BLOGGER TEMPLATES AND TWITTER BACKGROUNDS

วันเสาร์ที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2557

อาทิตย์ สัปดาห์ที่ 5 มหาพรต ปี A

บทเทศน์


พี่น้องที่เคารพรัก ศูนย์กลางของพระวรสารหรือข่าวดีเกี่ยวกับพระเยซูเจ้าก็คือ “เราเป็นการกลับคืนชีพ และเป็นชีวิต” 
นี่คือข่าวดีที่พระเยซูเจ้าได้เปิดเผยให้มนุษย์รู้  เป็นข่าวดีที่ทำให้มนุษย์มีความหวัง และบรรดาสาวกที่ออกไปประกาศเรื่องราวเกี่ยวกับพระเยซูเจ้านั้น พวกเขาประกาศอะไร? 

พวกเขาประกาศว่า พระเยซูคริสตเจ้ากลับเป็นขึ้นมาจากความตาย พระเยซูคริสตเจ้าทรงกลับคืนพระชนมชีพแล้ว 
พระเยซูคริสตเจ้าทรงชนะบาปและความตายแล้ว นี่คือข่าวดีสำหรับโลก    

คนที่เชื่อในพระองค์ ก็มีชีวิต

ในโลกนี้ มนุษย์กลัวอย่างเดียว ก็คือ ความตาย 
และความหวังของมนุษย์ที่ดำเนินชีวิตในโลกนี้ก็คือ ชีวิตหลังความตาย 
การกระทำหรือสิ่งที่เราแสวงหาในโลกนี้ก็เพื่อจะได้ชนะความตาย

มนุษย์จะทำอย่างไรเพื่อที่จะเอาชนะความตาย มนุษย์จะทำอย่างไรเพื่อที่จะมีชีวิตหลังความตาย? 
เราเคยคิดไหมว่า เราจะชนะความตายได้? เราเคยคิดไหมว่าเราจะมีชีวิตหลังความตาย?  น่าคิดนะ

ตามแนวทางของโลก  เราสามารถเอาชนะความตาย เพื่อจะมีชีวิตหลังความตายได้ 
ก็โดยการ ดำเนินชีวิตตามกฎแห่งศีลธรรม ไม่ละเมิดหรือฝ่าฝืนกฎศีลธรรม กฎศีลธรรมสากล 
เป็นกฎของพระเจ้าที่พระองค์บรรจุลงในจิตใจของเราแต่ละคน เช่น การไม่ทำลายชีวิตของคนอื่น 
การปกป้องชีวิตของตนเอง  เป็นกฎเกณฑ์ที่ให้รางวัล สำหรับคนที่รักษาและปฏิบัติตาม และการลงโทษ 
สำหรับคนที่ละเมิดและฝ่าฝืน  กฎแห่งศีลธรรม ที่เป็นข้อบังคับ และข้อห้าม เป็นเสมือนหนทาง 
แนวทางที่กำหนดให้เราเดินไปเพื่อจะมุ่งไปสู่ชีวิตหลังความตายด้วยความภาคภูมิใจ ด้วยความสุขใจ 
หากว่า คนหนคนหนึ่งดำเนินชีวิตตามหลักศีลธรรมอย่างดีในโลกนี้ เขาจะมั่นใจว่า 
เขาจะได้รับรางวัลจากการบังคับใจตัวเอง จากการควบคุมการกระทำของตนเองให้อยู่ในศีลธรรม

ตามแนวทางของคริสตชน         เราสามารถเอาชนะความตายและมีชีวิตหลังความตายได้ 
ก็โดยการ ดำเนินชีวิตตามพระบัญญัติของพระเจ้า โดยเฉพาะพระบัญญัติแห่งความรัก  เป็นเหมือนแนวทาง 
เป็นความมั่นใจที่ทำให้เราก้าวไป เดินไปในเส้นทางที่ถูกต้อง เพื่อที่จะผ่านความตาย เพื่อที่จะชนะความตาย 
และเพื่อที่จะมีชีวิตหลังความตายกับพระเจ้า

และสิ่งที่สำคัญมากกว่า การถือตามกฎศีลธรรม และกฎพระบัญญัติของพระเจ้า 
ก็คือ พระเจ้าผู้ทรงพระทัยดีจะทรงบันดาลให้มนุษย์ที่เชื่อในพระองค์กลับคืนชีพ 
มีชีวิตร่วมกับพระองค์ในวาระสุดท้าย

สำหรับเราคริสตชน ข่าวดีที่เราได้รับคือ “พระเยซูคริสตเจ้าทรงชนะความตาย โดยการกลับคืนพระชนมชีพ 
และพระองค์จะทรงทำให้เรากลับคืนชีพพร้อมกับพระองค์อีกด้วย” นี่คือ ข่าวดี นี่คือ ความหวัง 
นี่คือ ความจริง นี่คือการเปิดเผยของพระเจ้า สำหรับเรามนุษย์ สำหรับคนที่มีความเชื่อก็จะมีชีวิตเช่นเดียวกับพระองค์ คนที่เชื่อในพระเยซูเจ้าก็จะกลับเป็นขึ้นมาพร้อมกับพระองค์

ในพระวรสาร เราได้ยินเรื่องราวการทำอัศจรรย์ที่เป็นเครื่องหมายของพระเยซูเจ้า
นั่นคือ พระเยซูเจ้าทรงยืนยันกับมารธา ว่า “พระองค์ทรงเป็นการกลับคืนชีพและเป็นชีวิต” 
แล้วพระองค์เน้นย้ำให้มารธาเชื่อว่า “ถ้าท่านมีความเชื่อ จะได้เห็นพระสิริรุ่งโรจน์ของพระเจ้า” 
แล้วเขาก็ยกหินออก  แล้วพระองค์ก็ทรงเรียกชื่อของลาซารัส เขาก็มีชีวิต ทุกคนเชื่อในพระองค์


พี่น้องที่เคารพรัก ในชีวิตของการเป็นคริสตชนของเรา หลายครั้งเราก็เหมือนมารธา 
ทั้ง ๆ เรามีคำสอนของพระเจ้า มีพระบัญญัติของพระองค์ มีพระวาจา มีศีลมหาสนิท 
ที่หล่อเลี้ยงความเชื่อของเรา ที่ยืนยันถึง ความรักของพระเจ้ามีต่อเรา 

แต่เราก็ยังมีความสงสัย เราก็ยังเอาใจออกห่างจากพระองค์ เราก็ยังดำเนินชีวิตแบบไม่เต็มที่กับ
การที่จะแสดงออกถึงความต้องการเมืองสวรรค์ หลายครั้งเรามักจะเป็นแบบนี้ มารธาเองก็เช่นกัน 
ทั้ง ๆ ที่พระเยซูเจ้าตรัสว่า พระองค์เป็นการกลับคืนชีพ พระองค์เป็นชีวิต 

จงยืนหยัด และมั่นใจว่า เราชนะความตาย ผ่านทางพระเยซูคริสตเจ้าแล้ว


วันพุธที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2557

สัมมนาผู้ให้การอบรม2014


วันที่ 1 เมษายน 2014

1. สิ่งที่คุณพ่อมิเกล ได้ให้แก่ ซึ่งมีหลายประเด็นที่น่าสนใจและมีความสำคัญ ผมขอสรุป ดังนี้
จากเอกสารของพระศาสนจักร

พระสงฆ์ประจำบ้านเณร หรือผู้ให้การอบรม  ควรที่จะทำ คือ

                                                                ต้องพยายามให้สามเณรเห็นคุณค่าชีวิตของการเป็นพระสงฆ์ ในชีวิตภายใน ที่เป็นแก่นของชีวิตพระสงฆ์ที่แท้จริง ไม่ใช่แค่ภายนอก หน้าที่ที่พระสงฆ์ทำเท่านั้น เพื่อดึงดูดใจของสามเณรให้มีแรงจูงใจที่ถูกต้องในการที่อยากจะเป็นพระสงฆ์

                                                         อบรมสามเณรให้มีความเข้าใจถึงกระแสเรียกว่า “กระแสเรียกเป็นของขวัญจากพระเจ้า” สามเณรทุกคนได้รับการเรียกจากพระเจ้าให้เข้ามาเรียนรู้ ที่จะฝึกฝนตนเอง ในการอุทิศตน ในการรับใช้ ในบรรยากาศของความรัก ในบ้านเณร

2. เครื่องหมายที่บ่งชี้ว่า ลูก ๆ เณรของเรามีกระแสเรียกหรือไม่? ก็สามารถดูได้จากการประพฤติปฏิบัติของสามเณรคนนั้นว่า ชีวิตในบ้านเณรมีความศรัทธาหรือไม่ มีการอุทิศตน เสียสละ มีน้ำใจต่อคนอื่น พร้อมที่จะสู้ต่อความลำบาก ไม่เอาเปรียบคนอื่น หรือไม่?  ถ้าลูก ๆ เณรของเรามีสิ่งเหล่านี้ ก็แสดงว่า เขามีแนวโน้มที่ดีที่จะเป็นพระสงฆ์ เพราะนี่คือเครื่องหมายที่บอกกับเรา อาจจะไม่ใช่ข้อพิสูจน์ แต่ก็บอกกับเราได้
แรงจูงใจ ที่ชัดเจนย่อม ไปสู่เป้าหมายที่แท้จริงได้

พระสงฆ์ประจำบ้านเณรมีหน้าที่ในการชี้แนะ ให้สามเณรเข้าใจถึงเป้าหมายของตนเอง และพยายามขัดเกลาเป้าหมายของสามเณรแต่ละคนให้ถูกต้อง และตรงกับความเป็นจริง ไม่ว่าสามเณรจะมีแรงจูงใจที่ชัดเจน หรือ มีแรงจูงใจที่แอบแฝงก็ตาม ผู้ที่เป็นผู้ให้การอบรมก็ต้องพยายามช่วยสามเณรเต็มที่ในรูปแบบต่าง ๆ  เช่น การปรึกษาพ่อวิญญาณ การพูดคุย การเป็นเพื่อน การทำ psychology test  เป็นต้น  เพื่อช่วยให้มีแรงจูงใจที่ถูกต้อง

แรงจูงใจที่ถูกต้อง ย่อมมีอยู่บนหลักของเหตุผลที่ถูกต้องประกอบกันไปด้วย อยากเป็นพระสงฆ์ แต่ไม่มีเหตุผลประกอบ ก็คงไม่ถูกต้องนัก

ประเด็นอื่น ๆ ที่เราต้องพิจารณาไตร่ตรองกระแสเรียกของสามเณรด้วยก็คือ สติปัญญา ครอบครัว สุขภาพ 
ควรที่จะมองให้ครบทุกด้าน โดยเฉพาะในเรื่องของครอบครัวกับกระแสเรียก มันเป็นเรื่องละเอียดอ่อน 
ต้องระมัดระวังให้ดี