BLOGGER TEMPLATES AND TWITTER BACKGROUNDS

วันเสาร์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

อาทิตย์ที่ 5 ปัสกา A

บทเทศน์

พี่น้องที่เคารพรัก สัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์ที่ 5 ในเทศกาลปัสกา อยู่ยังอยู่ในบรรยากาศของการเฉลิมฉลองการกลับคืนพระชนมชีพของพระเยซูเจ้า ซึ่งพระองค์ทรงเป็นองค์ปัสกาของชาวเรา และผ่านทางพระองค์ เรามีความหวังที่จะกลับไปยังบ้านของเราที่แท้จริง คือ เมืองสวรรค์

พระวาจาของพระเจ้าในบทอ่านที่หนึ่ง วันนี้ เราได้เห็นถึง สิ่งที่เกิดขึ้นในพระศาสนจักรของเราในยุคแรก ๆ นั่นคือ ความขัดแย้งกัน หรือ มีความไม่พอใจกันเกิดขึ้นในกลุ่มของพวกเขา ว่าด้วยเรื่องปากเรื่องท้อง คือ การแจกจ่ายอาหารหรือของทานประจำวันไม่ทั่วถึงกัน บางคนได้รับ บางคนไม่ได้รับ ทำให้เกิดความขัดแย้ง หรือความไม่พออกพอใจกันบ้าง ซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ เพราะบรรดาศิษย์ที่มีความเชื่อในพระเยซูเจ้านั้นเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ

จะอย่างไรก็ตาม ทุกปัญหาย่อมมีหนทางและทางออกเสมอ  ทางออกสำหรับความขัดแย้งนี้ ก็คือ การประชุมกัน การพูดคุยกัน การปรึกษาหารือกัน หาทางออกร่วมกัน นั่นคือ ยอมรับในข้อเสนอที่ดีที่ดี เพื่อส่วนรวม  จึงได้แต่งตั้งสังฆานุกร 7 คน เพื่อทำหน้าที่ในการแจกจ่ายอาหารหรือทานให้กับหญิงม่ายและลูกกำพร้า ส่วนอัครสาวกก็ประกาศข่าวดีต่อไป

ในพระวรสาร พระเยซูเจ้าทรงเปิดเผยความจริงหลายอย่างให้เราได้รู้ และให้เราได้เข้าใจ มั่นใจในพระองค์ ตรัสว่า “พระองค์ทรงเป็นหนทาง ความจริง และชีวิต ไม่มีใครไปหาพระบิดาได้ นอกจากผ่านทางพระองค์เท่านั้น”  พระองค์ยังเปิดเผยอีกว่า พระองค์ทรงเป็นหนึ่งเดียวกับพระบิดา  “ผู้ที่เห็นเราก็เห็นพระบิดา”
นี่คือความจริง ที่พระเยซูเจ้าได้เผยแสดงให้เราได้รู้ความสัมพันธ์ของพระองค์กับพระบิดา ไม่มีใครสามารถรู้จักพระบิดาได้ นอกจากพระเยซูเจ้า ที่เป็นพระบุตรสุดที่รักของพระองค์ และผ่านทางพระบุตรเท่านั้น เราคริสตชนจึงรู้จักพระบิดา เพราะพระองค์ทรงเป็นหนึ่งเดียวกันกับพระบิดา พระบิดาไม่เคยเปิดเผยให้ใครรู้จักพระองค์ เว้นแต่พระบุตร และผ่านทางพระบุตรเท่านั้น เราสามารถรับรู้ถึงความจริงเกี่ยวกับพระบิดาได้ก็โดยผ่านทางพระเยซูเจ้าเท่านั้น ที่สำคัญที่สุด พระเยซูเจ้าตรัสว่า “ไม่มีใครไปหาพระบิดาได้ นอกจากผ่านทางเรา”

พี่น้องที่เคารพรัก พระเยซูเจ้ายืนยันว่า การจะไปถึงพระบิดาได้นั้น จำเป็นต้องผ่านทางพระองค์ เพราะพระองค์ทรงเป็นหนทาง ความจริง และชีวิต 

“หนทาง” ที่คริสตชนต้องเดินตามเท่านั้น ถ้าคริสตชนต้องการที่จะไปยังบ้านของพระบิดา จะต้องเดินตามหนทางของพระเยซูเจ้า มีเพียงหนทางนี้ ทางเดียวเท่านั้น และหนทางที่เด่นชัดในโลกนี้ ก็คือ พระศาสนจักร ซึ่งพระเยซูเจ้าทรงตั้งขึ้น เพื่อเป็นเครื่องหมาย เครื่องมือนำความรอดมาสู่มนุษย์ และเป็นหนทางที่ทำให้เราเดินไปหาพระบิดาเจ้า ผู้ที่เชื่อฟังพระศาสนจักร ก็เท่ากับว่า เชื่อฟังพระเยซูเจ้า ผู้ที่เชื่อฟังพระเยซูเจ้า ก็เท่ากับว่า เชื่อฟังพระบิดาเจ้า ด้วย ดังนั้น พระศาสนจักร  จึงเป็นเหมือนประตู หรือ บันได ที่พระเยซูเจ้าทรงตั้งขึ้น ทรงสร้างขึ้น เพื่อนำเราไปสู่บ้านแท้นิรันดรของเรา ใครที่ไม่เชื่อฟังพระศาสนจักร ก็เท่ากับว่า ปฏิเสธพระเยซูเจ้า จะบอกว่า ผมเป็นคริสตชน เชื่อในพระเยซูเจ้าส่วนพระศาสนจักรผมไม่สนใจ.. นี่คือการหลอกตัวเอง นี่คือ การหลงทาง

“ความจริง” พระเยซูเจ้าเป็นความจริงเดียวที่เราจะต้องยึดถึง และ ต้องพยายามดำเนินชีวิตให้สอดคล้องกับความจริงของพระองค์ให้ได้ ปิลาตถามพระองค์ว่า ความจริงคืออะไร? พระเยซูเจ้าตอบว่า พระองค์ทรงเป็นความจริง

“ชีวิต”  ผู้ที่มีความเชื่อในพระเยซูเจ้า ก็มีชีวิต และจะไม่ตาย เพราะพระองค์ทรงเป็นชีวิตของเรา ทรงเป็นผู้บันดาลให้มนุษย์กลับคืนชีพ คริสตชนจะมีชีวิตที่แท้จริงได้ ก็ต่อเมื่อเรามีชีวิตในพระเยซูคริสตเจ้า นั่นคือ การมีชีวิตในพระวาจาของพระองค์ ในคำสอน ในการเปิดเผย การเผยแสดงของพระองค์



วันพฤหัสบดีที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

มิสซาเปิดปีการศึกษา 2014

มิสซาเปิดปีการศึกษา 2014/2557
16 พฤษภาคม 2014/2557
โรงเรียนเซนต์โยเซฟ ท่าแร่

บทเทศน์

คุณพ่อ เซอร์อธิการ คณะเซอร์ คณะครูที่เคารพ และบรรดานักเรียนที่รัก วันนี้เป็นมิสซาเริ่มต้นปีการศึกษาใหม่ของเรา เราเริ่มต้นการเรียนการสอน การฝึกฝน การอบรมในปีการศึกษาใหม่ ด้วยการขอพรจากพระเจ้า ผู้ทรงสรรพานุภาพ ผู้ทรงเปี่ยมด้วยความรัก และความเมตตากรุณา พระองค์ทรงอยู่เคียงข้างเรา และคอยอวยพรชีวิตของเราเสมอ

การเริ่มต้นการเรียนการสอนในปีการศึกษาใหม่นี้ คุณพ่ออยากจะถามเราว่า เรายังศรัทธา หรือ ยังมั่นใจกับคำว่า “ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น” ไหม? หากเราคิดว่า ประโยคนี้ไม่มีความหมายแล้ว ประโยคนี้เชยแล้ว? ให้เราคิดใหม่ ทำใหม่ได้แล้ว เพราะว่า เมื่อเรามีความพยายามด้วยความเพียรอดทน ความสำเร็จก็จะมาอยู่กับเราอย่างแน่นอน

ตัวอย่างจากนิทานอีสป เรื่อง กากับเหยือกน้ำ กาลครั้งหนึ่ง วันหนึ่งในฤดูร้อนที่มีอากาศร้อนจัด พระอาทิตย์ได้ส่องแสงแผดเผาไปทั่วทุกแห่งหน น้ำในห้วย หนอง คลอง บึง แห้งผาก จนไม่มีน้ำเหลือติดอยู่เลย กาตัวหนึ่ง พยายามบินหาน้ำดื่มด้วยความหิวกระหาย จนกระทั่งมันบินมาถึงบ่อน้ำแห่งหนึ่ง และเห็นเหยือกน้ำขนาดใหญ่ใบหนึ่งตั้งอยู่ ที่ก้นของเหยือกน้ำใบนั้น มีน้ำขังอยู่ มันอยากจะกินน้ำในเหยือกน้ำใบนี้ให้ได้ แต่ไม่ว่าจะทำอย่างไร เจ้ากาก็ไม่สามารถที่จะเอาปาก ยื่นลงไปกินน้ำในเหยือกน้ำนั้นได้เสียที ด้วยความโมโหหิวน้ำ กาจึงคาบก้อนหินโยนใส่เหยือกน้ำ และสังเกตเห็นว่าน้ำในเหยือกเอ่อขึ้นมา ดังนั้นมันจึงพยายามคาบก้อนหินทีละก้อนใส่ในเหยือกน้ำ จนน้ำสูงขึ้นมาถึงปากคอเหยือก ด้วยเหตุนี้ กาตัวนั้นจึงได้กินน้ำจนอิ่ม

ดังนั้น   ในวันนี้ คุณพ่ออยากจะฝากให้เราวอนขอพระหรรษทาน พระพรจากพระเจ้า เพื่อเราจะได้มีความเพียรอดทน มีความพยายามที่จะทำให้เป้าหมายของเราสำเร็จไป หรือ บรรลุเป้าหมายที่เราได้ตั้งใจเอาไว้  เราจะต้องไม่ยอมแพ้ต่อความยากลำบาก เราจะต้องไม่ท้อแท้กับอุปสรรคที่จะเผชิญ หรือ จะพบเจอ เราจะต้องสู้ ด้วยความเพียร อดทน และพยายาม
พระวาจาของพระเจ้าในเช้าวันนี้ ในหนังสือกิจการอัครสาวก ซึ่งเป็นหนังสือที่บรรจุการกระทำ หรือ ภารกิจของบรรดาสาวกของพระเยซูเจ้าว่าทำอะไร พูดอะไร สอนอะไร เกี่ยวกับพระเยซูเจ้าบ้าง  วันนี้ หนังสือกิจการสอน และประกาศว่า พระเยซูเจ้าที่ถูกทรมาน ตรึงกางเขน ตายบนไม้กางเขน นั้น ได้กลับคืนพระชนมชีพแล้ว คือ มีชีวิตแล้ว พระองค์ตาย แต่พระองค์กลับเป็นขึ้นมา นี่คือ ชัยชนะเหนือความตาย เมื่อพระองค์กลับเป็นขึ้นมา มีชีวิต พระองค์ก็จะทำให้เรามีชีวิตในพระองค์ด้วยเช่นกัน

ตามธรรมชาติของชีวิต ก็คือ เกิด แก่ เจ็บ และตาย ไม่มีใครหนีพ้น  แต่สำหรับเราคริสตชน เกิด แก่ เจ็บ ตาย ก็จริง แต่ความจริงอีกก็คือ พื้นคืนชีพจากความตาย นี่คือ ความหวังของเรา

ในพระวรสาร พระเยซูเจ้าตรัสว่า เราเป็นหนทาง ความจริง และชีวิต ไม่มีใครไปหาพระบิดาได้นอกจากผ่านทางเรา

หนทาง ความจริง และชีวิต สำหรับนักเรียนมีความหมายอะไร?

หนทาง มีความเชื่อมสัมพันธ์กับ เป้าหมาย เช่น นักเรียนมีเป้าหมายอะไรในชีวิต  อาจจะอยากจะได้คะแนนสูง ๆ  คะแนนสูง ๆ คือ เป้าหมาย และเราจะไปถึงเป้าหมายได้ เราก็ต้องเดินไปตามหนทางที่จะได้คะแนนสูง ๆ นั่นคือ การอ่านหนังสือ  การท่อง การขีดการเขียน การไม่เที่ยว การไม่เล่นเกม  เมื่อเราเดินในเส้นทางนี้ เราย่อมบรรลุเป้าหมายของเราที่ตั้งไว้อย่างแน่นอน นั่นคือ เมื่อสอบ ก็จะได้คะแนนสูง ๆ

ความจริง มีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับความถูกต้อง ไม่ใช่ถูกใจ ความจริงกับความถูกต้อง จะต้องเป็นเอกลักษณ์ของเรา เราจะต้องอยู่ข้างความจริงเสมอ เมื่อเราอยู่ข้างความจริง เราก็จะเป็นอิสระ  เราจะหลุดพ้นจากการโกหก การพูดเท็จ การหลอกลวง การหน้าไหว้หลังหลอก   ครูบาอาจารย์สอน ก็ยอมรับ และรับความจริงนั้นมาในชีวิต

ชีวิต เราทุกคนอยากมีชีวิตที่ดีงาม อยากมีชีวิตที่สุขสบาย และการมีชีวิตแต่ละวันก็เป็นสิ่งที่สำคัญและเป็นสิ่งที่เราควรจะตระหนักเสมอ มีชีวิตเพื่อสะสมความดีงาม มีชีวิตเพื่อสร้างความดีในสังคม เราก็จะสบาย

สำหรับชีวิตคริสตชน


พระเยซูเจ้า ตรัสว่า “เราเป็นหนทาง ความจริง และชีวิต ไม่มีใครไปหาพระบิดาได้นอกจากผ่านทางเรา” แน่นอนว่า ชีวิตคริสตชนเป็นชีวิตที่เดินทางมุ่งไปสู่บ้านของพระเจ้า เราทุกคนถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้เป็นบุตรของพระเจ้า และเรามีเป้าหมายเดียวกันคือ กลับไปหาพระบิดาเจ้า เราจะไปทางไหน?  และเราจะไปได้อย่างไร?  เราจะไปทางไหน? ก็ไปตามหนทางที่พระเยซูเจ้าทรงสอน  เราจะไปได้อย่างไร? ก็ปฏิบัติตามคำสอนของพระองค์  “จงรักกันและกัน จงเมตตากรุณา จงให้อภัย จงรักแม้แต่ศัตรู และภาวนาให้แก่ผู้ที่เราเกลียดชัง”  ดังนี้ เราก็จะได้เข้าสู่เมืองสวรรค์ อันเป็นบ้านแท้นิรันดรของเรา

วันศุกร์ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

เข้าเงียบประจำปี 2014 (1 สาย)


"สมาธิ จิตภาวนา"


่ช่วงสาย สาย  09.00 น.

นอนสมาธิ กำหนดลมหายใจ













ช่วงบ่าย  ก็นั่งสมาธิ กำหนดลมหายใจ เข้า ออก








จากนั้น ก็ถามถึงสภาพจิตใจ






ตอนเย็น  18.00 น.  สวดสายประคำ
                               ที่ ป่าศักดิ์สิทธิ์







ตอนค่ำ  20.00 น.  พาไปเที่ยวลาว พม่า และไทย





เข้าเงียบประจำปี 2014 (1 เช้า)


บรรยากาศ 
เวลา 06.30 น. ที่ป่าศักดิ์สิทธิ์  บ้านสองคอน ดินแดนมรณสักขี

เริ่มต้นด้วยการภาวนา  ต่อด้วย การฝึกหายใจให้ถูกต้อง

ยืนตัวตรง  หายใจเข้า  ท้องป่อง   หายใจออกท้องแฟ้บ











หลังจากฝึกการหายใจ  ต่อด้วยการเดิน สมาธิ   เดินช้า ช้า เบา เบา  ไม่ให้เหงื่อออก










จากนั้น  หัวใจของวัน คือ พิธีบูชาขอบพระคุณ







"เมื่อเรารู้ว่า เราหายใจอยู่  ให้เรารู้จักขอบคุณพระเจ้า
ที่พระองค์ประทานชีวิตให้กับเรา"
                         
                                                                                                                  คพ.สมชัย  พิทยาพงศ์พร


เข้าเงียบประจำปี 2014



สามเณรฟาติมา ท่าแร่ เข้าเงียบฟื้นฟูจิตใจแบบจิตภาวนาสมาธิ 

โดย

คุณพ่อสมชัย  พิทยาพงศ์พร 

ที่สักการสถานพระมารดาแห่งมรณสักขี บ้านสองคอน
ระหว่าง วันที่ 7-11 พฤษภาคม  2014

จุดประสงค์ 
เพื่อสามเณรจะได้มีสมาธิในการดำเนินชีวิตประจำวัน
เพื่อสามเณรจะได้ฝึกฝนจิตให้ภาวนาประจำวัน






เย็นวันพุธ เปิดการเข้าเงียบจิตภาวนาสมาธิ











การเรียนรู้ที่จะหายใจ  พื้นฐานะ คือ นั่งหลังตรง   หายใจเข้า ท้องป่อง   หายใจออก   ท้องแฟ้ป...