BLOGGER TEMPLATES AND TWITTER BACKGROUNDS

วันอังคารที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

โจรกระจอกเข้าบ้านเณร2013

เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2013

เมื่อวันจันทร์ ที่ 1 กรกฎาคม 2013
เวลา 18.50 น. มีชายสองคนขับขี่จักรยานยนต์มาหลังบ้านเณร เพื่อสำรวจพื้นที เตรียมตัวลักขโมยของในบ้านเณร

เมื่อคืนวันที่ 10 กรกฎาคม 2013
ขโมยได้เข้ามาในบ้านเณรและกระทำการอันชั่วร้าย ภายในบ้านเณร
สิ่งที่ได้ไปเป็นสิ่งเล็กน้อย แต่สิ่งที่กระทำถือว่า เป็นบาป และความชั่วร้ายอย่างแท้จริง
             
สภาพห้องที่โดนขโมยงัด



กล้องวงจรปิดก็โดน


งัดเข้าด้านหน้า แม้จะมีเหล็กดัดก็เอาไม่อยู่






งัดเข้าไปในห้องอธิการ ประตูพังยับ



ข้าวของกระจัดกระจาย โน้ตบุ๊ค Vaio ไปเสียแล้ว


ตู้เก็บเอกสารก็ไม่เว้น












เข้ามาสำรวจในบ้านเณร

22.19     ที่ตึกวัด
22.20     ที่หลังตึกบ้านเณร
22.29     ที่ตึกวัด


เข้ามาเพื่อขโมย

23.03     ที่ตึกวัด (กลับเข้ามาใหม่)
23.26     เห็นถือกระเป๋าโน๊ตบุคที่ตึกวัด
23.28     เห็นออกไปหลังถ้ำ  กำแพงนอกบ้านเณร


ข้าแต่ท่านนักบุญอันตน   ช่วยวิงวอนเทอญ
ข้าแต่พระแม่มารีย์แห่งฟาติมา  ช่วยวิงวอนเทอญ


วันอังคารที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

โอวาทพ่อปรึกษา 2013

เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2013 ที่วัดท่าแร่
กิจกรรมของสงฆ์หนุ่มคือ
16.00  น.   เล่นกีฬาด้วยกัน  ที่บ้านเณร
19.00  น.   รับประทานอาหารค่ำ   ที่วัดท่าแร่
20.15  น.   สวดทำวัตรค่ำ
20.30  น.   คุณพ่อที่ปรึกษาแบ่งปันชีวิต
                  สนทนา ตอบคำถาม
                  แบ่งปันประสบการณ์ชีวิตของกันและกัน


สงฆ์หนุ่มพบปะคุณพ่อที่ปรึกษา
สิ่งที่คุณพ่อวีระเดช ใจเสรี ที่ปรึกษาสงฆ์หนุ่มได้แบ่งปัน ประสบการณ์แห่งการเป็นสงฆ์ตลอด 21 ปีที่ผ่านมาว่า

เมื่อเป็นสงฆ์ครั้งแรก มีความตั้งใจว่า “เราจะเป็นพระสงฆ์อย่างไร?”  คำตอบก็คือ เป็นสงฆ์เพื่อคนอื่น
เมื่อเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาส ก็ตั้งใจว่า “จะพยายามเป็นหนึ่งเดียวกับเจ้าอาวาส” คิดจะทำกิจกรรมอะไร ก็ต้องถามพ่อเจ้าอาวาส หากท่านเห็นชอบ ก็ลงมือทำ หากท่านไม่เห็นชอบ ก็ไม่ทำ  นั่นคือ พยายามเป็นหนึ่งเดียวกันให้มากที่สุด เหมือนดังที่พระคุณเจ้าคายน์ แสนพลอ่อน ได้อบรมเสมอว่า “เป็นผู้น้อยไม่ต้องพูดมาก ให้เรียนรู้ที่จะฟังเยอะ ๆ”

เมื่อเป็นเจ้าอาวาสวัดคำเกิ้ม  สิ่งที่ตั้งใจก็คือ “การอยู่กับชาวบ้าน”  “การสวนภาวนาให้ชาวบ้านเสมอ” และที่สำคัญที่สุดสำหรับการอภิบาลก็คือ การเยี่ยมเยียนชาวบ้าน  การออกจากวัดเพื่อไปดู เห็น พบปะ กับสัตบุรุษของเรา และโดยเฉพาะในเวลาที่ชาวบ้านมีความทุกข์ นั่นคือ ความตาย เราก็ไปร่วมสวดภาวนา ไปอยู่กับเขา แล้วเราก็จะชนะใจเขา

เมื่ออยู่บ้านเณร ก็มีใจรักในงานที่ทำ รักสามเณร และอยู่กับสามเณร ดูเหมือนว่า 10 ปีที่อยู่บ้านเณรเหมือนจะเหนื่อย แต่ก็ยังมีแรงมีพลัง และมีกำลังใจที่จะทำงานอยู่

สิ่งที่จะทำให้ชีวิตสงฆ์ก้าวหน้า
ความกระตือรือร้น  (การทำงานอภิบาล)
ความรับผิดชอบ (บทบาท หน้าที่)
ความซื่อสัตย์ในเรื่องเงิน (ส่วนตัวและส่วนรวม)
การรักษาความบริสุทธิ์ (ไม่ยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิง)

สิ่งที่เราต้องระวังก็คือ
หนึ่ง      การออกจากกลุ่ม หรือ การแยกตัวออกจากกลุ่มเพื่อที่จะอยู่คนเดียว
สอง      ความเหงา ต้องผ่านให้ได้ และหาทางออกในทางที่ดี

สิ่งที่หล่อเลี้ยงชีวิตสงฆ์

การภาวนา หรือ การสวดทำวัตร นี่คือชีวิตพระสงฆ์ ซึ่งขาดไม่ได้เลย