BLOGGER TEMPLATES AND TWITTER BACKGROUNDS

วันพฤหัสบดีที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

บทเทศน์ เตรียมโปสตูลันต์ 6


เทศน์ 6
แม่พระแบบอย่างชีวิต
1.      ความสุภาพ  
น.เบอร์นาร์ด “ความสุภาพถ่อมตนเป็นพื้นฐานและเป็นผู้พิทักษ์คุณธรรมท้งหลาย” “พระเจ้าทรงรักความสุขภาพเป็นอย่างมาก” (น.ฟรังซิสเดอซาล) แม่พระเป็นศิษย์คนแรกและคนเดียวที่สมบูรณ์ที่สุดของพระเยซูเจ้าในการปฏิบัติตามคุณธรรม โดยเฉพาะความสุภาพถ่อมตน ด้วยความสุขภาพถ่อมตน แม่พระจึงได้รับการยกขึ้นเหนือสิ่งสร้างทั้งหลาย น.มาธิลดาบอกว่า “ความสุภาพถ่อมตนมีอยู่ในแม่พระตั้งแต่เมื่อแม่พระเป็นเด็กแล้ว”
เมื่อแม่พระได้รับแจ้งข่าวจากทูตสวรรค์ว่าจะเป็นมารดาของพระเจ้า พระผู้ไถ่ แม่พระก็ไม่ได้บอกเรื่องราวทั้งหมดนี้ให้น.ยอแซฟรู้ ไม่ได้โอ้อวดตนเอง แต่เก็บสิ่งเหล่านี้ไว้ในใจ

2.      ความรักต่อพระเจ้า
น.อัลเบิร์ต “พวกเราพบเป็นพรหมจรรย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่ไหน พวกเราก็พบกับความรักที่สุดที่นั่น” ยิ่งมีหัวใจที่บริสุทธิ์ ก็ยิ่งเป็นคนที่ว่างเปล่ามากเท่านั้น และความรักของพระเจ้าจะเต็มในชีวิตของคนนั้น แม่พระสุภาพและไม่เห็นแก่ตัว แม่พระเต็มไปด้วยความรักของพระเจ้า
น.แบร์นาดิน “ความรักของแม่พระต่อพระเจ้าเหนือกว่ามนุษย์และเทวดา”
น.ฟรังซิส เดอ ซาล “แม่พระเป็นราชินีแห่งความรัก”
แม่พระรักพระเจ้าอย่างมาก ไม่มีสิ่งใดที่แม่พระต้องการให้เราทำ นอกจากรักพระเจ้า รักพระองค์อย่างที่เราสามารถรักได้ “แม่พระไม่ปรารถนาสิ่งใดไปมากกว่าต้องการให้เห็นผู้ที่เป็นที่รัก คือ พระเจ้า” น.บริดเจต
3.      ความรักต่อเพื่อนบ้าน
ขณะที่แม่พระดำเนินชีวิตในโลกนี้ ความรักแต่เพื่อนบ้านแสดงออกในงานเลี้ยงที่เมืองคานาในแคว้นกาลิลี (ยน 2:3) เมื่อเหล้าองุ่นหมด  ในการเสด็จเยี่ยมนางเอลีซาเบธเมื่อได้ยินว่าตั้งครรภ์ ต้องการความช่วยเหลือ (ลก 1:30) แม่พระไม่เคยที่จะหยุดที่จะช่วยเหลือคนอื่น

4.      ความเชื่อฟังของแม่พระ
แม่พระเป็นมารดาแห่งความรัก ความหวัง ดังนั้น แม่พระพระจึงเป็นมารดาแห่งความเชื่อด้วย น.อิเรเนอุส “นี่เป้นเหตุผลที่ดี เพราะว่า ปีศาจทำให้ความไม่เชื่อฟังของเอวาถูกรักษาได้ด้วยความเชื่อฟังของแม่พระ” แตร์ตูเลี่ยน “เนื่องจากเอวาเชื่องูไม่สนใจคำเตือนของพระเจ้า ความตายจึงมาสู่โลก แต่เนื่องจากแม่พระเชื่อฟังเทวดาที่มาแจ้งข่าวดี แม่พระได้นำความรอดพ้นเข้ามาสู่โลก
น.ออกัสติน “นี่คือ ความเชื่อฟังของแม่พระที่เปิดสวรรค์ให้กับมนุษย์ เมื่อแม่พระยินดีที่จะร่วมมือกับพระในการให้พระผู้ไถ่มาบังเกิด”
น.เมโธดิอุส “แม่พระเป็นราชินีแห่งความเชื่อที่แท้จริง”
5.      ความหวังของแม่พระ
ความหวังถือกำเนิดมาจากความเชื่อ พระเจ้าส่องสว่างเราโดยอาศัยความเชื่อที่จะทำให้เรารู้จักความดีและคำสัญญาของพระองค์ที่พระองค์ได้ให้แก่เรา แม่พระมีคุณธรรมแห่งความเชื่อในระดับที่สูงที่สุด และชีวิตของแม่พระเต็มเปี่ยมไปด้วยความหวังในระดับสูงสุดเช่นเดียวกัน

6.      พรหมจรรย์ของแม่พระ
แม่พระยังคงพรหมจารี เพราะพระจิตเจ้าทรงทำงานในตัวของพระแม่ และตลอดชีวิตของแม่พระ สิ่งนี้ก็ไม่ได้ด่างพร้อยไปเลย น.เกรโกรี แห่งนิสา “แม่พระรักความพรหมจรรย์อย่างมากและหวงแหน  ซึ่งทำให้แม่พระเป็นผู้เหมาะสมกับศักดิ์ศรีของการเป็นแม่ของพระเยซูเจ้า
น.เยโรม “แม่พระยังคงเป็นพรหมจารีอยู่เสมอ”
น.อัมโบรส “คนที่รักษาความบริสุทธิ์ได้ก็เป็นเทวดาองค์หนึ่ง ใครที่สูญเสียก็เป็นปีศาจตนหนึ่ง”

7.      ความยากจนของแม่พระ
แม่พระพูดว่า “ข้าพเจ้าเป็นเพียงผู้รับใช้ของพระเจ้า ขอให้เป็นไปกับข้าพเจ้าตามวาจาของท่าน” นี่สะท้อนให้เห็นถึงแนวความคิด แนวชีวิตของแม่พระเหมือนกับ อนาวิม (ผู้รับใช้พระเจ้า) ในพันธสัญญาเดิม คือ มอบชีวิตของตนเองทั้งหมดไว้ในความดูแลของพระ ให้พรเจ้าเป็นเจ้าของของชีวิต
พระเยซูเจ้าก็เอาความคิดนี้ไปบอกกับบรรดาศิษย์ด้วยว่า “จงไปขายทุกสิ่งที่มี แล้วท่านจะมีทุกสิ่ง” แม่พระรู้ว่า การครอบครองที่มีค่าที่สุดก็คือ การมีพระเจ้า ไม่ใช่ทรัพย์สมบัติ ความมั่งคั่งมั่งมี

8.      ความนบนอบเชื่อฟังของแม่พระ
ดู ลก 1:38  การเป็นผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์ไม่เคยมีอะไรที่ที่ตรงกันข้ามกับเจ้านายเลย ทั้งคำพูด ความคิด หรือ การกระทำก็ตาม เอวาไม่เชื่อฟัง แต่เอวาใหม่เชื่อฟังพระประสงค์ของพระเจ้าเสมอ
น.เบอร์นาร์ด “เนื่องจากแม่พระเป็นอิสระจากบาปกำเนิด แม่พระไม่ได้พบความยากลำบากเลยในการที่จะเชื่อฟังพระเจ้า”  แม่พระเป็นเหมือนวงล้อ ซึ่งง่ายมากที่จะหมุนไปโดยการดลใจของพระจิตเจ้า”

9.      ความอดทนของแม่พระ
ความอดทนจนถึงที่สุด จะนำเราไปสู่ชีวิตนิรันดร “ด้วยการยืนหยัดมั่นคง ท่านจะรักษาชีวิตของท่านได้” (ลก 21:19) พระเจ้าได้ให้แม่พระแก่เราเป็นแบบอย่างของคุณธรรมทั้งหลาย ในความอดทนด้วย เหตุการณ์ในงานเลี้ยงที่เมืองคานา แม่พระต้องอดทนต่อคำตอบของพระเยซูเจ้า (ยน 2:4) นี่คือตัวอย่างของความอดทน เทวดาได้พูดกับน.บริตเจตว่า “กุหลาบเติบโตในกอหนาม แม่พระก็เติบโตขึ้นในความยากลำบากเช่นกัน” 
น.บอนาแวนตูลา พูดว่า “ที่เชิงกางเขน แม่พระถูกตรึงพร้อมกับพระบุตรของพระแม่”




บทเทศน์เตรียมโปสตูลันต์ ท่าแร่ 5


วันพุธ ที่ 27 พฤษภาคม 2015
เทศน์ 5
อะไรหล่อเลี้ยงชีวิตของฉัน
การภาวนา
ความหมาย

การภาวนา คือ การสนทนาติดต่อกับพระเจ้า นั่นคือ เป็นการติดต่อสัมพันธ์ของวิญญาณกับพระเจ้า ไม่ใช่ผ่านทางการรำถึง หรือ การไตร่ตรอง แต่เป็นการพูดกับพระองค์โดยตรง
การภาวนาอาจจะภาวนาด้วยคำพูด หรือ ด้วยใจ เป็นโอกาส หรืออย่างสม่ำเสมอ (ไม่ใช่พูดคนเดียว หรือ ฟังคนเดียว แต่เป็นการตอบรับกันและกันไประหว่างคู่สนทนาที่มีต่อกัน เราจะต้องพูดกับพระ และฟังเสียงของพระ ว่าพระองค์ตรัสอะไรกับเรา) เพื่อให้เกิดความใกล้ชิด
การภาวนาเหมือนกับน้ำมัน รถไม่สามารถขับเคลื่อนได้โดยปราศจากน้ำมัน ชีวิตคริสตชน/ชีวิตนักบวชของเราก็ไม่สามารถที่จะเดินทางหรือ ขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้ หากขาดการภาวนา

ในพระคัมภีร์ การภาวนาเป็นการอ้วนวอน (อพย 32:11) (เมื่อพระเจ้าพิโรธ เจอลูกโคทองคำ) / เป็นการระบายความทุกข์ต่อหน้าพระเจ้า (1ซมอ 1:15)เรื่องนางฮันนาห์ / เป็นการภาวนาและการร้องขอต่อสวรรค์ (2พศด 32:20) / เป็นการแสวงหาพระเจ้าและวอนขอพระผู้ทรงสรรพานุภาพ(โยบ 8;5) / การอยู่ใกล้พระเจ้า (สดด 73:28)

ในพระคัมภีร์  ลักษณะท่าทางของการภาวนา
            การคุกเข่าภาวนา (1พกษ 8:54; 2พศด 6:13; อสย 45:23)
            การหมอบราบ (ปฐก 24:26,52; อพย 4:31;12:27)
การชูมือขึ้น (1พกษ 8:22,38,54; สดด 28:2; 63:4)
การยืน (1ซมอ 1:26; 1พกษ 8:14,55; 2พศด 20:9)

ประเภทของการภาวนา
1.      ภาวนาส่วนรวม เป็นช่วงเวลาที่เรามารวมตัวกันกับคนอื่น ๆ เพื่อสวดภาวนา เช่น การสวดสายประคำ การสวดทำวัตร การร่วมมิสซา การสวดกับหมู่คณะ (ภาวนาแบบนี้ ต้องออกเสียง เปล่งเสียงภาวนาพร้อมกัน)
2.      ภาวนาส่วนตัว มีรูปแบบดังนี้
a.      การสรรเสริญ เมื่อใจของเราเต็มเปี่ยมไปด้วยความยินดี ความรัก และความสุข
b.      การขอบคุณ เมื่อใจของเราเต็มไปด้วยความชื่นชอบในความดีที่ได้รับจากพระเจ้าและเพื่อน
c.      การสารภาพบาป เมื่อใจของเราเต็มไปด้วยการรู้สึกถึงบาปที่ทำผิดต่อพระเจ้า พี่น้อง
d.      การอ้อนวอน เมื่อใจของเราเต็มไปด้วยความกังวลใจกับความเดือนร้อนของคนอื่น
e.      การวอนขอ เมื่อใจของเราเต็มไปด้วยความกังวลใจในสถานการณ์ชีวิตของตนเอง
3.      ภาวนาด้วยความเงียบ เป็นการภาวนาแบบใช้ความเงียบ สงบ เพื่อให้จิตใจได้ฟังเสียงของพระเจ้า เป็นส่วนลึกในจิตใจที่ที่จะแสวงหาพระเจ้า
4.      ภาวนาทำวัตร เป็นการภาวนาแบบทางการของพระศาสนจักร ผู้ภาวนาเป็นเสมือนตัวแทนของประชากรของพระเจ้า พระสงฆ์ สังฆานุกร นักบวช ต้องภาวนาทุกวัน
5.      อุทานภาวนา ใช้คำสั้น ๆ ง่าย ๆ วอนขอความช่วยเหลือ วอนขอความเมตตา

ตัวอย่างของบุคคลที่ภาวนาในพระคัมภีร์
1.      ผู้รับใช้ของอับราฮัมภาวนาต่อพระเจ้า และพระเจ้าก็นำเขาไปพบกับบุคคลที่จะมาเป็นภรรยาของบุตรชายหัวหน้าของเขา (ปฐก 24:10-20)
2.      ยาโคบภาวนาต่อพระเจ้า และพระเจ้าได้โน้มน้าวจิตใจที่โกรธเคืองของพี่ชายเพื่อว่าพวกเขาจะได้อยู่ด้วยกันแบบสันติสุขและมีมิตรภาพ (ปฐก 32:24-30; 33:1-4)
3.      แซมซันภาวนาต่อพระเจ้า และพระเจ้าได้แสดงให้เขาเห็นบ่อน้ำและทำให้เขาดับความกระหายน้ำได้และมีชีวิตเพื่อเป็นผู้วินิจฉัยชาวอิสราเอลต่อไป (วนฉ 15:18-20)
4.      ดาวิดภาวนา และพระเจ้าได้ปกป้องเขาจากคำทำนายของอธิโทเฟล (2ซมอ 15:31; 16:20-23; 17:14-23)
5.      ดาเนียลภาวนา และพระเจ้าทรงเปิดเผยฝันของกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์และตีความฝันนั้น (ดนล 2:16-23)
6.      เนหะมีย์ภาวนา และพระเจ้าได้ทรงโน้มน้าวหัวใจของกษัตริย์แห่งเปอร์เซีเพื่อที่จะอนุญาตให้เขากลับไปที่กรุงเยรูซาเล็มเพื่อซ่อมแซมบูรณะใหม่ได้ (อสธ 4:15-17; 6:7-8)
7.      เปาโลภาวนาว่า ขอเอาหนามที่ทิ่มแทงเนื้อหนังของออกไปเถิด และคำภาวนาของท่านทำให้ท่านมีความเข้มแข็งทางจิตวิญญาณมากขึ้น ขณะที่หนามก็ยังทิ่มแทงท่านอยู่ (2คร 12:7-10)

ประโยชน์ของการภาวนาทุกวัน
1.      นำเราไปใกล้ชิดกับพระเจ้า
2.      นำเราเข้าสู่การช่วยเหลือของพระเจ้า
3.      รักษาความเห็นแก่ตัวของเรา
4.      รู้จักให้อภัย
5.      ทำให้เราเข้มแข็ง
6.      พัฒนาทัศนคติของเรา
7.      ให้ความหวังแก่เรา
8.      ลดความกดดัน หรือทำให้เราผ่อนคลาย
9.      ทำให้เรามีสุขภาพที่ดี
10.  ทำให้เราเข้าใจตัวตนของเรา



ทำไมต้องภาวนา
1.      สร้างความสัมพันธ์กับพระเจ้า
a.      1คร 1:9 พระเจ้าปรารถนาให้เราติดตามพระองค์ พระองค์ต้องการให้เราใช้เวลาอยู่กับพระองค์
b.      วว 3:20 เราจะได้รับสิทธิพิเศษ โดยเฉพาะเมื่อเราภาวนาด้วยความรักต่อพระองค์
2.      กลายเป็นเหมือนพระองค์ (ขณะที่เราใช้เวลามุ่งเน้นไปที่พระเจ้า ในการประทับอยู่ของพระองค์ เราจะถูกเปลี่ยนให้ละม้ายคล้ายกับพระองค์ เราจำเป็นต้องให้พระเจ้าเป็นศูนย์กลางของชีวิตของเรา
a.       2คร 3:18  เราทุกคนไม่มีผ้าคลุมใบหน้า จึงสะท้อน แสงสว่างรุ่งโรจน์ ขององค์พระผู้เป็นเจ้าเหมือนกระจกเงา เปลี่ยนเป็นภาพลักษณ์เดียวกับพระองค์ ทวีความรุ่งโรจน์ยิ่งๆ ขึ้น เดชะองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นพระจิต
3.      พระเยซูเจ้า รูปแบบของราในการภาวนา
a.      ยน 13:15 “เราให้แบบอย่างแก่ท่าน..”
b.      ลก 6:12 “พระองค์เสด็จไปบนภูเขาเพื่อภาวนา..”
c.      มก 1:35 “พระองค์เข้าไปในที่เปลี่ยน และภาวนา”
4.      ยอมรับการขึ้นกับพระเจ้า  การภาวนาเป็นการแสดงออกว่า เราต้องพึ่งพระเจ้า เรานั้นขึ้นอยู่กับพระองค์ เราภาวนาเพื่อให้พระเจ้าช่วยเรา เราไม่สามารถทำอะไรได้เลย
a.       ยก 4:6  พระเจ้าทรงต่อต้านคนเย่อหยิ่ง แต่ประทานพระหรรษทานแก่ผู้ถ่อมตน
b.       ยน 15:4-5 “..ปราศจากเราท่านไม่สามารถทำอะไรได้เลย”
5.      สอนเราให้ภาวนา บทข้าแต่พระบิดา..เป็นบทภาวนาที่พระเยซูเจ้าทรงภาวนาเสมอ
6.      เสริมกำลัง
a.       อสย 40:31  แต่ผู้มีความหวังในพระยาห์เวห์จะได้รับพลังใหม่ เขาจะกางปีกบินขึ้นเหมือนนกอินทรี เขาจะวิ่งและไม่เหน็ดเหนื่อย เขาจะเดินและไม่อ่อนเปลี้ย

b.      ลก 22:46 “จงภาวนา เพื่อจะได้ไม่ถูกทดลอง”