BLOGGER TEMPLATES AND TWITTER BACKGROUNDS

วันอังคารที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2562

จดหมายถึงครอบครัว



ครอบครัวเป็นเส้นทางของพระศาสนจักร
 
พี่น้อง สิ่งที่กำลังถูกคุกคามอย่างหนักจากอิทธิพลของโลกปัจจุบันคงหนีไม่พ้นก็คือ สถาบันครอบครัว ซึ่งโลกเทคโนโลยีได้แทรกซึมทำลายความเป็นครอบครัวทีละเล็กทีละน้อย โดยที่เราเองไม่ได้ตระหนักเพราะความเคยชินและเพราะกลายเป็นชีวิตของเรา

การดำเนินชีวิตในพระศาสนจักรเพื่อมุ่งสู่ความศักดิ์สิทธิ์ และความเป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้านั้น ภายในพระศาสนจักรนั้นมีหลากหลายเส้นทางให้เราได้เลือกที่จะมีชีวิตและดำเนินไป และเส้นทางหนึ่งที่สำคัญ เป็นเส้นทางของสามัญชนคนส่วนใหญ่ที่เลือกดำเนินชีวิต พระศาสนจักรถือว่าเป็นเส้นทางแรกและเส้นทางที่สำคัญ เป็นเส้นทางที่เอกลักษณ์และลักษณะเฉพาะที่แตกต่างจากเส้นทางอื่น ไม่ว่าจะเป็นการดำเนินชีวิตที่เป็นหนึ่งเดียวกัน การสร้างชีวิตใหม่ และการอยู่เพื่อกันและกัน ซึ่งทุกคนต้องผ่านเส้นทางนี้ และหลายคนจะต้องสร้างเส้นทางนี้ นั่นคือ เส้นทางแห่งชีวิตครอบครัว

เมื่อคนหนึ่งเกิดมาในโลก เขาย่อมอยู่ภายใต้กรอบสำคัญที่เรียกว่า “ครอบครัว” ภายใต้ครอบครัวนี้แหละที่จะสร้างและช่วยพัฒนาความเป็นบุคคลของเขาให้เติบโต แต่ก็มีหลายคนที่เกิดมาโดยไม่มีครอบครัว มีเพียงชีวิตที่เกิดมาในโลกความเจ็บปวดและความทุกข์ลำบาก เขาก็จะอยู่กับประสบการณ์ที่นี้ตลอดชีวิตของเขา สำหรับพระศาสนจักรได้มองดูด้วยความห่วงใยต่อสถานการณ์นี้ของมนุษย์ และคอยอยู่ใกล้ชิดกับมนุษย์เสมอ เพราะพระศาสนจักรเข้าใจดีว่าบทบาทพื้นฐานของพระศาสนจักรคือการทำให้ครอบครัวมุ่งสู่ความศักดิ์สิทธิ์และเป็นหนึ่งดียกับพระเจ้า

ครอบครัวมีจุดเริ่มต้นของตัวเองจากความรักซึ่งพระผู้สร้างได้ทรงมอบให้ตั้งแต่แรกเริ่มสร้างโลก (ปฐก 1:1) ในพระวรสารพระเยซูเจ้าได้ยืนยันอย่างชัดเจนว่า “พระเจ้าทรงรักโลกอย่างมากจึงได้ส่งพระบุตรมารับสภาพมนุษย์” (ยน 3:16) พระบุตรรับสภาพมนุษย์ประทับเบื้องขาวพระบิดา “พระเจ้าจากพระเจ้าและความสว่างจากความสว่าง”  ได้เข้ามาอยู่ในประวัติศาสตร์ของมนุษ์ผ่านทางครอบครัว “ในการรับสภาพมนุษย์ของพระบุตรของพระเจ้า พระองค์ทรงเป็นหนึ่งเดียวในการเป็นมนุษย์ทุกอย่าง พระองค์ทำงานด้วยมือของมนุษย์ พระองค์รักด้วยหัวใจมนุษย์ พระองค์ทรงบังเกิดจากพระนางมารีพรหมจารี พระองค์เป็นมนุษย์หนึ่งอย่างแท้จริงเช่นเดียวกับเรา เหมือนกับเราทุกอย่างยกเว้นบาป” ดังนั้น พระคริสตเจ้าทรง“เปิดเผยพระองค์เองอย่างสมบูรณ์ในมนุษย์” พระองค์ติดต่อมนุษย์ผ่านทางครอบครัวซึ่งพระองค์ได้ทรงเลือกที่จะมาบังเกิดและเจริญเติบโต เรารู้ว่า พระผู้ช่วยให้รอดเติบโตขึ้นที่เมืองนาซาเร็ธ ด้วยความเชื่อฟัง (ลก 2:51) เช่นเดียวกับบุตรมนุษย์ต่อพระนางมารีย์พระมารดาและต่อโยเซฟ บิดาช่างไม้ นี่คือความเชื่อฟังอย่างบุตรซึ่งมีมาแต่แรกแล้วในการเชื่อฟังต่อพระบิดา “จนถึงกับยอมรับความตาย” (ฟป 2:8) เพื่อช่วยโลกให้รอด

ในธรรมล้ำลึกแห่งการรับสภาพมนุษย์ของพระวจนาตถ์ เป็นความสัมพันธ์เดียวกันกับครอบครัวของมนุษย์ ไม่ใช่แค่ครอบครัวที่นาซาแร็ธ แต่หมายถึงทุกครอบครัวในโลก และในสังคายนาวาติกันที่ 2 ได้ยืนยันว่า พระบุตรของพระเจ้าซึ่งรับสภาพมนุษย์ “เป็นเหมือนกับมนุษย์ทุกคน”  พระคริสตเจ้าเสด็จมาในโลกเพื่อ รับใช้ (มธ 20:28) พระศาสนจักรพิจารณาถึงการพันธกิจแห่งการรับใช้ครอบครัวเป็นงานหลักของพระศาสนจักรอย่างแท้จริง ด้วยเหตุนี้ ทั้งมนุษย์และครอบครัวเป็นเส้นทางพระศาสนจักร และเส้นทางแห่งการรับใช้จึงเป็นหนทางที่จะนำเราไปสู่ความเป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้าและมนุษย์ด้วยกันเอง

การอธิษฐานภาวนา เป็นสิ่งที่สำคัญมากในครอบครัว ในการอธิษฐานภาวนาด้วยกันนี้ เราพบว่า ความเป็นหนึ่งเดียวกันเกิดขึ้นในครอบครัว และความเป็นหนึ่งเดียวกันเกิดขึ้นในความสัมพันธ์กับพระเจ้าด้วย มนุษย์ติดต่อสื่อสารกับพระเจ้าผ่านทางการอธิษฐานภาวนา และพระเจ้าปรารถนาที่จะติดต่อสัมพันธ์สื่อสารกับมนุษย์ในภาษาของมนุษย์เช่นกัน เพื่อจะได้เข้าใจกันและกัน มนุษย์ติดต่อกับพระเจ้าเพื่อจะได้เข้าใจหนทาง วิถีทางของพระเจ้าในการดำเนินชีวิตในโลกนี้ แม้จะเป็นโลกแห่งความชั่วคราวก็ตาม แต่มนุษย์สามารถที่จะฝึกฝนและดำเนินชีวิตมุ่งไปสู่พระเจ้าได้

การอธิษฐานภาวนาเป็นการประทับอยู่ของพระบุตรของพระเจ้าท่ามกลางเรา “ที่ใดมีสองหรือสามคนชุมนุมกันภาวนาในนามของเรา เราอยู่ที่นั่นในหมู่พวกเขา” (มธ 18:20) พระสันตะปาปายอห์นปอลที่ 2 ปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะให้แต่ละครอบครัวภาวนาด้วยกัน ครอบครับเล็กๆ พ่อแม่ลูกหรือสมาชิกในบ้านที่อยู่ด้วยกันภาวนาพร้อมกัน ภาวนาด้วยกัน “ข้าแต่พระบิดาของข้าพเจ้าทั้งหลาย” แต่ละครอบครัวภาวนาเป็นคำภาวนาของครอบครัว ภาวนาเพื่อครอบครัว ภาวนาด้วยกันทุกครอบครัว นี่คือภาพที่แสดงออกถึงความเชื่อ ถึงความเป็นน้ำหนึ่งในเดียวกัน

เมื่ออธิษฐานภาวนา เราเห็นไดชัดว่าคนหนึ่งจะค้นพบตัวตนของตนเอง ค้นพบความเป็นบุคคลของตนเอง และจะค้นพบคุณค่าของคนอื่น และคุณค่าของความเป็นครอบครัว การภาวนาจะเพิ่มความเข้มแข็ง ความแข็งแกร่งทางจิตวิญญาณ พระจิตเจ้าเสด็จมาอยู่ในครอบครัวของเรา พระองค์จะประทานความมั่นคงในจิตตารมณ์ครอบครัวและจะประทานพลังให้ครอบครัวของเรา และพระองค์จะรวมเราในความรักและความจริงของพระองค์

นี่คือหนทางของครอบครัวในพระศาสนจักรซึ่งเป็นหนทางหรือเส้นทางเดียวกัน
           
ครอบครัวเป็นพระศาสนจักรระดับบ้าน สมาชิกในบ้านเป็นสมาชิกของพระศาสนจักร จงสร้างความเข้มแข็งในบ้าน หล่อเลี้ยงจิตตารมณ์แห่งการรับใช้ การภาวนาด้วยกัน และความรักต่อกันและให้เกิดขึ้นในบ้าน และในทุกครอบครัว  อย่าลืม..พระเจ้ารับสภาพมนุษย์ เป็นมนุษย์ในครอบครัวแห่งนาซาเร็ธ ในครอบครัวของเรา พระองค์อยู่กับครอบครัวของเรา..



วันอาทิตย์ที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2562

พระเยซูเจ้าทรงรับพิธีล้าง 2019































ในพระวรสารนักบุญลูกา ทำให้เราได้เห็นภาพเหตุการณ์สำคัญ 3 เหตุการณ์

1. พิธีล้างของยอห์น:

พิธีนี้เป็นการเตือนจิตใจให้มีการเปลี่ยนแปลงตนเอง ให้มีการกลับใจ เพื่อพระเจ้าจะได้เข้ามาอยู่ในชีวิตของเรา ยอห์นาเพื่อเตรียมทางของพระผู้ไถ่ ยอห์นมาเพื่อเตรียมจิตใจของประชาชนให้ยอมรับพระคริสตเจ้า ซึ่งพิธีล้าง เป็นเพียงเครื่องหมายภายนอก ไม่ใช่ศีลศักดิ์สิทธิ์ เพราะยอห์นไม่มีอำนาจ เป็นเพียงผู้เตรียมทาง.. อำนาจสูงสุดคือพระเยซูเจ้าซึ่งจะทำพิธีล้างให้เรา ที่จะลบล้างบาปของเรา พิธีล้างของพระเยซูเจ้าคือศีลล้างบาป ในนามของพระบิดา พระบุตรและพระจิตเจ้า

เราจะเห็นมีประชาชนจำนวนมากที่มารับพิธีล้างจากยอห์น คนหลายกลุ่ม หลายอาชีพมาหายอห์นเพื่อรับพิธีล้างนี้ เช่น ประชนชน ทหาร คนเก็บภาษี และแม้แต่ชาวฟาริสี ก็มารับการล้างจากยอห์น  ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ทุกคนต้องการที่จะกลับใจ เปลี่ยนแปลง ต้องการให้ตนเองเป็นที่พอพระทัยพระเจ้า


2. การรับพิธีล้างของพระเยซูเจ้า:

เป็นการแสดงออกถึงว่า พระเยซูเจ้าทรงเป็นมนุษย์แท้อย่างแท้จริง แม้ว่าพระองค์ไม่จำเป็นต้องรับพิธีนี้ แต่พระองค์ทำ เพราะพระองค์แสดงให้เห็นถึงการเป็นหนึ่งเดียวกับมนุษย์ เป็นหนึ่งเดียวกับมนุษย์ ยกเว้นบาป อีกทั้งให้เราได้เห็นว่า พระเจ้าเสด็จเข้ามาในประวัติศาสตร์ของมนุษย์ มาอยู่ในชีวิตของมนุษย์

พระเจ้าเป็นหนึ่งเดียวกับมนุษย์อย่างแท้จริง ผ่านทางหนทางที่มนุษย์ได้แสดงออกเพื่อความชอบธรรมของมนุษย์

3. พระตรีเอกภาพ:

หลังจากที่พระองค์เสด็จขึ้นจากน้ำ ท้องฟ้าเปิดออก พระจิตเจ้าเสด็จมาคล้ายนกพิราบ และมีเสียงว่า ท่านคือบุตรสุดที่รักของเรา เป็นผู้โปรดปรานของเรา พระเยซูเจ้าทรงเข้าใจอย่างชัดเจนถึงบทบาทของพระองค์ การเป็นพระบุตร การทำหน้าที่ในฐานะพระผู้ไถ่ การเป็นพระแมสสิยาห์ เป็นผู้ที่จะช่วยมนุษย์ให้รอดพ้น

พระองค์จะเริ่มปฏิบัติภารกิจของพระองค์อย่างเปิดเผย ในการประกาศ เทศน์สอน นำทางประชากรของพระเจ้าให้ตระหนักถึงความรักของพระองค์ในชีวิตประจำวัน

บทบาทหน้าที่ของเราเมื่อรับศีลล้างบาป

1. การเป็นสงฆ์แห่งศีลล้างบาป
    ร่วมมิสซา สวดภาวนาเพื่อกันและกัน แสวงหาความสัมพันธ์กับพระเจ้าในวิถีทางที่พระศาสนจักรกำหนดเพื่อคนอื่น

2. การเป็นกษัตริย์แห่งศีลล้างบาป
    การปกครอง การดูแลเอาใจใส่กันและกัน บุคคลรอบข้างด้วยความรัก ด้วยจิตตารมณ์ของพระเยซูเจ้าในการรักและรับใช้กันและกัน

3. การเป็นประกาศกแห่งศีลล้างบาป
    ประกาศถึงความรักของพระเจ้า ประกาศชีวิตของพระเยซูเจ้าในชีวิตประจำวัน เป็นพยานถึงความรักของพระเจ้า ในรูปแบบชีวิต เพื่อให้ทุกคนได้รับข่าวดี ได้ยินชื่อของพระเยซูเจ้าในชีวิตของเขา