BLOGGER TEMPLATES AND TWITTER BACKGROUNDS

วันศุกร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ฉลองพระคุณเจ้าหลุยส์ จำเนียร สันติสุขนิรันดร์ 2014

บรรยากาศ แห่งครอบครับสงฆ์
พ่อและลูก ๆ

ความสุข และความรักแบบครอบครัวเล็ก ๆ น้อย ๆ

สงฆ์หนุ่มแห่งท่าแร่ ได้รวมตัวกันมาขอพรและขอบคุณ พร้อมรับฟังโอวาท
เนื่องในโอกาสฉลองศาสนนามพระคุณเจ้าหลุยส์ จำเนียร  สันติสุขนิรันดร์
ที่สำนักมิสซัง ท่าแร่





บรรยากาศระหว่างการพบปะกับพระคุณเจ้า








ยิ่งมีสงฆ์หนุ่มมาก 
ความห่วงใยของพระสังฆราช ก็ยิ่งมีมาก

ที่สำคัญ "อย่ากลัวเลย"



โอกาสพิเศษ พระคุณเจ้าได้อวยพร
และให้ของขวัญ คนละ 1 กั๊ก




และร่วมกันขับบทเพลง Happy Feast Day





บรรยากาศของครอบครัวสงฆ์ท่าแร่





Salute a te!





นักบุญหลุยส์ ช่วยวิงวอนเทอญ




วันพฤหัสบดีที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2557

สมโภชแม่พระรับเกียรติยกขึ้นสวรรค์ทั้งกายและวิญญาณ


ที่มาของภาพ พิพิธภัณฑ์วาติกัน
โดย Don Tommaso

บทเทศน์

คุณพ่อทั้งสอง เซอร์อธิการ คณะเซอร์ คณะครูที่เคารพ และลูก ๆ ที่น่ารักทุกคน วันนี้เราพากันมาร่วมจิตร่วมใจกัน เพื่อทำการสมโภช หรือฉลองใหญ่วันหนึ่ง นั่นคือ การสมโภชพระนางมารีย์ได้รับเกียรติยกขึ้นสวรรค์ทั้งร่างกายและวิญญาณ หรือ สมโภชแม่พระขึ้นสวรรค์ทั้งกายและวิญญาณ นั่นเอง
วันนี้ ให้เราร่วมใจกันผ่านทางคำเสนอวิงวอนของแม่พระ เพื่อขอพระเจ้าได้อวยพระพรมายังเราทุกคนที่อยู่ที่นี่ มายังพ่อแม่ของเรา ทั้งบุคคลที่เรารักด้วย โดยเฉพาะแม่ของเรา เดือนนี้ ถือว่าเป็นเดือนของผู้เป็นแม่ ให้เราภาวนาเพื่อท่านเป็นพิเศษด้วย
ในบทอ่านที่ 1 เราได้เห็นเครื่องหมาย 2 ประการ  สตรีคนหนึ่ง และมังกรใหญ่สีแดง เกิดอะไรขึ้น สตรีกำลังจะคลอดบุตร และมังกรใหญ่สีแดงก็อยากจะกินเด็กที่เกิดมา แต่ก็กินไม่ได้ เพราะเด็กที่เกิดมาถูกนำตัวไปหาพระเจ้า หมายถึงอะไร
สตรีผู้สง่างาม ยิ่งใหญ่ มีดวงจันทร์ ดวงอาทิตย์ สวยสดงดงามกว่าหญิงใดใด ก็คือ แม่พระ แม่พระเต็มเปี่ยมไปด้วยพระสิริรุ่งโรจน์ของพระเจ้า และบุตรของแม่พระ ก็คือ พระเยซูเจ้า
 “มังกรใหญ่สีแดง” มีเจ็ดหัว สิบเขา หมายถึง ปีศาจ มันจ้องจะกินเด็ก และจ้องจะกินพวกเราด้วย มันจะทำลายความงดงามของแม่พระ จะทำลายบุตรที่จะเกิดมา และจะทำลายเราทุกคนด้วย เรามนุษย์ไม่สามารถที่จะเอาชนะมันได้ เพราะมันจ้องจะกินเราตลอดเวลา ถ้าเราเผลอ  เราก็จะถูกกลืนอย่างแน่นอน
ปีศาจมันจะกินตรงไหนของเรา รู้ไหม? มันจะกินตรงหัวใจของเราแต่ละคน เหมือนกับมันจ้องกินเด็กที่จะเกิดมาจากสตรีผู้นั้น เพราะเด็กคนนี้เป็นเหมือนหัวใจของผู้เป็นแม่  คนที่ถูกปีศาจกินหัวใจก็คือ เกลียดชังคนอื่น  เคียดแค้นอาฆาตพยาบาท ไม่รู้จักให้อภัย ไม่ประนีประนอม ไม่มีความยุติธรรม  คนที่ใจแข็งกระด้าง ไม่เชื่อฟังพ่อแม่ ครูบาอาจารย์ อีกทั้งคนที่ไม่สนใจเข้าวัดเข้าวา ไม่สนใจที่จะสวดภาวนา วัดพุทธ ก็ไม่ไป วัดคริสต์ก็ไม่สนใจ  คนเหล่านี้ หัวใจกำลังถูกปีศาจกิน..
แต่สุดท้าย ผู้ที่สามารถเอาชนะปีศาจได้ ก็คือ คนที่อยู่ใกล้ชิดกับพระเจ้า คนที่อยู่ฝ่ายพระเจ้า หรือ คนที่ปฏิบัติตามคำสอนของพระเจ้า นั่นเอง
ในพระวรสาร แม่พระเป็นแบบอย่างแก่เราโดยเฉพาะในเรื่องของการรับใช้ผู้อื่น หลังจากได้รับข่าวว่า นางเอลีซาเบธตั้งครรภ์ทั้งๆ ที่ชราแล้ว แม่พระก็ไปหาทันที เพื่อรับใช้ เพื่อให้ความช่วยเหลือ ด้วยหัวใจอิสระ และเต็มใจ นี่คือ คนที่อยู่ฝ่ายพระเจ้า อยู่ใกล้ชิดพระเจ้า ไม่ใช่แค่จากการสวดภาวนา แต่อยู่ในการรับใช้กันและกันด้วย
อยากให้เราเลียนแบบชีวิตของแม่พระด้วย โดยเฉพาะในเรื่อง การรับใช้ซึ่งกันและกัน พระเยซูเจ้าสอนเราว่า ผู้ใดอยากเป็นใหญ่ต้องรับใช้คนอื่น แม่พระรับใช้นางเอลีซาเบธ  ครูบาอาจารย์ รับใช้บรรดานักเรียน เฝ้าบอกเตือนสอน ชี้แนะนำ ให้กำลังใจ  แม่ของเรา ก็รับใช้เรา หาเงินหาทอง เลี้ยงดู ให้ความรัก ปกป้อง ดูแลเรา นี่คือ ผู้ที่ยิ่งใหญ่ เป็นหัวใจที่ยิ่งใหญ่
พระศาสจักรทำการสมโภชแม่พระรับเกียรติยกขึ้นสวรรค์ในวันนี้ เป็นเหมือนกับภาพของความหวังและกำลังใจสำหรับเราทุกคนด้วยว่า สักวันหนึ่งเราจะเข้าสู่เมืองสวรรค์เหมือนกับแม่พระอย่างแน่นอน เมื่อเราผ่านหนทางแห่งการรับใช้ เมื่อเราผ่านหนทางแห่งกางเขน ความทุกข์ยากลำบากในชีวิต ผ่านด้วยความอดทน เพียรทน สวรรค์จะเป็นของเราอย่างแน่นอน เหมือนกับบรรดานักเรียน เมื่อผ่านการเรียนอย่างหนัก ผ่านการท่องอย่างหนัก แน่นอนว่า เราก็จะได้รับความรู้และจดจำในหลายๆ สิ่งแน่นอน ขอให้แบบอย่างของแม่พระเป็นกำลังใจให้กับเราทุกคน
และอีกประการหนึ่งก็คือ การที่แม่พระรับยกขึ้นสวรรค์นี้ แสดงให้เห็นว่า โลกนี้ไม่ใช่บ้านแท้นิรันดรของเรา บ้านที่แท้จริงของเราก็คือ สวรรค์ คนที่ทำความดีก็จะได้รับเมืองสวรรค์อย่างแน่นอน ให้เราหมั่นสร้าง ทำความดีเข้าไว้ ทำดีตามบทบาทหน้าที่สถานะของตนเอง
สุดท้าย เดือนนี้ตลอดทั้งเดือน อยากจะให้เราคิดถึงพระคุณของแม่ เป็นพิเศษ อยากจะให้เราทุกคนตั้งใจว่า เราจะเชื่อฟัง จะรัก และจะให้เกียรติ สำหรับแม่ผู้ให้กำเนิดเรา ให้เราตั้งใจด้วยความอดทน เพียรทนว่า เราจะเป็นลูกที่ดีของแม่ เราจะไม่ทำให้แม่เสียใจ



วันเสาร์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2557

อาทิตย์ สัปดาห์ 19 ธรรมดา A

บทเทศน์


พี่น้องที่เคารพรัก วันนี้เราพากันมาร่วมกันเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในการเฉลิมฉลองการกลับคืนพระชนมชีพของพระเยซูคริสตเจ้า ให้เรามอบชีวิต กิจการงาน ความกังวลใจต่าง ๆ ในการดำเนินชีวิตไว้กับพระองค์ ให้วอนขอความเชื่อ ความกล้าหาญที่จะดำเนินชีวิตในหนทางของพระองค์เสมอ

วันนี้พระวาจาของพระเจ้าตรัสอะไรกับเรา

ในบทอ่านที่หนึ่ง เราได้เห็น “การเสด็จมาขององค์พระผู้เป็นเจ้าต่อหน้าประกาศกของพระองค์ คือ อิสยาห์”  ก่อนที่หน้านี้ ประกาศกอิสยาห์ได้ถูกตามล่าจากกษัตริย์อาหับและพระนางเยเซเบล เพราะประกาศกอิสยาห์ได้สั่งให้ฆ่าพระที่นับถือพระบาบัลทั้งหมด ทำให้พระนางเยเซเบลไม่พอพระทัย จึงสั่งคนตามล่า ประกาศกจึงหนีไปยังถิ่นทุรกันดาร ท่านมีความรู้สึกอยากจะตาย เพราะทำดีเพื่อประชาชน แต่ก็ถูกตามล่า  พระเจ้าได้ส่งทูตสวรรค์มาเลี้ยงดูท่าน นำอาหาร น้ำมาให้ท่าน ทำให้ท่านมีแรง เดินทางมาถึงภูเขาของพระเจ้า คือ ภูเขาโฮเรบ และที่นี่  ประกาศกอิสยาห์สัมผัสถึงการประทับอยู่ของพระเจ้า ผ่านทางเสียงกระซิบเบา ๆ ไม่ใช่จากพายุแรงกล้า ความรุนแรง หรือแผ่นดินไหว หรือไฟที่ลุกเผาผลาญ

การที่ประกาศกได้สัมผัสถึงการประทับอยู่ของพระเจ้าในชีวิต ทำให้ท่านมีความกล้าหาญที่จะกลับไปเผชิญหน้ากับกษัตริย์ เผชิญหน้ากับสิ่งที่เกิดขึ้น ท่านลงจากภูเขาและทำหน้าที่ของตนเอง

ในพระวรสาร นักบุญมัทธิวได้เล่าถึงชีวิตของพระเยซูเจ้า หลังจากที่ทวีขนมปังเลี้ยงคนแล้ว พระองค์ทรงบอกให้ศิษย์ล่วงหน้าไปก่อน ส่วนพระองค์ทรงส่งประชาชน และพระองค์ก็ เสด็จขึ้นไปบนภูเขา เพื่ออธิษฐานภาวนา ตามลำพัง พี่น้องจะสังเกตเห็นว่า พระเยซูเจ้าทรงภาวนาเสมอ พระเยซูเจ้าทรงภาวนในที่สงบเงียบ บนภูเขาบ้าง ในที่เปลี่ยวบ้าง พระองค์ติดต่อและใกล้ชิดกับพระบิดาเจ้าเสมอ

ส่วนบรรดาศิษย์ได้ลงเรือล่วงหน้าพระองค์ไป เกิดอะไรขึ้น พวกเขาต้องเผชิญกับลม คลื่นที่ซัด ปะทะเรืออย่างหนัก คงจะเต็มไปด้วยความสับสนและวุ่นวายอย่างมาก และเมื่อใกล้จะสว่างพวกเขาเห็นใครก็ไม่รู้เดินบนน้ำ กำลังเข้ามาใกล้พวกเขา ทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “ผีมา” พวกเขากลัวมาก เสียงดัง เอ็ดอึง

พระเยซูเจ้าตรัส “ทำใจให้ดี เราเอง อย่ากลัวเลย” เปโตรกล้าพิสูจน์ ความเป็นจริง ว่าเป็นผี หรือ พระเยซูเจ้า จึงเดินบนน้ำไปหาพระองค์ตามคำเชื้อเชิญของพระองค์ แต่เมื่อเดินไปสักพัก ก็เริ่มจม เพราะเห็นว่าลมแรง แล้วสุดท้ายก็ร้องให้พระเยซูเจ้าช่วย.. พระองค์ไม่เคยปฏิเสธ จึงช่วยเปโตร และขึ้นบนเรือ

พี่น้องที่เคารพรัก ในบทอ่านที่ 1 เราพบว่า ในความสงบ  เราจะสัมผัสถึงการประทับอยู่ของพระเจ้า เช่นนี้  เราก็ไม่จำเป็นต้องกลัวสิ่งใด เช่นเดียวกับประกาศกอิสยาห์ ท่านกล้าที่จะเดินลงจากเขา และกับไปเผชิญหน้ากับศัตรูที่ต้องการฆ่าท่าน ท่านไปทำหน้าที่ที่พระเจ้ามอบหมายให้ท่านอย่างสิ้นสุดชีวิตของท่าน  ชีวิตของเราก็เช่นกัน มีปัญหาและความทุกข์ มีความยากลำบาก ต้องเผชิญหน้ากับความเจ็บปวด ความไม่เข้าใจ  แม้กระทั่งความกลัว  เชิญชวนให้เราคริสตชน เงียบ และภาวนา ตระหนักถึงการประทับอยู่ของพระเจ้าในชีวิต วางใจในพระองค์ นี่แหละคือขุมพลังในชีวิตของเรา

ในพระวรสาร พระเยซูเจ้า หลังจากทำกิจการงานเสร็จ พระองค์ทรงเสด็จไปภาวนา เงียบ ๆ ตามลำพัง นี่คือ แบบอย่างของชีวิตคริสตชนของเรา ซึ่งเราจะต้องภาวนาเสมอในชีวิต เป็นขุมพลังที่ไม่มีวันหมดสิ้น ที่พระเจ้าทรงมอบให้แก่เรา ความเงียบและการภาวนา เท่ากับพลังในการขับเคลื่อนชีวิตของเรา เพื่อจะสามารถเอาชนะอุปสรรค์ ปัญหาต่าง ๆ ในชีวิต อาศัยพลังของการภาวนา ยิ่งภาวนา เราก็ยิ่งใกล้ชิดกับพระเจ้า ยิ่งใกล้ชิดกับพระเจ้า ชีวิตของเราก็ไม่ต้องกลังสิ่งใด

เราเห็นบรรดาศิษย์ที่แล่นเรือโดยปราศจากพระเยซูเจ้า พวกเขามีความยากลำบาก ต้องเผชิญ ลม พายุ คลื่น ที่โหมใส่เรือของเขา ทำให้มีความวุ่นวาย ความกลัว อย่างมาก จนมองไม่เห็นพระเยซูเจ้า จนไม่สามารถแยกแยะออกได้เลยว่า เป็นพระเยซูเจ้าจริง ๆ หรือไม่? คิดว่าพระองค์เป็นผีด้วยซ้ำไป  ชีวิตคริสตชนของเราเองก็เช่น ในโลกนี้ เราต้องแล่นเรือชีวิต เราต้องพาครอบครัว ลูกหลานของเรา ดำเนินชีวิต ที่ทวนกระแสของสังคม เราจะไหวไหม?  หากเราไม่มีแก่นในชีวิต กระแสสังคม สอนเรา สอนลูกเราให้มุ่งแสวงหาวัตถุนิยม  ความสุขนิยม ประโยชน์นิยม ความสบายนิยม หรือค่านิยมที่ไม่ดีต่าง ๆ เราไหวไหมที่จะพาลูก และครอบครัวของเราทวนกระแสลม.. หากเราปราศจากความเชื่อในพระเจ้า ปราศจากการภาวนา เราคงต้านทานต่ออิทธิพลของโลกไม่ไหวแน่นอน..

ดังนั้น การร้องหาพระเจ้า และ ภาวนา จึงจำเป็นสำหรับชีวิตของเรา และเราเห็นสภาพเรือของบรรดาศิษย์ เมื่อพระเยซูเจ้าเสด็จขึ้นมาประทับ ทุกอย่างสงบ เงียบ


ชีวิต และครอบครัวของเราก็เช่น ให้เราภาวนา เชิญพระเยซูเจ้ามาประทับในครอบครัวและชีวิตของเราเสมอ