อทำงานหนัก  แม่ทำงานหนัก ลูกเรียนอย่างหนัก มิใช่ทำเพื่อตัวเอง แต่เพื่อคนกันและกัน นี่แหละคือความเป็นหนึ่งเดียวแบบพระตรีเอกภาพ ซึ่งไม่อาจแบ่งแยกได้
พระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 ตรัสว่า "พระตรีเอกภาพคือความเป็นหนึ่งเดียวกันที่สมบูรณ์ที่สุดอย่างแท้จริง"

วันเสาร์ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

สมโภชพระจิตเจ้า

บทเทศน์

พี่น้องที่เคารพรัก วันนี้พระศาสนจักรเชิญชวนเราคริสตชนทำการสมโภชพระจิตเจ้า พระเจ้าของเรา   หลังจากที่พระเยซูเจ้าเสด็จขึ้นสวรรค์แล้ว พระองค์ก็ทรงส่งพระจิตเจ้าลงมามนุษย์ทุกคน  เพื่อให้มนุษย์ได้เข้าใจคำสอนของพระองค์ เพื่อนำทางชีวิต เพื่อให้มนุษย์สามารถแยกแยะความดี ความถูกต้อง เพื่อเป็นพลังในการดำเนินชีวิตของมนุษย์

พระจิตเจ้าจะสอนให้มนุษย์เข้าใจคำสอนของพระเยซูเจ้า... เมื่อตอนที่เราเป็นเด็ก เรามักจะได้ยินคำพูดของผู้หลักผู้ใหญ่ที่เตือนเรา สอนเรา เราก็เข้าใจตามประสาเด็ก ๆ แต่ไม่สามารถเข้าใจได้หมด เช่น  ผู้เฒ่าผู้แก่มักจะบอกว่า เด็ก ๆ ห้ามกินตับ กินไตของไก่ มันสิหนา  มันสิมึน โตขึ้นค่อยกินเด้อ... เด็ก ๆ ก็เชื่อฟัง ครับ ค่ะ..และก็ไม่กล้ากิน  แต่เมื่อโตขึ้น เราก็เข้าใจว่า..ตับ ไตไก่มันของแซบ... และก็ไม่เกี่ยวกับความหนา ความมึน... เราก็เลยกินและก็รู้ว่าแซบ.. จึงสอนลูก ๆ หลาน ๆ อีกว่า กินตับ กินไต มันสิหนา มันสิมึน...

พระเยซูเจ้าพระองค์ทรงสอนเราให้เข้าใจถึงความสำคัญของความรัก รักแบบไม่มีเงื่อนไข รักแบบให้อภัยอย่างไม่มีที่สิ้นสุด  รักแม้แต่คนที่เราไม่ชอบ หรือคนที่ไม่ชอบเรา...  เราก็เข้าใจ  เหมือนกับตอนที่เราเป็นเด็ก ๆ  แต่เมื่อเราได้รับพระจิตเจ้าแล้ว เราก็จะเข้าใจในคำสอนของพระองค์ เหมือนตอนที่เราโตขึ้นมา  เราเรียกว่า การเป็นผู้ใหญ่ทางความเชื่อ โดยผ่านทางศีลกำลัง นั่นเอง

พระจิตเจ้าจะทำให้มนุษย์มีกล้าหาญ กล้าที่จะปฏิบัติตามคำสอนของพระเยซูเจ้า เพราะคำสอนของพระเยซูเจ้าเรียกร้องหลาย ๆ อย่างที่มันฝืนใจของเรา เช่น

กล้าที่จะยืนยันว่าเราเป็นคริสตชน...เช่น กล้าที่จะมาวัดวันอาทิตย์..หลายคนกลัวที่จะมาวัดวันอาทิตย์ กลัวที่จะมารับศีลมหาสนิท กลัวที่จะมาฟังพระวาจาของพระเจ้า  กลัวที่จะมาพบเจอกับ คริสตชนด้วยกัน  กลัวที่จะสวดภาวนา  เพราะเมื่อถึงเวลาเข้าวัดในตอนเช้า หรือตอนเย็น มักจะมีเงื่อนไขเสมอ ๆ มักจะมีงาน มีความยุ่งยากใจเสมอ ๆ มักจะมีข้ออ้างเสมอ ๆ 

กล้าที่จะยืนยันในความถูกต้อง ในความจริง... สมมุติ ถ้าญาติพี่น้องของเราเสพยาเสพติด หรือ มียาเสพติดอยู่ในความครอบครอง หรือ เมาแล้วอาละวาดชกต่อย ถูกตำรวจจับ หรือต้องมีการขึ้นโรงขึ้นศาล เราจะยืนยันข้างไหน? ข้างญาติที่ทำผิด หรือข้างความถูกต้อง แต่ต้องทำให้ญาติของเราถูกจับ ถูกปรับ  เรากล้าไหม?  หรือ มีการผิดผัวผิดเมียกันเกิดขึ้นในหมู่บ้านของเรา  เรากล้าที่จะยืนยันในความจริงในความถูกต้องไหม? เราจะยืนฝ่ายความดี หรือปล่อยเลยตามเลย หรือไม่ทำอะไรเลยหรือ?

กล้าที่จะรักคนที่ทำให้เราเจ็บ.. ในการอยู่ด้วยกันเป็นกลุ่ม เป็นหมู่คณะ ย่อมมีความผิดข้องหมองใจกันอยู่แล้ว เริ่มตั้งแต่ในครอบครัว ซึ่งต้องอาศัยพลังของพระจิตเจ้าช่วยเหลืออย่างมาก... สามี หรือ ภรรยา นอกใจ ไม่ซื่อสัตย์ต่อเรา ถ้าเรารู้ เราจะทำอย่างไร?... จะทำใจได้หรือ? จะอดทดได้ไหม? ยังจะรักกันเหมือนเดิมหรือ?  เพื่อนบ้านของเรานินทาเรา ใส่ความ ใส่ร้ายป้ายสี ทำให้เราเสียชื่อเสียง เราจะทำอย่างไร? จะต้องโต้ตอบ จะต้องเอาคืน หรือจะอดทน หรือจะให้อภัย หรือจะทำดีต่อไป...

พระจิตเจ้าจะทรงช่วยเรา  พระจิตเจ้าจะประทานพระคุณของพระองค์ให้แก่เรา ถ้าเราสวดภาวนาขอพระองค์อยู่เสมอ ๆ  พระคุณของพระองค์มีเพียงพอสำหรับเรา พระปรีชาญาณ  สติปัญญา ความคิดอ่าน กำลัง ความรู้ ความศรัทธา และความยำเกรงพระเจ้า

พี่น้องจำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องวางใจในพระเจ้า  วางใจในการนำทางของพระองค์   ยิ่งทุกวันนี้ การดำเนินชีวิตของเรายิ่งยากลำบากกว่าแต่ก่อนอย่างมาก  เราคริสตชนถูกเรียกร้อง เราคริสตชนต้องฝืนกระแสของสังคม เหมือนกับปลาที่ต้องว่ายทวนน้ำที่ไหลเชี่ยวขึ้นทุก ๆ วัน

ค่านิยมต่าง ๆ ที่โถมเข้ามาสู่ชีวิตของเรา วัตถุนิยม  ความสุขนิยม ความสบายนิยม บริโภคนิยม แฟชั่นนิยม  รวมทั้งการเมือง เศรษฐกิจก็ไม่มั่นคง ไม่มีเสถียรภาพ สังคมไม่มีที่พึ่ง... เราคริสตชนต้องอาศัยพลังของพระจิตเจ้า  เราคริสตชนต้องอาศัยพระวาจาของพระเจ้า ศีลมหาสนิท การสวดภาวนา เพื่อเราจะสามารถต่อสู้ และดำเนินชีวิตตามพระบัญญัติของพระเจ้าได้ท่ามกลางกระแสของสังคมอย่างนี้....

เพราะฉะนั้น วันนี้เราสมโภชพระจิตเจ้า  ให้เราร่วมจิตร่วมใจวอนขอพระคุณของพระองค์สำหรับการดำเนินชีวิต สำหรับครอบครัว  สังคม ประเทศ และโลกของเรา..