BLOGGER TEMPLATES AND TWITTER BACKGROUNDS

วันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2557

สมโภชพระตรีเอกภาพ 2014


บทเทศน์


สมโภชพระตรีเอกภาพ
ข้อความเชื่อหลักของพระศาสนจักรคาทอลิก หรือ ของคริสตชน อีกประการหนึ่งที่สำคัญก็คือ ข้อความเชื่อเรื่องพระตรีเอกภาพ คือ สาม เป็น หนึ่ง หมายความว่า ความเชื่อของเรา เราเชื่อในพระเจ้าองค์เดียว พระเจ้าของเรามีองค์เดียว แต่มี 3 พระบุคคล ประกอบไปด้วย พระบิดา และพระบุตร และพระจิตเจ้า ทั้งสามพระบุคคลนี้เป็นหนึ่งเดียวกัน

            พระศาสนจักรสอนเราโดยผ่านทางคำสอนของนักบุญออกัสตินอธิบายว่า เพื่อที่เราจะเข้าใจพระตรีเอกภาพ ให้เราคิดถึง เรื่องความรัก.. โดยนักบุญอธิบายว่า ความรักจะสมบูรณ์ ย่อม ประกอบไปด้วย ผู้ที่รัก ก็คือ คนที่ริเริ่มรัก  ส่วนที่สองคือ ผู้ที่ถูกรัก คือคนที่เป็นเป้าหมายของเรา และส่วนที่สามคือ การแสดงออกของความรัก หมายความว่า เมื่อคนหนึ่งมีความรักก็ย่อมแสดงออก เช่น คริสตชนรักพระเจ้า คริสตชนก็ต้องแสดงออกถึงความรักต่อพระเจ้า คือ มาวัดมาวา สวดภาวนา หรือ พี่น้องรักกันก็ต้องแสดงออกถึงความรักนั้น แม้แต่ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว เราก็แสดงออกถึงความรักด้วยการภาวนาให้เขา ขอมิสซาให้เขา เป็นต้น

          ในพระคัมภีร์สอนอะไรแก่เราบ้างเรื่องพระตรีเอกภาพ

1.    มีพระเจ้าองค์เดียว
2.    พระตรีเอกภาพประกอบไปด้วยสามพระบุคคล
3.    แต่ละพระบุคคลแยกจากกัน
4.    แต่ละพระบุคคลเป็นพระเจ้า
5.    การสืบเนื่องมาจากกันและกัน
6.    ทั้งสามพระบุคคลมีงานที่แตกต่างกัน

            นี่คือ คำอธิบายถึงพระตรีเอกภาพในภาษาของมนุษย์ และจากการเปิดเผยในพระคัมภีร์ที่สามารถทำให้เราเข้าใจได้ แต่ในธรรมชาติที่แท้จริงของพระเจ้า เราไม่สามารถเข้าใจได้ทั้งหมดแน่นอน แต่ก็ไม่ใช่ว่า เราจะไม่สามารถเข้าใจอะไรเลย การทำความเข้าใจว่า พระเจ้าของเรา เป็นพระเจ้าเดียว แต่เป็นสามพระบุคคล ทำให้เรามั่นใจว่า พระองค์ประทับอยู่ในชีวิตของเราเสมอ

          พระตรีเอกภาพในชีวิตคริสตชน? ทุกครั้งที่เราทำสำคัญมหากางเขนที่หน้าผาก ที่อก และไหล่ทั้งสองข้าง ก็เป็นการยืนยันถึงความเชื่อในพระตรีเอกภาพ ทุกครั้งที่เราทำสำคัญมหากางเขนก็เป็นการแสดงออกถึงความสุภาพถ่อมตนของเราที่ยอมรับการปกป้องคุ้มจากพระเจ้า พระบิดา พระบุตร พระจิตเจ้า

            เราเคยไหม? ทำสำคัญมหากางเขนเมื่อตื่นนอน เมื่อทำงาน เมื่อขับรถ เมื่อทานข้าว เมื่อจบงาน เมื่อเข้านอน เมื่อออกกำลังกาย ทั้งต่อหน้าคนอื่น และลับตาคน   พี่น้อง..ความเชื่อของเราแสดงออกผ่านทางการทำสำคัญมหากางเขนนี่แหละ

การตอบรับต่อความรักของพระบิดาเจ้า
พระบิดาเจ้าทรงสร้างทุกสิ่งรวมทั้งมนุษย์ทุกคนด้วยความรัก พระองค์เอาพระทัยใส่อย่างดีต่อทุกสิ่งและต่อทุกคน เราเองก็ต้องดูแลสิ่งสร้างของพระเจ้าด้วยความใจใส่เช่นเดียวกัน แม้กับเพื่อนบ้าน บุคคลรอบข้างด้วยความเคารพและให้เกียรติกันด้วย เราอยู่ในโลกนี้ เหมือนกับเราเป็นผู้ดูแลทรัพย์สมบัติของพระบิดาเจ้าที่ทรงฝากเราไว้ ไม่ว่าอะไรก็ตามเป็นของของพระเจ้า เราเป็นเพียงผู้ที่ดูแล และทำให้เกิดผลเท่านั้น

การตอบสนองต่อการเป็นคนกลางของพระบุตร
พระเยซูเจ้าสอนเราและชี้นำเราให้หนทางแก่เราเพื่อให้เราเป็นที่โปรดปรานของพระบิดาเจ้า ผ่านทางคำสอน พระวาจาของพระองค์ ให้เราร่วมมือกับพระองค์ และเดินตามเส้นทางที่พระองค์ทรงเปิดเผย นั่นคือ ให้เรารักกันและกัน ให้เราให้อภัยแก่กันและกัน และภาวนาให้แก่กันและกัน

เนื่องมาจากคำสัญญาของพระจิตเจ้า
เราจะต้องปล่อยให้พระจิตเจ้านำทางชีวิตของเรา โดยยึดความจริง ความถูกต้อง เป็นหลักในการดำเนินชีวิต และเราจะต้องฟังเสียงของพระองค์ที่ตรัสกับเราผ่านทางมโนธรรมที่ถูกต้องของเรา

แนวปฏิบัติ

จุดหลักและจุดเด่น และเอกลักษณ์ของพระตรีเอกภาพ คือ ความสัมพันธ์และความเป็นหนึ่งเดียวกัน แม้จะแตกต่างกัน แต่พระองค์ไม่แตกแยกกัน เป็นหนึ่งเดียวกันเสมอ เราจะเห็นได้จากชีวิตของพระเยซูเจ้า ที่พระองค์ทรงเป็นหนึ่งเดียวกับพระบิดาเสมอ แม้ในยามที่ยากลำบากที่สุด พระองค์ทรงไม่สูญเสียความสัมพันธ์หรือความเป็นหนึ่งเดียวกันเลย แม้ต่อหน้าความตาย ที่สวนเกตเสมนี หรือ บนไม้กางเขน พระองค์ยังคงไว้ในความเป็นหนึ่งเดียวกันตลอดเวลา ไม่ว่าพระเยซูเจ้าจะทำอะไร พระองค์ก็ระลึกถึงพระบิดาเสมอ และพระจิตเจ้าก็นำทางชีวิตของพระองค์เสมอ


จุดเด่นและจุดที่เป็นเอกลักษณ์ของคริสตชนก็คือ ความเป็นหนึ่งเดียวกัน ทั้งกับพระเจ้า และกับเพื่อนมนุษย์ นี่คือ จุดเด่นของเรา เราจะต้องสร้างให้เป็นจริงในชีวิตของเราเสมอ โดยการแสดงออกมาทาง ความซื่อสัตย์ต่อกันและกัน และความจริงใจต่อกันและกัน ซื่อสัตย์ต่อคนในครอบครัวของเรา จริงใจต่อคนที่เราพบปะด้วยเสมอ




วันเสาร์ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2557

13 มิถุนายน 2014 แห่แม่พระ


ทุกวันที่ 13 ของเดือน
บ้านเณรจัดให้มีมิสซาและแห่พระรูปแม่พระแห่งฟาติมา
โดยการริเริ่มของพระอัครสังฆราชหลุยส์จำเนียร  สันติสุขนิรันดร์

การเตรียมงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เว้นแต่ว่าต้องลุ้นว่า ฝนจะตกหรือไม่?
สุดท้ายแล้ว ฝนก็ไม่ตกลงมา
แต่เมื่อมิสซา และแห่แม่พระเสร็จเรียบร้อยแล้ว..ฝนก็เทลงมาจากฟ้า
ขอบคุณพระแม่ ที่ฟังคำเสนอวิงวอนของลูก ๆ

อาเว มารีอา

บรรยากาศทั่วไป






























เรามีแม่คนเดียวกัน
คือ
พระแม่แห่งฟาติมา



วันอาทิตย์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2557

สมโภชพระจิตเจ้า 2014





สมโภชพระจิตเจ้า

วันเปนเตกอสเต หรือ วันพระจิตเจ้าเสด็จลงมา เป็นวันเริ่มต้นชีวิตใหม่ของพระศาสนจักร เป็นวันเปิดตัวของพระศาสนจักรออกไปสู่โลก เป็นวันที่มีการเปลี่ยนแปลงสภาพใหม่ คือ แต่เดิมพระเยซูเจ้าทรงอยู่เคียงข้างบรรดาศิษย์ สอน บอกเตือน ชี้หนทาง วันนี้ เป็นเหมือนกับการเปลี่ยนมือ โดยองค์พระจิตเจ้า หรือ องค์พระผู้บรรเทา หรือ องค์แห่งความจริง จะเป็นผู้ที่อยู่ในตัวของเรา พระองค์จะนำทางชีวิตของเรา จะทำให้เราเข้าใจคำสอนที่แท้จริงของพระเยซูเจ้า

ในบทอ่านที่ 1 เราเห็นสภาพของบรรดาศิษย์ที่ไม่มีพระเยซูเจ้า คือ อ่อนแอ หวาดกลัว ท้อแท้ และหมดหวัง ไม่มีกำลังใจที่จะลุกขึ้น เหมือนกับคนป่วย ไม่อยากจะทำอะไรทั้งนั้น แต่เมื่อพระจิตเจ้าเสด็จลงมาเหนือเขา จากสภาพดังกล่าวที่หวาดกลัวและอ่อนแอ กลายเป็นความกล้าหาญ อาจหาญ เปี่ยมด้วยพลัง  กล้าที่จะพูด ที่จะทำ โดยอาศัยพลังและการนำของพระจิตเจ้า

พวกเขาเปิดใจของตนเองออก เพื่อต้อนรับพระจิตเจ้า ปล่อยให้พระองค์ทำงานในตัวของเขา แล้วพระจิตเจ้านำพวกเขาไปสู่ความจริงของพระองค์
ในพระวรสาร พระเยซูเจ้าได้ประทานพระจิตเจ้า พระองค์ให้อำนาจแก่เขา  คือ การให้อภัยบาป พระจิตเจ้าจะนำเราไปสู่การคืนดีกันกับพระเจ้า พระเยซูเจ้ามาในโลกนี้ ก็เพื่อ ทำให้มนุษย์คืนดีกับพระเจ้า ก็โดยวิธีการให้อภัยบาป และการให้อภัยบาปนี้เองที่ทำให้มนุษย์กลับไปหาพระเจ้า

ศิษย์ของพระเยซูเจ้าทุกคนได้รับมอบอำนาจนี้ คือ การให้อภัยบาป เป็นการมองและกระทำต่อคนอื่นด้วยสายตาของพระเจ้า การให้อภัยบาป เป็นการสะท้อนคำสอนของพระเยซูเจ้าในเรื่องของ “ความรัก” ที่พระองค์ทรงสอนว่าพระเจ้าทรงรักเรา และพร้อมที่จะให้อภัยเราทุกอย่าง และเราก็ต้องพร้อมที่จะให้อภัยต่อความผิดของพี่น้องทุกคนด้วยเช่นเดียวกัน

ทำไมต้องให้อภัยความผิดแก่คนอื่น? นักบุญเปาโล ได้เขียนในจดหมายว่า เพราะเราแต่ละคนต่างก็มีส่วนหนึ่งของพระคริสตเจ้า เราเป็นอวัยวะในร่างกายเดียวกัน เราเป็นพี่น้องกัน

นี่คือสิ่งที่สำคัญ

วันนี้เป็นวันเริ่มต้นของพระศาสนจักรที่จะต้องออกไปสู่โลก บรรดาศิษย์ต่างตอบรับการเรียกและการเชื้อเชิญของพระเยซูเจ้าให้ทำภารกิจของพระองค์ โดยอาศัยการนำของพระจิตเจ้า พวกเขาไป “ด้วยความกล้าหาญ เด็ดเดี่ยว ไม่เหลียวหลัง”

สามเณรใหม่.. วันนี้ เป็นวันเริ่มต้นของเรา เป็นวันที่เราตอบรับต่อเสียงเรียกของพระเจ้า ตอบรับต่อการเชื้อเชิญของพระเยซูเจ้า ให้เรามาเป็นศิษย์ติดตามพระองค์  แน่นอนว่า เราต้องตั้งใจ ตัดสินใจ และตอบรับต่อพระเจ้า “ด้วยความกล้าหาญ เด็ดเดี่ยว ไม่เหลียวหลัง” เพื่อที่จะฝึกฝนตนเอง ให้พร้อมที่จะออกไปทำภารกิจแห่งการให้อภัย ภารกิจที่พระจิตเจ้าจะนำเราไปในอนาคต แต่เวลานี้ ให้เราพร้อมที่จะฝึกฝนตนเอง





วันพฤหัสบดีที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2557

บทเทศน์มิสซาปลงศพป้าลูซีอาวิไล นามน

วัน พฤหัสบดี ที่ 5 มิถุนายน 2014
ที่วัดนักบุญเปาโล กลับใจ บ้านนามน
เวลา 14.00 น.





บทเทศน์
                                                                                                                                            ยน 17:20-26


พี่น้องที่เคารพรัก บ่ายวันนี้อยากจะเชิญชวนพวกเราที่ชุมนุมกัน ณ ที่นี้ ไม่ว่าจะเป็นพุทธศาสนิกชน หรือคริสตชน ร่วมภาวนาเป็นน้ำหนึ่งในเดียวกัน เพื่ออุทิศให้กับคุณยายลูซีอา วิไล  ซาหลาบคำ ผู้ล่วงลับ ซึ่งพระเจ้าได้ทรงเรียกเขาให้กลับไปหาพระองค์ เราภาวนาเพื่อเขาจะได้อยู่ในอ้อมพระหัตถ์ของพระเจ้า เราภาวนาเพื่อขอพระเมตตาจากพระเจ้า เราภาวนาเพื่อเราจะได้เป็นหนึ่งเดียวกันในพระองค์ด้วย
พี่น้องตลอด 7 สัปดาห์ด้วยกันที่เราอยู่ในบรรยากาศของการกลับคืนพระชนมชีพของพระเยซูคริสตเจ้า และในสัปดาห์นี้ เราอยู่ในบรรยากาศของการจะจากไปของพระเยซูเจ้า แน่นอนว่า เมื่อพระองค์กลับคืนพระชนมชีพ พระองค์ก็จะเสด็จสู่สวรรค์ประทับเบื้องขาวพระบิดา และในวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้ เราก็จะทำการสมโภชพระจิตเจ้า องค์พระผู้ช่วยเหลือ องค์พระผู้บรรเทา ซึ่งจะเสด็จลงมาอยู่กับเรา
ในวันนี้ พระวรสาร ผมได้เลือกพระวรสารประจำวัน ซึ่งเป็นพระศาสนจักรได้จัดวางไว้ เพื่อเป็นเสมือนโอวาท หรือ คำสั่งเสียของพระเยซูเจ้าที่พระองค์ตรัสกับบรรดาศิษย์ของพระองค์  พระวาจาตอนนี้ เป็นคำอธิษฐานภาวนาของพระเยซูเจ้าต่อพระบิดาเจ้า เหมือนกับว่า พระองค์กำลังจะจากไป สิ่งที่พระองค์ต้องการให้เกิดขึ้นกับบรรดาศิษย์ของพระองค์ คือ ความเป็นหนึ่งเดียวกันในระหว่างพวกเขา พระองค์จึงภาวนาเพื่อให้พวกเขาเป็นหนึ่งเดียวกัน เหมือนกับที่พระองค์กับพระบิดาเป็นหนึ่งเดียวกัน
ความแตกแยก ที่มาจากความแตกต่าง หรือมาจากเอกลักษณ์ที่แต่ละคนมีนั้น อาจจะทำให้เกิดความขัดแย้งกันได้ เพราะมนุษย์แต่ละคนก็มีเอกลักษณ์ มีนิสัย มีความคิด มีอิสรภาพ มีอำเภอใจ มีเสรีภาพที่จะทำ ที่จะคิด  แม้จะเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน คนในหมู่บ้านเดียวกัน ในสังคม ในประเทศ หรือศาสนาเดียวกัน ก็อาจจะเกิดความขัดแย้งกันได้ พระเยซูเจ้าจึงเป็นห่วง และภาวนาให้พวกเขาเป็นหนึ่งเดียวกัน พระเยซูเจ้าวอนขอพระบิดาโปรดทำให้บรรดาศิษย์ของพระองค์เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
นี่คือ หัวจิตหัวใจของพระเยซูเจ้า หัวใจของผู้เป็นอาจารย์ หัวใจของผู้ที่รักบรรดาศิษย์ของพระองค์ อยากให้เขาเป็นหนึ่งเดียวกัน แม้ว่าพระองค์จะไม่อยู่ ก็อยากจะให้เขาเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
ผมก็มั่นใจว่า เราทุกคนที่เป็นพ่อแม่ หรือ ปู่ย่าตายาย ก็อยากจะเห็นลูกหลาน คนในครอบครัวเป็นน้ำหนึ่งในเดียวกันอย่างแน่นอน ทุกคนก็อยากจะเห็นลูก ๆ หลาน ๆ เป็นปึกเป็นแผ่น รักใคร่และปรองดองซึ่งกันและกัน อย่างแน่นอน
ป้าไล ป้าใหญ่ ก็คงจะมีความคิด และรู้สึกเหมือนกัน อยากให้ลูกหลานเป็นหนึ่งเดียวกัน
พี่น้องที่เคารพรัก วันนี้เรามาร่วม เพื่อภาวนาสำหรับญาติพี่น้องของเราที่ล่วงลับ ความตาย สำหรับเราคริสตชนเป็นเหมือนทางผ่าน ที่ไม่ค่อยมีใครอยากจะข้ามผ่าน คนที่แข็งแรง มีสุขภาพดี ก็ไม่อยากจะผ่าน แม้จะรู้ว่า มีชีวิตที่สมบูรณ์แบบ มีชีวิตที่ดีงาม สวยงาม รอเราอยู่ หลังความตาย คือ ชีวิตนิรันดรกับพระเจ้า คือ บ้านแท้ของเรา แต่เราก็ยังไม่อยากตาย เราทุกคนมีความกลัว ตามประสามนุษย์ แต่สำหรับเราคริสตชน เรากล้าที่จะเผชิญความตายด้วยความชื่นชมยินดี เรากล้าเผชิญกับความตายด้วยความหวัง 
ป้าไล ก็เป็นคนหนึ่งที่กล้าเผชิญหน้ากับความตายด้วยความเข้มแข็ง และไม่กลัวตาย เวลามาเยี่ยมป้าจะบอกเสมอว่า “พร้อมแล้ว ป่านได๋พระ จะยกไป” จนลูก หลาน ต้องพูดว่า ให้เข้มแข็ง อย่าเพิ่งไปเด้อ ให้อยู่กับลูกกับหลาน เป็นร่มโพธิ์ร่มไทร ให้ลูกให้หลานไปนาน ๆ ก่อน
เป็นไปได้หรือว่า เพราะความเจ็บป่วยทำให้เราคิดถึงความตาย เพราะความเจ็บปวดทำให้เราอยากตาย เพราะความเจ็บปวดจึงไม่อยากเห็นลูกหลานลำบาก 
แต่สิ่งที่เป็นพลังสำหรับคนคนหนึ่งที่กล้าบอกว่า “ขอพระเจ้ายกตนไปเถิด”  พลังนี้ มาจากความเชื่อล้วน ๆ  เพราะมีความเชื่อในพระเจ้า เราจึงมั่นใจว่า เมื่อเราตายไปแล้ว เราจะไปอยู่กับพระองค์ เพราะความเชื่อล้วน ๆ ทำให้เราหวังว่า เมื่อตายเราจะอยู่กับพระเจ้าผู้ทรงรักเรา เราจะอยู่ในบ้านแท้นิรันดรของเรา
เมื่อญาติพี่น้องของเราตาย สิ่งที่ท่านทิ้งไว้ให้เรา หลายครั้งเรามองที่ คุณงามความดีของท่านที่ได้ทำ นั่นก็เป็นสิ่งที่ถูกต้อง แต่สำหรับคริสตชน มีสิ่งที่เหนือกว่าความดี ก็คือ ความเชื่อ ความวางใจและความรักของพระเจ้า
ความดี เป็นสิ่งธรรมดา พื้นฐานของชีวิต เหมือนกับเราหายใจ ถ้าเราไม่หายใจ เราก็ตาย ความดี ถ้าเราไม่กระทำ เราก็ตายด้วยเช่นเดียวกัน คริสตชนหลายคนมองคุณค่าของชีวิตตนเองมีแค่การเป็นคนดี การทำหน้าที่ของเองอย่างดี ซึ่งความคิดนี้ เป็นเรื่องผิวเผิน และธรรมดามาก  หากคิดแค่นี้ เราก็ไม่แตกต่างจากมีชีวิตอื่น หรือ คนอื่น  ผมก็ไม่ได้ทำผิดต่อใคร ไม่ได้ลักเล็กขโมยน้อย ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน ก็เป็นคนดี  แต่สำหรับคุณค่าชีวิตของคริสตชนคนหนึ่ง คือ การมีความเชื่อ มีความศรัทธาต่อพระเจ้า เข้าวัดเข้าวา สวดภาวนา ฟังพระเทศน์สอนเตือนจิตเตือนใจ ขัดเขลาจิตใจ ยกจิตใจให้สูงขึ้น ให้พลังแห่งความเชื่อ ความศรัทธาต่อพระเจ้าผลักดันเราให้กระทำในสิ่งที่ดีงาม ทำดีมิใช่เพื่อตนเอง แต่ทำดีเพราะพระเจ้าทรงรักเรา
ป้าไล ก็เป็นคนคริสตชนคนหนึ่ง ที่สั่งสม หล่อหลอม และไม่ทิ้งความเชื่อในพระเจ้า แม้จะมีความยากลำบาก แม้จะมีความทุกข์ แม้จะได้รับความทรมานจากการเจ็บปวด แต่ป้าก็สู้ทน อดทน ไม่ใช่เพราะต้องการเป็นคนดี แต่เพราะป้ามีความเชื่อมีความศรัทธาต่อพระเจ้า ถ้าเป็นคนดี แต่ไม่มีความเชื่อ คงจะด่าพระเจ้าไปแล้ว คงจะทิ้งศาสนาไปแล้ว เพราะเป็นคนดีแล้วทำไมต้องเจอความทุกข์  แต่เพราะป้ามีความเชื่อ มีความศรัทธาต่อพระเจ้า จึงน้อมรับและสู้ ด้วยการภาวนา สู้ด้วยการสวดสายประคำ เพราะพระเยซูเจ้าสอนเราไม่ให้หลีก หรือเลี่ยงจากความทุกข์ แต่พระองค์สอนเราให้อยู่กับความทุกข์พร้อมกับพระองค์
ตัวอย่างของความเชื่อของ แม่ ยาย ป้า เป็นสิ่งที่อยู่เหนือความดีทุกอย่าง ที่ลูกหลานควรจะดำเนินชีวิต และควรที่จะถ่ายทอดต่อ ๆ กันไป ว่า แม่ของเราเป็นผู้มีความเชื่อที่เข้มแข็ง แม่ของเราเป็นผู้ที่ไม่ทิ้งพระเจ้า
เพราะฉะนั้น ในโลกนี้ คริสตชนอยู่ในโลก แต่ไม่เป็นของโลก ไม่รับค่านิยมของโลกแทนค่านิยมแห่งพระวรสารของพระเจ้า ในโลกนี้ คริสตชนมีหน้าที่ที่ต้องตระหนัก คือ การรักษาความเชื่อ การพัฒนาความเชื่อ การฝึกฝนความเชื่อ การตอบรับความเชื่อต่อพระเจ้า ให้มั่นคง ให้เข้มแข็ง ให้หยั่งรากลึกในจิตใจ วิญญาณของเรา เราอยู่ในโลกนี้ ไม่ใช่เฝ้าแต่จะทำความดี โดยทิ้งความเชื่อ นี่เป็นความคิดที่ผิด แต่ความคิดที่ถูกต้องคือ การเฝ้าระวัง รักษาความเชื่อให้มั่นคง สิ่งที่เป็นผลของความเชื่อ คือ กิจการที่ดีงามต่าง ๆ ที่เราทำนั่นเอง






ขอพระเจ้าประทานการพักผ่อนตลอดนิรันดรแก่ท่านเทอญ
ป้าลูซีอาวิไล  ซาหลาบคำ

วันพุธที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2557

ครบรอบบวช 9 ปี


วัน พุธ ที่ 4 มิถุนายน  2014

ชีวิต ณ บ้านเณร 

บ้านแห่งพระพร สันติสุข และความรัก



















ขอบคุณพระเจ้าเสมอ
ขอบคุณสำหรับกระแสเรียก
ขอบคุณที่ทรงดูแล
ขอบคุณพระองค์ พระเจ้าของข้าพเจ้า



วันอังคารที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2557

ครบรอบบวช 9 ปี

วันพุธ ที่ 4 มิถุนาย 2014
เป็นวันครบรอบบวชเป็นพระสงฆ์ 9 ปี (4 มิ.ย.2005)

ประมวลภาพวันบวช

ขอบคุณพระเจ้า










ความรักของพระเจ้ามีมายมายและไม่เคยขาดสาย