วันที่ 22 ธันวาคม 2011
บ้านเณรฟาติมา ท่าแร่ จัดให้มีการเฉลิมฉลองคริสต์มาสประจำปีขึ้น
เพื่อเป็นการฉลองการบังเกิดมาของพระเยซูเจ้าท่ามกลางบรรดาผู้ที่เตรียมตัว
ฝึกฝนตนเองในการเป็นผู้รับใช้ของพระองค์
พร้อมกันนี้ ยังเป็นการฉลองครบ 50 ปีของการเป็นสงฆ์ ของคุณพ่อเสงี่ยม ดีศรีวรกุล
อีกด้วย ซึ่งทางบ้านเณรจัดขึ้นเพื่อเป็นการย้ำให้เห็นถึงคุณค่าของชีวิตพระสงฆ์
ผู้ซึ่งดำเนินชีวิตในเส้นทางแห่งการเป็นสงฆ์ ยังอยู่ได้จนถึงทุกวันนี้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย
ในปีนี้ การจัดการเฉลิมฉลอง เป็นการฉลองที่เรียบง่าย
เริ่มต้นด้วยพิธีมิสซาบูชาขอบพระคุณ
หลังจบมิสซา ก็กินเนื้อย่าง...และเนื้อจุ่ม
อย่างเอร็ดอร่อย และแซบ แซบ..
วันศุกร์ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2554
คริสต์มาสที่บ้านเณรท่าแร่ 2011
เขียนโดย don Pietro Virote Phosawang ที่ 15:56 1 ความคิดเห็น
วันอาทิตย์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2554
ฉลองบุญราศีสองคอน 2011
ค่ำคืนของวันที่ 16 ธันวาคม 2011
เป็นค่ำคืนก่อนเฉลิมฉลองบุญราศีทั้ง 7 แห่งสองคอน
ผู้ซึ่งสละชีวิตของตนเอง เพื่อเทิดเกียรติแด่พระเจ้า
และยืนยันความเชื่อด้วยเลือด และด้วยชีวิตของท่าน ในฐานะที่เป็นคริสตชน
จากชาวบ้านซื่อ ซื่อ ธรรมดา ธรรมดา ไม่มีการปรุงแต่งชีวิตให้ทันสมัย
จากชาวบ้านที่ดำเนินชีวิตเรียบง่าย แต่เข้มแข็ง
เต็มเปี่ยมด้วยพละแห่งความเชื่อ ความศรัทธาต่อพระเจ้า
กลายเป็นผู้นำทางความเชื่อ
กลายเป็นพยานให้กับคนยุคนี้
กลายเป็นผู้ที่เด่นชัดต่อหน้าพระเจ้าและมนุษย์
ชีวิตที่เป็นพยานด้วยเลือด..
หากภายในไม่เข้มแข็งพอ..จะทำได้หรือ?
หากภายในจิตใจหวาดกลัว..จะไหวหรือ?
หากความหนักแน่นในจิตวิญญาณไม่มากเหลือ..จะยอมหรือ?
ต่อหน้าความตาย
ต่อหน้ากระบอกปืน
ต่อหน้าการพิพากษา
ต่อหน้าพระเจ้า
ความเข้มแข็งมาจากไหน?
ความกล้าหาญมาจากที่ใด?
ใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง การหลั่งเลือดนี้..?
พระเจ้าและมนุษย์ทำงานอย่างสอดคล้องกัน
พระเจ้าประทานพระหรรษทานให้
มนุษย์ตอบรับด้วยความยินดี..
เขียนโดย don Pietro Virote Phosawang ที่ 01:39 0 ความคิดเห็น
วันพฤหัสบดีที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2554
เข้าเงียบสงฆ์เดือนธันวาคม 2011
วัน 7-8 ธันวาคม 2011 เป็นวันเข้าเงียบประจำเดือนของพระสงฆ์มิสซังท่าแร่ฯ
เทศน์ โดย คุณพ่อวีระชัย อุตะมะชะ
หัวเรื่องในการเทศน์คือ "พระสงฆ์ตายเป็นไหม?"
เขียนโดย don Pietro Virote Phosawang ที่ 10:21 0 ความคิดเห็น
วันพฤหัสบดีที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2554
วันพ่อ.. ที่ซ.ย. ท่าแร่
วันพฤหัสบดี ที่ 1 ธันวาคม 2011
ได้รับมอบให้เป็นตัวแทนจากคุณพ่ออธิการบ้านเณร..ให้ลงไปเป็นประธานในวจนพิธีกรรม
เนื่องในวันพ่อแห่งชาติที่โรงเรียนเซนต์โยเซฟ ท่าแร่..
ในเมื่อเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้..เพราะไม่มีใครว่าง ก็เลยต้องไป..
ก็มีประธานฝ่ายสงฆ์ และมีประธานฝ่ายรัฐด้วย เพื่อมาประกอบพิธีในวันนี้
เริ่มต้นด้วย วจนพิธีธรรม
จากนั้น ก็เป็น รัฐพิธี
และก็มีการแสดงต่าง ๆ มากมาย
ในแต่ละระดับชั้น มีขับร้องประสานเสียงอีกด้วย
สิ่งสำคัญที่ผู้เป็นประธานฝ่ายรัฐได้ให้โอวาทก็คือ
ความสำคัญของการเป็นพ่อและแม่
ความสำนึกของการเป็นลูก
จากนั้น ก็มีการกราบพ่อด้วย..
นี่คือผลงานที่บรรดาลูก ๆ เณรมาติดให้..
หลายคนเข้ามากราบ..ไหว้
ก็รู้สึกถึงความเป็น..พ่อ เหมือนกัน
เขียนโดย don Pietro Virote Phosawang ที่ 15:21 0 ความคิดเห็น
วันเสาร์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554
เข้าเงียบประจำปี ๒๐๑๑ ที่ท่าแร่
วันที่ 25 พฤศจิกายน 2011
เวลา 09.00 น. เทศน์โดย คุณพ่อวัชรินทร์ ต้นปรึกษา
น.ออกัสติน "จิตใจข้าพเจ้าจะไม่ได้พักผ่อน จนกว่าจะพบกับพระเจ้า"
คำพังเพยอินเดีย "ปลากระหายน้ำ"
ความสุขคือ อะไร?
ความสุขคือการล้นเหลือ
ความสุขคือ สิ่งที่เราแสวงหา
ความสุขเป็นสิ่งภายนอก
นี่คือ สิ่งที่เป็นแนวความคิดตามประสาโลก
ข้อแนะนำ
จงเปลี่ยนทัศนะที่เอาตนเองเป็นศูนย์กลาง กลายเป็นการเอาพระคริสตเจ้าเป็นศูนย์กลาง
จงอย่าเอาตัวเองเป็นมาตรการในการวัดความสุขของตนเอง
อย่ามีเงื่อนไขในการดำเนินชีวิต
จงดำเนินชีวิตแต่ละวันโดยการสำนึกถึงพระเจ้า
อย่าผูกมัดตัวเองกับสิ่งที่ไม่ดี หรือในแง่ลบ
เราเชื่อว่าพระเจ้าประทานให้สิ่งดีดีเกิดขึ้นในชีวิตของเราเสมอ
ค่านิยมพระวรสาร 12 ประการ
1. รักกันและกัน
2. รักแม้กระทั่งศัตรู
3. บุญคุณต้องทดแทน แค้นไม่ต้องชำระ
4. ยกโทษให้คนอื่น และพยายามคืนดีกัน
5. หลีกเลี่ยงการติหนิกัน
6. หลีกเลี่ยงการยกย่องตนเอง ยกตนข่มคนอื่น
7. เป็นมิตกับคนที่ถูกทอดทิ้ง ตีนที่รอโอกาส
8. รับใช้คนอื่น สุภาพถ่อมตน เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่
9. ช่วยเหลือคนยากจน
10. อย่าโลภในทรัพย์สมบัติ
11. อย่าหน้าไหว้หลังหลอก
12. ภาวนาอยู่เสมอ มอบความวางใจในพระเจ้า
เรื่องเล่าน่าคิด
หลังจากที่พระเจ้าได้สร้างโลก สร้างมนุษย์เรียบร้อยแล้ว
พระองค์ก็สร้างสิ่งหนึ่ง ลูกกลม ๆ สีแดง เรียกว่า ความสุข
พระองค์พยายามซ่อนความสุขนี้ไว้ให้ห่างไกลจากมนุษย์
สิ่งแรกพระองค์ซ่อนไว้บนภูเขา มนุษย์ก็ หาเจอ
ครั้งที่สอง พระองค์ซ่อนไว้ในทะเล มนุษย์ก็ หาเจอ
ครั้งที่สาม พระองค์ซ่อนความสุขไว้ใจหัวใจของมนุษย์
ตั้งแต่นั้นมา มนุษย์ก็หาความสุขไม่เจออีกเลย...
ความสุข..อยู่ที่ใจ
ความสุข..อยู่ในตัวเรา
ความสุข..เป็นของเรา
ความสุข..ที่แท้จริง เป็นความสุขกับพระเจ้า และมาจากพระเจ้า...
ทุกวัน..หลังเทศน์
มีการตั้งศีลมหาสนิททุกวัน เพื่อชิดสนิทสัมพันธ์กับพระเจ้า
บรรยากาศทั่ว ๆ ไปในสิ่งที่หลายคนมองไม่เห็น
เขียนโดย don Pietro Virote Phosawang ที่ 03:51 0 ความคิดเห็น
วันพฤหัสบดีที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554
เข้าเงียบประจำปี ๒๐๑๑ ที่ท่าแร่
วันพฤหัสบดี ที่ 24 พฤศจิกายน 2011
เวลา 09.00 น. เทศน์โดย คุณพ่อวีระเดช ใจเสรี
อุปสังฆราช
หัวข้อเรื่อง ชีวิตสงฆ์กับความเรียบง่าย
การเข้าเงียบเป็นการมาไตร่ตรองดูว่า ฉันเป็นใคร? และ ฉันอยู่ที่ไหน?
เริ่มต้นด้วยพระวรสารนักบุญมาระโก พระเยซูเจ้าส่งสาวกไปเป็นคู่ ๆ โดยไม่ให้นำอะไรติดตัวไปด้วย
มีเพียงบางอย่างเท่านั้น แม้แต่อาหารก็ไม่ให้นำสำรองไปด้วย
เพราะภาระกิจหลักก็คือ การประกาศข่าวดีเรื่องพระอาณาจักรของพระเจ้า
นี่คือ ภาพชีวิตที่เรียบง่ายของการเป็นศิษย์ของพระองค์
ให้เรามามองดู พระเยซูเจ้า พระองค์ทรงมีชีวิตที่เรียบง่าย
ตั้งแต่เกิด พระองค์เกิดในที่ยากจน
ในเรื่องการเทศน์สอน พระองค์ดำเนินชีวิตแบบง่าย ๆ ไปหาทุกคน ทั้งคนบาป คนต่ำต้อย คนจน
เพราะพระองค์รู้ว่า พระองค์เป็นใคร? และพระองค์เสด็จมาเพื่ออะไร?
พระองค์จึงปฏิเสธสิ่งที่ไม่ใช่สิ่งที่เป็นเป้าหมาย
พระองค์จึงปฏิเสธสิ่งที่ไม่ใช่ตัวตนของพระองค์..
ความเรียบง่าย..เป็นรูปแบบชีวิตของสงฆ์ อย่างแท้จริง
อ่าน มก 6:6-13
เราจะเห็นได้ว่า
1. พระเยซูเจ้าต้องการให้เราเป็นอิสระจากสิ่งต่าง ๆ ภายนอก
มุ่งสู่การประกาศ และเป็นหนึ่งเดียวกับชาวบ้าน
2. ความเรียบง่ายไม่ยึดติดกับสิ่งที่ทำให้เราเป็นทาส (ทรัพย์สิน)
แต่ให้วางชีวิตไว้กับพระเยซูเจ้าอย่างมั่นคง
ดูตัวอย่างหนุ่มเศรษฐีที่เข้ามาถาม เรื่องชีวิตนิรันดร คำเชื้อเชิญของพระเยซูเจ้า
ก็คือ ไปขายทุกสิ่งที่มี แจกจ่ายคนยากจน และตามเรามา..
เพราะว่า การเป็นศิษย์ของพระเยซูเจ้า เริ่มต้นด้วยการเสียสละ โดยเฉพาะน้ำใจตน..
สภาพสังคมทุกวันนี้..
เป็นสังคมที่ซับซ้อน
ไม่เรียบง่ายเหมือนสมัยก่อน
คิดดู..แม้แต่เวลาเงียบสักนาที ก็ยังไม่มี
มีจิตสำนึกเพื่อส่วนรวมนั้นมีน้อยลง และมักจะคิดถึงแต่ตัวเอง
สภาพสังคมทุกวันนี้
ท้าทายชีวิตของการเป็นสงฆ์
และมีอิทธิพลต่อชีวิตของสงฆ์เป็นอย่างมาก
ความเรียบง่าย เป็นคำตอบสำหรับสังคมปัจจุบัน นั่นคือ
ความเรียบง่ายเป็นการทำหน้าที่ของตนในแต่ละวันให้ดีที่สุด
ความเรียบง่ายมีความพอใจและพอเพียง
ความเรียบง่ายเป็นการรู้จักปล่อยวาง
ความเรียบง่ายเป็นการรู้จักมีความสมดุลย์ในชีวิต
ความเรียบง่ายเป็นเหมือนกับคนที่คิดในแง่บวก
อ่าน อฟ 4:1-3
เวลา15.00 น. เทศน์โดย คุณพ่อสุรพงศ์ นาแว่น

หัวข้อ ชีวิตสงฆ์กับโลกเทคโนโลยีสื่อสาร
1. เครื่องแบบของสงฆ์
ตามกฎเกี่ยวกับการแต่งกายของพระสงฆ์ ม.284
พระสงฆ์ต้องสวมเสื้อหล่อ
พระสงฆ์ต้องสวมเสื้อเคอร์ยีแมน
ต้องมีกางเขนติดเสื้อเสมอ
การแต่งกายของพระสงฆ์ ถือเป็นเอกลักษณ์ ที่บ่งบอกชีวิตของการเป็นสงฆ์
การแต่งกายให้ถูกต้อง เป็นการแสดงออกถึงการเป็นประจักษ์พยานของการดำนเนินชีวิตสงฆ์
พระสงฆ์ต้องเป็นสัญลักษณ์ที่โดดเด่นและชี้ชัดให้เห็นถึงพระคริสตเจ้า
แซว..พ่อเสือใส่กางเกงยีนส์ (อนุโลมให้เพราะอยู่ตามดอย)
พ่อเต้งใส่เสื้อสีลาย
พ่อสำราญใส่เคอร์ยีตลอด เป็นแบบอย่าง
ส่วนพระคุณเจ้าไม่ต้องพูดถึง เพราะใส่เป็นประจำอยู่แล้ว
2. การใช้คำพูด
หากจะมองดูชีวิตของพระเยซูเจ้า พระองค์ทรงเป็นนักพูดที่สุดยอดที่สุด
พระองค์พูดได้ในทุกสถานการณ์ของชีวิต ในทุกรูปแบบของผู้คน
เป็นนักปรัชญาก็ว่าได้ เป็นนักเทววิทยา ก็ใช่ เป็นนักวิพากวิจารณ์ ก็ไม่ผิด
พระองค์ปรับเปลี่ยนการพูดของพระองค์ให้เข้ากับทุกสถานการณ์ได้อย่างเหมาะสม
สงฆ์ต่างก็เป็นประกาศก และ การใช้คำพูดก็เป็นสิ่งที่สำคัญ
เขาบอกว่า "ปากเป็นเอก เลขเป็นโท"
แซว.. พ่อทวีชัย พูดจาหวานหยดย้อย คพ.เอ็มก็ไม่ธรรมดา คพ.กรไกร กับประโยคที่ว่า "พระคุณเจ้า บิดาที่เคารพรัก" เป็นต้น
คำพูด เป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะการพูดเป็นการบ่งบอกถึงตัวตนของเรา..
3. การกินการดื่ม
นี่ก็สำคัญสำหรับการดำเนินชีวิตสงฆ์ นั่นคือ การรู้จักพอเพียง
ผีทั้ง 7 ตน
ชอบสุรา
ชอบเทียวยามวิกาล
ชอบดูละคร ดูหนัง
คบคนชั่ว มั่วกับโจร
ชอบเล่นม้า การพนัน
เกียจคร้าน
ใจโลภหลงวัตถุ
หากหนี หลีกพ้นได้ เป็นบุญเอย..
4. การใช้โทรศัพท์มือถือ
ประโยชน์ก็มี
ข้อเสียก็เยอะ
เช่น สูญเสียความสัมพันธ์ในกลุ่ม
ไม่สนใจคนรอบข้าง
เสียเวลา
มีโลกส่วนตัว..

เขียนโดย don Pietro Virote Phosawang ที่ 15:29 0 ความคิดเห็น
เข้าเงียบประจำปี ๒๐๑๑ ที่ท่าแร่
วันพุธ ที่ 23 พฤศจิกายน 2011
เวลา 09.00 น. เทศน์โดย คุณพ่อประยูร พงษ์พิศ
สติปัญญารับไม่ถึง จึงไม่สามารถที่จะบันทึก หรือ ขีดเขียนอะไรได้มาก
เวลา 15.00 น. เทศน์โดย คุณพ่อธีระยุทธ อนุโรจน์
หัวข้อ..การเจริญชีวิตท่ามกลางโลกที่ฟุ่มเฟือย
มีกูรุสมัยก่อนพูดไว้ว่า พระสงฆ์มีสามประเภท
พระสงฆ์จบโรม เป็น พระสงฆ์จำพวกท่าดีทีเหลว
พระสงฆ์จบปีนัง เป็น พระสงฆ์จำพวกหนักเอาเบาสู้
พระสฆ์จบแสงธรรม เป็น พระสงฆ์จำพวกทำงานดีแต่ขาดวินัย (โดยเฉพาะเรื่องสตรี)
กูรุสมัยปัจจุบัน แบ่งพระสงฆ์ออกเป็น สาม ประเภท
หนึ่ง เป็นสงฆ์แค่ทำตามหน้าที่
สอง เป็นสงฆ์ที่ทำดีและเป็นแบบอย่าง
สาม เป็นสงฆ์ที่บ่แตกต่างจากชาวบ้าน..
จากนั้น คุณพ่อผู้เทศน์ได้ยกสถิติเกี่ยวกับประชากรของโลก สถิติเกี่ยวกับการนับถือศาสนา
สถิติเกี่ยวกับการเป็นไปในยุคปัจจุบัน
ที่สำคัญ คนที่ไม่เชื่อในศาสนามีจำนวนเพิ่มมากขึ้น
คนที่นับถือศาสนามีจำนวนลดน้อยลง
อันตรายที่จะเกิดขึ้นในยุคสุดท้าย
2ทธ 3:1-5
คุณพ่อยังชี้ให้เห็นถึงสภาพความเป็นจริงของสังคมทุกวันนี้
1. สังคมไร้พรมแดน
เน้นความรวดเร็ว ไม่มีการบ่มเพาะ ไม่มีการไตร่ตรอง ไม่มีการหยุดคิด
ความสัมพันธ์ลดลง มีค่าเพียงแค่ข้อมูล
รักกันด้วยข้อมูล
2. สังคมแสวงหาประโยชน์สูงสุด
เน้นประโยชน์นิยม และเลือกเฉพาะที่เป็นประโยชน์เท่านั้น
สิ่งที่ไม่มีประโยชน์ เป็นสิ่งไร้ค่า
3. สังคมเหตุผล
เน้นการพิสูจน์
เป็นการท้าทายต่อความจริง
4. สังคมที่มีอิสระสูง
ไม่ง้อใคร
มองศาสนาเป็นเรื่องไม่จำเป็น
มองศาสนาเป็นเพียงสถาบันหนึ่งที่ส่งเสริมด้านศีลธรรมเท่านั้น
เราจะดำเนินชีวิตอย่างไร?
จำเป็นต้องมี เอกลักษณ์ (Identity) และไม่ลืมเอกลักษณ์ของตนเอง
อ่าน ยน 17:14-16
อ่าน ยน 4:21-24
พระเยซูเจ้าตรัสแก่นางว่า
เขียนโดย don Pietro Virote Phosawang ที่ 05:00 0 ความคิดเห็น
วันอังคารที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554
เข้าเงียบประจำปี ๒๐๑๑ ที่ท่าแร่
วันอังคาร ที่ 22 พฤศจิกายน 2011
เวลา 09.00 น. เทศน์โดย คุณพ่อนรินทร์ ศิริวิริยานันท์
พระสงฆ์ผู้ซึ่งเต็มไปด้วยปรีชาญาณ และความรอบรู้
เวลา 15.00 น. เทศน์โดย คุณพ่อสุพล ยงบรรทม
สงฆ์ผู้ซึ่งมีวาทศิลป์โดดเด่น เป็นที่ชื่นชอบของทุกคน

คุณพ่อได้เทศน์เรื่อง "ความเป็นพี่น้อง"
อ่าน บทจดหมายของนักบุญเปาโลถึงชาวโรม 12:3-13
จงเงียบ เพื่อ จะได้มองดูตัวเอง
เขียนโดย don Pietro Virote Phosawang ที่ 14:57 0 ความคิดเห็น
วันจันทร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554
เข้าเงียบประจำปี ๒๐๑๑ ที่ท่าแร่
วันที่ 21 พฤศจิกายน 2011
เวลา 20.00 น. วจนพิธีกรรมเปิดการเข้าเงียบ
โดย พระคุณเจ้าหลุยส์ จำเนียร สันติสุขนิรันดร์
ก่อนอื่นหมด พระคุณเจ้าเชิญชวนให้คณะสงฆ์อ่านเพลงสดุดี 2 บท นั่นคือ
สดุดีที่ 119
ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระองค์ทรงเป็นส่วนมรดกของข้าพเจ้า
สดุดีที่ 16
มรดก ก็คือ ส่วนแบ่งของดินแดนแห่งพันธสัญญา
สำหรับชนเลวีจะไม่ได้รับส่วนแบ่งของดินแดน เพราะว่า พระเจ้าทรงเป็นมรดกของเขา
เพราะชีวิตของเราอยู่ในการดูแลของพระเจ้า
สำหรับเราสงฆ์
เราได้รับการเรียกและการเลือกมาเพื่อปฏิบัติตามพระประสงค์ของพระเจ้า
พระสงฆ์ไม่ใช่อาชีพ เพราะเราถูกเลือกมาเพื่อให้อยู่ต่างหาก
พระสงฆ์เป็นชีวิตของการรับใช้ และอุทิศตนเพื่อคนอื่น
และจากนั้น พระคุณเจ้าได้เตือนพระสงฆ์ให้ไตร่ตรองถึงชีวิตของการเป็นสงฆ์ของตน
เขียนโดย don Pietro Virote Phosawang ที่ 15:33 0 ความคิดเห็น
วันอาทิตย์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554
มนุษย์เป็นความรัก.
เขียนโดย don Pietro Virote Phosawang ที่ 05:47 0 ความคิดเห็น
วันศุกร์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554
เสกสุสานวัดนักบุญเปาโล นามน
วันที่ 3 พฤศจิกายน 2011
คุณพ่อเจ้าอาวาส (คพ.โกวิทย์ จันทรังษี) พร้อมกับพระสงฆ์ลูกวัดบ้านนามน
(คพ.วีระชัย อุตะมะชะและคพ.วิโรจน์ โพธิ์สว่าง) และสัตบุรุษลูกหลานบ้านนามน
ร่วมกันกตัญญูต่อบรรพบุรุษแห่งความเชื่อของหมู่บ้าน โดยถวายมิสซาอุทิศให้
ในโอกาสวันระลึกถึงผู้ล่วงลับ
บรรยากาศในตอนเช้า ๆ ของวัน
คงเหลือแค่ความทรงจำกับปูนเก่า ๆ
จะชั่วหรือดี ก็เพียงแค่นี้
จะมีหรือรวย ก็เพียงเท่านี้
บรรยากาศของพิธิมิสซาระลึกถึงผู้ล่วงลับ
คพ.ต้อม สงฆ์ผู้พี่เป็นประธาน
บรรยากาศหลังมิสซา
การรับประทานอาหารร่วมกัน
มีธารน้ำใจจากพี่น้อง
บรรดาหลาน ๆ เหลน นั่งกินข้าวบนหลุมศพของตาทวด-ยายทวด
เขียนโดย don Pietro Virote Phosawang ที่ 11:53 0 ความคิดเห็น