BLOGGER TEMPLATES AND TWITTER BACKGROUNDS

วันเสาร์ที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2559

ลาก่อนปี 2016

ถามเพื่อไตร่ตรอง


ทำไมพระเจ้าจึงทรงรักมนุษย์?
พระเจ้า ความรัก และมนุษย์

พระเจ้าทรงเป็นพระผู้สร้าง เปี่ยมด้วยความรัก
มนุษย์ถูกสร้างขึ้นมา ตามภาพลักษณ์ของพระเจ้า ด้วยความรัก

พระเจ้ารักมนุษย์เพราะพระองค์ทรงรัก


มนุษย์ทำบาป ทำผิด ทรยศ หักหลัง ไม่ซื่อสัตย์ นอกใจ ซ้ำแล้วซ้ำอีก
พระเจ้าก็สามารถให้อภัยได้

มนุษย์อยู่ในสภาพบาป ไม่เหมาะสมกับความรักของพระเจ้า
มนุษย์ตกอยู่ในบาป ไม่สมควรกับพระเจ้า
แต่พระเจ้าก็ยังคงรัก

ทำไม? 

................................................

มนุษย์กับมนุษย์
มองในชีวิตคู่
สามีภรรยา : ทำไมสามีและภรรยาจึงนอกใจกัน
ความซื่อสัตย์ถูกหัก แตกละเอียด
ความรัก ไม่สามารถรักษาความไว้ใจกันได้
ความซื่อสัตย์ไม่สามารถค้ำจุน ความไว้ใจกันได้
การแตกหักเกิดขึ้น เพราะขาดความรัก หรือเพราะไม่รัก
การให้อภัยไม่มี เพราะการทำลายความไว้ใจหรือความไม่ซื่อสัตย์

มนุษย์ ยากที่จะให้อภัยกันได้

สามี/ภรรยา ยากที่จะให้อภัย ความนอกใจ /การมีชู้/ ความไม่ซื่อสัตย์ต่อความรักได้

แสดงให้เห็นว่า "ความรักของมนุษย์จะต้องตอบแทนด้วยความรัก/ความซื่อสัตย์เท่านั้น"
ไม่มีสิ่งใดที่จะตอบแทนความรักของมนุษย์ที่มีให้กันได้ นอกจากความรักและความซื่อสัตย์


.......................


แตกต่างจาก ความรัก ของพระเจ้าอย่างสิ้นเชิง

มนุษย์ไม่สามารถรักคนที่ทรยศ หักหลังความรักได้
พระเจ้าทรงรักและรอคอยมนุษย์ให้กลับใจมาหาพระองค์เสมอ

มนุษย์ไม่สามารถที่จะให้อภัยคนที่รักทำลายความซื่อสัตย์/ความไว้ใจได้
พระเจ้าหวังและยังคงรอคอยเสมอ

ด้วยเหตุนี้

ความรักของพระเจ้าจึงเป็นความรักที่สูงส่ง
ความรักของพระเจ้าจึงเป็นความรักที่ไร้เงื่อนไข
ความรักของพระเจ้าจึงเป็นของประทานเปล่า

ความรักของพระเจ้าเป็นเสมือนรูปแบบความรักที่สมบูรณ์แห่งความรัก

มนุษย์จะทำให้ความรักต่อกันสมบูรณ์ได้ก็ต่อเมื่อ รักพระเจ้าอย่างแท้จริง
มนุษย์จะเข้าถึงความสมบูรณ์ของความรักก็ต่อเมื่อรักกันอย่างไม่มีข้อเรียกร้อง

แต่ยาก..ที่มนุษย์จะทำได้
หากไม่พยายามและฝึกฝนอยู่เสมอๆ 
 
อย่างไรก็ตาม
ทำไม พระเจ้าจึงรักมนุษย์ได้มากมายเช่นนี้ 
ทำไม พระเจ้าจึงมองข้ามความผิด บกพร่อง และบาปของมนุษย์ได้

ความรักของพระองค์?

ปีเก่า จะผ่านไป ความรักของพระเจ้า ยังคงอยู่  
ปีเก่า จะผ่านพ้น ความรักของพระเจ้า ดำรงอยู่

เสมอ ตลอดไป

วันพฤหัสบดีที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2559

ฉลองครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ 2016


ไตร่ตรองส่วนตัวกับจดหมายถึงครอบครัว



จดหมายถึงครอบครัว (Lettera alle famiglie) ของนักบุญยอห์น ปอล ที่ 2 พระสันตะปาปา ซึ่งได้ชื่อว่า เป็นพระสันตะปาปาแห่งครอบครัวอย่างแท้จริงในความรัก ความห่วงใย ต่อครอบครัวซึ่งเป็นเสมือนส่วนที่เป็นแก่นของชีวิตพระศาสนจักร

เริ่มต้นความเข้าใจ

พระเจ้าทรงสร้างมนุษย์ให้เป็นชายและหญิง และพระองค์ทรงสร้างมนุษย์ตามภาพลักษณ์ของพระองค์ ให้ละม้ายคล้ายคลึงกับพระองค์ เพื่อให้มนุษย์มีความสัมพันธ์และเชื่อมโยงถึงกัน

พระเจ้าตรัสว่า "เราจงสร้างมนุษย์ขึ้นตามภาพลักษณ์ของเรา ให้มีความคล้ายคลึงกับเรา" (ปฐก 1:26) พระองค์ทรงสร้างมนุษย์ และทรงอวยพรเขาให้มีลูกมากทวีจนเต็มแผ่นดิน นั่นหมายความว่า พระองค์ทรงอวยพรมนุษย์ ให้มนุษย์ชายเป็นบิดา และมนุษย์หญิงเป็นมารดา ชายจึงเป็นบิดา และหญิงจึงเป็นมารดา และบุตรที่เกิดมามีความละม้ายคล้ายคลึงกับพระเจ้า เป็นภาพลักษย์ของพระเจ้า ดังนั้น ครอบครัวจึงเป็นครอบครัวของพระเจ้า ที่มาจากพระเจ้า เป็นภาพลักษณ์ของพระเจ้าและคล้ายคลึงกับพระเจ้า เหมือนกับครอบครัวที่มีชีวิตในพระเจ้า

ในความเป็นภาพลักษณ์ของพระเจ้าและความคล้ายคลึงกับพระเจ้า นี่แหละคือ ศักดิ์ศรีของมนุษย์ และความเป็นบิดาและมารดาของชายและหญิง ก็คือ ศักดิ์ศรีของมนุษย์ ที่สุด ลูก ก็เป็นศักดิ์ศรีของครอบครัวด้วยเช่นเดียวกัน

พันธสัญญาของคู่แต่งงาน

เมื่อเราคิดถึงครอบครัว เราคิดเสมอว่า ครอบครัวเป็นพื้นฐานที่แสดงออกถึงธรรมชาติทางสังคมของมนุษย์ และแก่นที่เรามองไม่เห็นก็คือ การช่วยเหลือซึ่งกันและกัน

ครอบครัวเป็นกลุ่มชนหน่วยเล็กที่สุดของความเป็นสังคม ครอบครัวคือความเป็นหนึ่งเดียวของบุคคล เป็นความเป็นหนึ่งเดียวที่มีชีวิตของบุคคล ครอบครัวนำไปสู่การเป็นหนึ่งเดียวกันของคู่แต่งงานอย่างแท้จริง ซึ่งในสังคายนาวาติกันที่สองเรียกว่า "พันธสัญญา"คือ การที่ชายและหญิงต่างก็มอบตนเองทั้งให้และรับแก่กันและกันอย่างสิ้นเชิง




ชายและหญิง มอบให้ และรับจากกันและกัน
มอบตัวเองทั้งหมด ทั้งร่างกายและจิตใจ
ให้ทั้งชีวิต จิตวิญญาณแก่กันและกัน

นี่คือการมอบ และ การให้ แก่กันและกัน
ของชายและหญิง
เป็นสิ่งเฉพาะที่จะเกิดขึ้นได้ในคู่แต่งงานเท่านั้น
ในศีลแต่งงานต่อหน้าพระศาสนจักรเท่านั้น
จึงจะถือว่าเป็นการมอบให้-รับอย่างสมบูรณ์



วันอาทิตย์ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2559

คริสต์มาส 2016


รำพึง ไตร่ตรอง

คำที่เราจะได้ยินบ่อยๆ ในช่วงนี้คือ "สุขสันต์วันคริสต์มาส"
ความสุขมาจากการบังเกิดมาของพระเยซูเจ้า พระองค์ทรงเกิดมาเพื่อเรา
ความสุขสันต์มาจากพระเยซูเจ้าผู้รับสภาพเป็นมนุษย์
ความสุขเป็นของผู้ที่เชื่อในพระเยซูเจ้า
ความสุขในวิญญาณ
ความสุขในความเชื่อ
ความสุขในหัวใจ
หัวใจที่เข้าถึงแก่นของธรรมล้ำลึกแห่งการบังเกิดของพระเจ้า

พระเยซูเจ้าเกิดมาทำไม?
คำตอบสั้นๆ "เพื่อไถ่บาปเรา" "เพื่อช่วยเราให้รอดพ้น"
ไถ่เรา.. ด้วยความรัก.. รักจนถึงที่สุด
ช่วยเรา.. ด้วยคำสอน..สอนด้วยชีวิตของพระองค์

พระเยซูเจ้าบังเกิดมาจากความรักของพระบิดาเจ้าที่ทรงมีต่อมนุษย์
พระเยซูเจ้าบังเกิดมาจากความนอบน้อมเชื่อฟัง
และพระองค์ตายพร้อมกับความนอบน้อมเชื่อฟังเช่นกัน

เกิดบนรางหญ้าในถ้ำเลี้ยงสัตว์
ตายบนไม้กางเขน

เกิดอย่างเงียบๆ
ตายอย่างมีชื่อเสียง มหาโจร

เกิดมาโดยมีเพียงไม่กี่คนที่รู้
ตายบนกางเขน ทุกคนได้เห็นและเป็นพยาน

เกิดมาด้วยผ้าพันกาย
ตายพร้อมกับฟ้าห้อมล้อมกาย

ทุกอย่างเริ่มต้น "ด้วยความรัก"
และดูเหมือนจบด้วย "ความรัก"
แต่แท้จริง ยังต่อเนื่อง ใน "ความรัก"

นี่คือวันแห่งความรัก..ที่เริ่มต้นขึ้นในประวัติศาสตร์ของมนุษย์
วันแห่งความรักใหม่ของพระเจ้า ต่อมนุษย์