สัปดาห์ 3 ธรรมดาปี B

บทเทศน์

พี่น้องที่เคารพรัก สัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์ที่ 3 เทศกาลธรรมดา  พี่น้องที่รัก พระเจ้าทรงเรียกเราทุกคนให้เข้ามาสู่งานเลี้ยงอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ พระองค์ทรงเรียกเราและเชื้อเชิญให้เราเข้ามาหาพระองค์อยู่เสมอ  โดยการมีส่วนร่วมในพิธีมิสซา /บูชาขอบพระคุณ เป็นเสมือนการตอบรับ หรือตอบสนองการเรียกและการเชื้อเชิญของพระเจ้าของเรา

พี่น้องที่เคารพรัก วันพระวาจาของพระเจ้าได้พูดถึงกระแสเรียก และการตอบรับต่อเสียงเรียกจากพระเจ้า คำว่ากระแสเรียก เราต้องเข้าใจว่า จุดเริ่มต้นมาจากพระเจ้า คือ พระเจ้าทรงเป็นผู้เรียก เป็นผู้ริเริ่ม ที่อยากจะให้มนุษย์เข้ามาใกล้พระองค์ พระเจ้าเป็นคนเรียก ในการเรียกของพระองค์ พระองค์ไม่ได้บังคับ พระองค์ไม่ได้ขู่เข็ญ แต่การเรียกของพระองค์เป็นเสมือนกับการเชื้อเชิญ ให้มนุษย์สามารถตอบรับต่อการเรียกของพระองค์ได้ด้วยใจอิสระ ด้วยความสมัครใจ พระองค์ไม่เคยบังคับมนุษย์ให้ตอบรับต่อการเรียกของพระองค์

การตอบสนองต่อการเรียกของพระเจ้า เป็นส่วนของมนุษย์ที่จะต้องตอบสนองด้วยใจอิสระ ด้วยน้ำใจบริสุทธิ์ ด้วยการปฏิบัติตามบทบัญญัติ กฎเกณฑ์ต่าง ๆ และคำสอนของพระองค์

เวลาที่เราไปแถว ๆ เมืองพล ตามข้างถนน เราจะเห็นพ่อค้า แม่ค้า บางคนก็นั่งขายหม่ำ บางคนก็ยืน  แต่สิ่งที่พวกเขาทำเหมือนกันก็คือ กวักมือเรียกผู้คนที่ผ่านไปมา รถยนต์ที่วิ่งไปมา เขาทำอย่างสม่ำเสมอ เขาทำทุกวัน  เรียกและเชื้อเชิญให้เข้ามาซื้อสินค้าจากเขา และก็ได้ผล ร้านที่มีคนกวักมือเรียก จะมีคนหนาแน่นกว่า ร้านที่นั่งๆ  มาซื้อก็ขาย ไม่มาก็แล้วไป เขาไม่ได้บังคับลูกค้า เขาไม่ได้ข่มขู่ แต่เชิญลูกค้าให้เข้ามาด้วยความสมัครใจ

พระเยซูเจ้าทรงเรียกเราทุกคนให้เข้ามามีส่วนร่วมในพระอาณาจักรของพระองค์ “กระแสเรียกของทุกคนก็คือ การเป็นคริสตชน” หมายความว่า “การเป็นศิษย์ติดตามพระเยซูเจ้า”  เมื่อเราได้รับศีลล้างบาป เราก็กลายเป็นศิษย์ของพระองค์ทันที

ทำไมพระเจ้าจึงเรียกเรา คำตอบง่าย ๆ ก็คือ เพราะพระองค์ทรงรักเราทุกคน

เราจะตอบรับต่อการเรียกของพระเจ้าอย่างไร?

 โดยการกลับใจ อยู่เสมอ นั่นคือ เปลี่ยนเส้นทาง แนวทาง และทัศนคติในการดำเนินชีวิต ในบทอ่านที่ 1 ประกาศกโยนาห์ได้ไปที่เมืองนีนะเวห์ และร้องประกาศว่า เมืองนี้จะถูกทำลาย ถ้าไม่กลับใจ ถ้าไม่เป็นทุกข์ถึงบาป  สิ่งที่เกิดขึ้นสำหรับพวกเขา เมื่อได้ยินเสียงร้องของประกาศก  เมื่อพวกเขากลับใจ พวกเขาเปลี่ยนแนวทางการดำเนินชีวิต และไม่หันกลับไปทำซ้ำ ซ้ำ อีก แน่นอนว่า พระเจ้าจะลงโทษเขาได้อย่างไร  การกลับใจนี้ หมายถึงการกลับใจแบบถอนราก ถอนโคน การไม่หันกลับไปทำสิ่งเดิม ๆ อีกต่อไป

โดยทันที เราเห็นท่าทีของบรรดาศิษย์ พวกเขาตอบรับต่อการเรียกของพระเจ้า โดยทันที นั่นหมายความว่า พระเจ้าทรงเรียกและเชื้อเชิญให้มนุษย์ตัดสินใจโดยเร็ว โดยทันที อย่ารอช้า อย่าโลเล ในการที่จะตอบรับต่อการเป็นศิษย์ของพระองค์ สาวกตอบรับทันที ทิ้งแห ทิ้งอวน ทิ้งเครื่องมือทำมาหากินเลี้ยงชีพ ทิ้งสิ่งที่เป็นอดีต การกระทำในอดีต ทิ้งรูปแบบชีวิตเดิม ๆ และได้มาดำเนินชีวิตในรูปแบบใหม่ “ ติดามพระเยซูเจ้า”

เทศน์ ฉลองนักบุญเปาโลกลับใจ

23 มกราคม 2015 ที่โรงเรียนเซนต์โยเซฟ ท่าแร่

บทเทศน์

บทเทศน์ ฉลองนักบุญเปาโลกลับใจ

คุณพ่อ เซอร์อธิการ คณะเซอร์ คณะครู ที่เคารพ และบรรดาลูก ๆ นักเรียนที่น่ารักทุกคน เช้าวันนี้ เป็นโอกาสดีที่เรามาร่วมจิตร่วมใจกัน ขอพรจากพระเจ้า ผ่านทางท่านนักบุญเปาโล ซึ่งเราพากลับมาฉลองการกลับใจของท่านในวันนี้ ให้เราทุกคนตั้งใจที่จะวอนขอพระพรและพระหรรษทานจากพระเจ้า ผ่านทางพิธีมิสซาบูชาขอบพระคุณในวันนี้ ด้วยความตั้งใจ

ปกติแล้ว การฉลองนักบุญต่าง ๆ เราจะทำการฉลองวันที่นักบุญองค์นั้นตายเท่านั้น   คือ วันตายของนักบุญเป็นวันฉลองที่เราทำการฉลองหรือระลึกถึง แต่ก็มีนักบุญเพียงไม่กี่องค์เท่านั้น ที่พระศาสนจักรฉลองเป็นพิเศษ ในโอกาสต่าง ๆ เช่น นักบุญยอห์นบัปติส์ มีทั้งวันเกิดและวันถูกตัดศีรษะ  และนักบุญเปาโลฉลองวันกลับใจ และวันตายด้วย ดังนั้น การฉลองพิเศษนี้ จึงมีความหมายสำคัญบางประการที่เป็นบทเรียน บทสอนแก่เรา

เหตุการณ์แห่งการกลับใจของนับบุญเปาโล

ก่อนที่นักบุญเปาโลจะกลับใจ ท่านคิดว่าท่านเป็นคนดี ท่านคิดว่าท่านทำทุกสิ่งทุกอย่างได้เป็นอย่างดี ท่านเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น ท่านมีความศรัทธา มีความเชื่อมั่น มีความซื่อสัตย์ มีความสำเร็จ ปฏิบัติตามกฎ บทบัญญัติอย่างดี และอย่างไม่มีที่ติ ถือว่าเป็นชาวฟาริสีที่ดีคนหนึ่ง

ท่านไม่เคยคิดว่า สิ่งที่ท่านทำนั้นมันผิด และตามสายตาของมนุษย์ก็บอกว่า นี่คือความชอบธรรม และไม่ใช่สิ่งที่ผิด แต่ใครจะรู้ เมื่อพระเจ้าเข้ามาสัมผัสกับชีวิตของท่าน เข้ามาเขย่าชีวิตของท่าน ทำให้ท่านตาบอด ทำให้ท่านต้องล้มลงไปนอนที่พื้นดิน และปล่อยให้ท่านต้องอยู่ในความสับสัน

เสียงที่บอกว่า “เซาโล เซาโล เจ้าเบียดเบียนเราทำไม?” ทำให้ท่านได้คิด ทำให้ท่านได้ไตร่ตรอง ทำให้ท่านเปลี่ยนแปลงตนเอง

การพบปะกับพระเยซูคริสตเจ้าผู้กลับคืนพระชนมชีพ ทำให้ชีวิตท่านเปลี่ยนไป ท่านได้คิดทบทนชีวิตของท่าน ท่านได้ย้อนดูการกระทำตลอดชีวิตที่ผ่านมา และท่านพบความจริงที่ว่า “พระเยซูคริสตเจ้า ทรงกลับคืนพระชนมชีพอย่างแท้จริง และพระองค์ทรงเป็นพระเจ้าแท้” ท่านได้นำประสบการณ์การพบปะกับพระเจ้านี้ ออกไปประกาศข่าวดีของพระเยซูเจ้า ประกาศและเป็นพยานถึงชีวิตของพระองค์

นักบุญเปาโลกลับใจ ไม่ใช่แค่เปลี่ยนแปลงตัวเองเท่านั้น แต่เปลี่ยนแปลงโลกทั้งโลกด้วย

มีคำกล่าว่า “ถ้าคุณจะเปลี่ยนแปลงสิ่งใด จงเริ่มต้นเปลี่ยนแปลงที่หัวใจของคุณ”

มีเรื่องเล่าว่า หญิงคนหนึ่งหลอกให้สามีกินยานอนหลับ แล้วเธอก็พาสามีไปโรงพยาบาล พบกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เธอบอกว่า สามีของเธอเป็นคนบาปหนา เล่นชู้ เล่นการพนัน ดื่มเหล้าเมาสุรา ไม่สนใจครอบครัว ชอบทำร้ายภรรยา และไม่เข้าวัดเข้าวา” แพทย์ก็บอกว่า “ผมไม่ใช่พระสงฆ์” เธอบอกว่า “คุณหมดช่วยได้ คือช่วยผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจของเขา กับหัวใจของนักพรตคนหนึ่งเพิ่งตายไปเมื่อกี้นี้เองให้ทีเถิด” หมอก็ลังเลอยู่นาน จนที่สุดทบการรบเร้าของหญิงคนนี้ไม่ไหวจึงจัดการให้ และเมื่อเปลี่ยนหัวใจแล้ว ก็ปรากฏว่าได้ผล สามีกลายเป็นคนใหม่ ไม่ดื่มเหล้า ไม่เที่ยวเตร่ อยู่บ้าน สวดภาวนา แต่หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป หญิงคนนั้นก็มาหาหมอและบอกว่า ขอให้ผ่าตัดเปลี่ยนเอาหัวใจนักพรตออกไปเถิด หมอถาม เพราะอะไร?  เพราะสามีบอกว่า เขาจะทิ้งฉัน เพราะเขาทนอยู่กันคนบาปเช่นฉันไม่ได้...

การกลับใจที่สำคัญที่สุดก็คือ การเปลี่ยนแปลงจากภายในหัวใจของตนเอง ด้วยอิสระ ด้วยความสมัครใจ ด้วยความเต็มใจ โดยมองเห็นว่า สิ่งที่เรากำลังไปสู่นั้น สมบูรณ์กว่า ดีกว่า

บทเรียนจากการกลับใจของนักบุญเปาโล

·         มนุษย์มีความอ่อนแอ มีความบกพร่อง มีหลายสิ่งที่ต้องแก้ไขและปรับปรุงตนเองเสมอ

·         รู้ว่าทำผิด แล้วต้องรีบปรับปรุงแก้ไขตนเอง  หรือ เมื่อมีคนบอกคนเตือนเมื่อเราทำผิด  ให้รู้จักยอมรับ และแก้ไขตนเอง ทันที   นักบุญเปาโล ไม่รู้ว่าตนเองกำลังหลงทาง กำลังทำผิด เมื่อมีพระเยซูเจ้าเตือนท่าน ว่า ท่านเบียดเบียนเราทำไม?  ท่านรีบเปลี่ยนแปลงและแก้ไขตนเองทันที  นี่คือ การกลับใจ

·         เราต้องกลับใจอยู่เสมอ  ต้องกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงตนเองให้ไปในหนทางที่ถูกต้อง ต้องกล้าที่จะทำความดีอยู่เสมอ และรักษาความดีไว้กับตัวเอง