ถามเพื่อไตร่ตรอง
วันเสาร์ที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2559
ลาก่อนปี 2016
เขียนโดย don Pietro Virote Phosawang ที่ 16:05 0 ความคิดเห็น
วันพฤหัสบดีที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2559
ฉลองครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ 2016
ไตร่ตรองส่วนตัวกับจดหมายถึงครอบครัว
จดหมายถึงครอบครัว (Lettera alle famiglie) ของนักบุญยอห์น ปอล ที่ 2 พระสันตะปาปา ซึ่งได้ชื่อว่า เป็นพระสันตะปาปาแห่งครอบครัวอย่างแท้จริงในความรัก ความห่วงใย ต่อครอบครัวซึ่งเป็นเสมือนส่วนที่เป็นแก่นของชีวิตพระศาสนจักร
เริ่มต้นความเข้าใจ
พระเจ้าทรงสร้างมนุษย์ให้เป็นชายและหญิง และพระองค์ทรงสร้างมนุษย์ตามภาพลักษณ์ของพระองค์ ให้ละม้ายคล้ายคลึงกับพระองค์ เพื่อให้มนุษย์มีความสัมพันธ์และเชื่อมโยงถึงกัน
พระเจ้าตรัสว่า "เราจงสร้างมนุษย์ขึ้นตามภาพลักษณ์ของเรา ให้มีความคล้ายคลึงกับเรา" (ปฐก 1:26) พระองค์ทรงสร้างมนุษย์ และทรงอวยพรเขาให้มีลูกมากทวีจนเต็มแผ่นดิน นั่นหมายความว่า พระองค์ทรงอวยพรมนุษย์ ให้มนุษย์ชายเป็นบิดา และมนุษย์หญิงเป็นมารดา ชายจึงเป็นบิดา และหญิงจึงเป็นมารดา และบุตรที่เกิดมามีความละม้ายคล้ายคลึงกับพระเจ้า เป็นภาพลักษย์ของพระเจ้า ดังนั้น ครอบครัวจึงเป็นครอบครัวของพระเจ้า ที่มาจากพระเจ้า เป็นภาพลักษณ์ของพระเจ้าและคล้ายคลึงกับพระเจ้า เหมือนกับครอบครัวที่มีชีวิตในพระเจ้า
ในความเป็นภาพลักษณ์ของพระเจ้าและความคล้ายคลึงกับพระเจ้า นี่แหละคือ ศักดิ์ศรีของมนุษย์ และความเป็นบิดาและมารดาของชายและหญิง ก็คือ ศักดิ์ศรีของมนุษย์ ที่สุด ลูก ก็เป็นศักดิ์ศรีของครอบครัวด้วยเช่นเดียวกัน
พันธสัญญาของคู่แต่งงาน
เมื่อเราคิดถึงครอบครัว เราคิดเสมอว่า ครอบครัวเป็นพื้นฐานที่แสดงออกถึงธรรมชาติทางสังคมของมนุษย์ และแก่นที่เรามองไม่เห็นก็คือ การช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
ครอบครัวเป็นกลุ่มชนหน่วยเล็กที่สุดของความเป็นสังคม ครอบครัวคือความเป็นหนึ่งเดียวของบุคคล เป็นความเป็นหนึ่งเดียวที่มีชีวิตของบุคคล ครอบครัวนำไปสู่การเป็นหนึ่งเดียวกันของคู่แต่งงานอย่างแท้จริง ซึ่งในสังคายนาวาติกันที่สองเรียกว่า "พันธสัญญา"คือ การที่ชายและหญิงต่างก็มอบตนเองทั้งให้และรับแก่กันและกันอย่างสิ้นเชิง
มอบตัวเองทั้งหมด ทั้งร่างกายและจิตใจ
ให้ทั้งชีวิต จิตวิญญาณแก่กันและกัน
นี่คือการมอบ และ การให้ แก่กันและกัน
ของชายและหญิง
เป็นสิ่งเฉพาะที่จะเกิดขึ้นได้ในคู่แต่งงานเท่านั้น
ในศีลแต่งงานต่อหน้าพระศาสนจักรเท่านั้น
จึงจะถือว่าเป็นการมอบให้-รับอย่างสมบูรณ์
เขียนโดย don Pietro Virote Phosawang ที่ 15:45 0 ความคิดเห็น
วันอาทิตย์ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2559
คริสต์มาส 2016
รำพึง ไตร่ตรอง
คำที่เราจะได้ยินบ่อยๆ ในช่วงนี้คือ "สุขสันต์วันคริสต์มาส"
ความสุขมาจากการบังเกิดมาของพระเยซูเจ้า พระองค์ทรงเกิดมาเพื่อเรา
ความสุขสันต์มาจากพระเยซูเจ้าผู้รับสภาพเป็นมนุษย์
ความสุขเป็นของผู้ที่เชื่อในพระเยซูเจ้า
ความสุขในวิญญาณ
ความสุขในความเชื่อ
ความสุขในหัวใจ
หัวใจที่เข้าถึงแก่นของธรรมล้ำลึกแห่งการบังเกิดของพระเจ้า
พระเยซูเจ้าเกิดมาทำไม?
คำตอบสั้นๆ "เพื่อไถ่บาปเรา" "เพื่อช่วยเราให้รอดพ้น"
ไถ่เรา.. ด้วยความรัก.. รักจนถึงที่สุด
ช่วยเรา.. ด้วยคำสอน..สอนด้วยชีวิตของพระองค์
พระเยซูเจ้าบังเกิดมาจากความรักของพระบิดาเจ้าที่ทรงมีต่อมนุษย์
พระเยซูเจ้าบังเกิดมาจากความนอบน้อมเชื่อฟัง
และพระองค์ตายพร้อมกับความนอบน้อมเชื่อฟังเช่นกัน
เกิดบนรางหญ้าในถ้ำเลี้ยงสัตว์
ตายบนไม้กางเขน
เกิดอย่างเงียบๆ
ตายอย่างมีชื่อเสียง มหาโจร
เกิดมาโดยมีเพียงไม่กี่คนที่รู้
ตายบนกางเขน ทุกคนได้เห็นและเป็นพยาน
เกิดมาด้วยผ้าพันกาย
ตายพร้อมกับฟ้าห้อมล้อมกาย
ทุกอย่างเริ่มต้น "ด้วยความรัก"
และดูเหมือนจบด้วย "ความรัก"
แต่แท้จริง ยังต่อเนื่อง ใน "ความรัก"
นี่คือวันแห่งความรัก..ที่เริ่มต้นขึ้นในประวัติศาสตร์ของมนุษย์
วันแห่งความรักใหม่ของพระเจ้า ต่อมนุษย์
เขียนโดย don Pietro Virote Phosawang ที่ 14:21 0 ความคิดเห็น
วันศุกร์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2559
เส้นทางเดิม
ทางเดิน
เขียนโดย don Pietro Virote Phosawang ที่ 07:03 0 ความคิดเห็น
วันพฤหัสบดีที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2559
แม่พระมหาทุกข์
วันที่ 15 กันยายน 2016
เขียนโดย don Pietro Virote Phosawang ที่ 01:47 0 ความคิดเห็น
วันอังคารที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2559
เทิดทูนไม้กางเขน 2016
14 กันยายน เทิดทูนไม้กางเขน
เขียนโดย don Pietro Virote Phosawang ที่ 16:03 0 ความคิดเห็น
อ้อมแขน
ความรัก
เขียนโดย don Pietro Virote Phosawang ที่ 15:40 0 ความคิดเห็น
วันอาทิตย์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2559
มองดูอดีต
เขียนโดย don Pietro Virote Phosawang ที่ 08:56 0 ความคิดเห็น
วันพุธที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2559
วันอังคารที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2559
สมโภชนักบุญเปโตรและเปาโล 2016
บทเทศน์
เขียนโดย don Pietro Virote Phosawang ที่ 16:54 0 ความคิดเห็น
วันศุกร์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2559
มิสซาเปิดปีการศึกษา 2016 รร.ซย.ทร
บทเทศน์
เขียนโดย don Pietro Virote Phosawang ที่ 02:00 0 ความคิดเห็น
วันอังคารที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2559
พุธ สัปดาห์ที่ 8 ธรรมดา ปี C
บทเทศน์
มก 10:32-45
เหตุการณ์ : การเสด็จเข้าสู่กรุงเยรูซาเล็ม
พระเยซูเจ้ากำลังจะเสด็จไปที่กรุงเยรูซาเล็ม เพื่อทำให้แผนการช่วยให้รอดพ้นสำเร็จไป
แม้ว่า ที่นั่นพระองค์จะต้องเผชิญอะไร พระองค์ก็ไม่เคยหวาดหวั่น หรือหลีกหนี พระองค์
เสด็จมาในโลกนี้เพื่อทำให้พระประสงค์ของพระบิดาสำเร็จไป นี่คือ เป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
ของพระองค์
ความแน่วแน่ และความตั้งใจที่เด็ดเดี่ยว ทำให้พระองค์ชนะความกลัวในจิตใจตามประสามนุษย์
ได้ สิ่งที่สำคัญในเหตุการณ์นี้คือ พระองค์ได้บอกบรรดาศิษย์ของพระองค์ล่วงหน้าว่า พระองค์
จะต้องประสบหรือจะต้องเผชิญกับสิ่งใด นั่นคือ การทนทุกข์ ทรมาน การเบียดเบียน การข่มเหง
และความตาย แต่สุดท้ายพระองค์จะกลับคืนชีพ
สิ่งที่สาวกได้ยิน ก็คือ การทุกข์ทรมาน และความตาย ส่วนการกลับคืนชีพ พวกเขาไม่รู้เรื่อง ไม่
เข้าใจ ว่าหมายความว่าอย่างไร? ความตายต่างหากเป็นสิ่งที่สำคัญที่ทำให้พวกเขากลัว แม้แต่
เปโตรก็ยังขัดขวางทางเดินของพระองค์ เพราะพวกเขาได้ยินเสียงการกลับคืนชีพนั้นแผ่วเบา..
ชีวิตของเราเองก็เช่นเดียวกันกับบรรดาศิษย์ เรามองเห็นพระเยซูเจ้าทุกข์ทรมาน การเบียดเบียน
เรามองดูชีวิตของเรามีแต่ความทุกข์ ความเจ็บปวด เรามีคำถามเสมอ เมื่อไหร่จะสบาย เมื่อไหร่จะ
มีความสุข เรามองแค่นี้ แค่โลกนี้ เราได้ยินเสียงของโลกนี้เท่านั้น
สิ่งที่เราจะต้องมองให้ไปไกลๆ ก็คือ เมื่อผ่านความทุกข์ยากลำบาก เมื่อผ่านการเบียดเบียน เมื่อ
ผ่านการเผชิญกับปัญหาต่างๆ เราจะได้รับชีวิตนิรันดร เราจะกลับคืนชีพพร้อมกับพระองค์
ให้เรามีความหวัง...ที่ถูกต้อง
ความหวัง : เป็นใหญ่
บรรดาศิษย์มองการเข้าสู่กรุงเยรูซาเล็มของพระเยซูเจ้า เป็นโอกาสที่พวกเขาจะได้เป็นใหญ่
มีหน้ามีตา มีชื่อเสียง มีผู้คนกราบไหว้ พวกเขาอยู่กับพระเยซูเจ้ามาด้วยความยากลำบาก
ด้วยควาทุกข์ คงจะถึงเวลาแล้วที่พวกเขาจะสบาย จะได้อยู่อย่างเป็นสุข ไม่ต้องเร่ร่อนไปไหน
มาไหนอีก
พวกเขาอยากจะเป็นใหญ่ อยากจะเป็นที่หนึ่ง อยากจะเหนือคนอื่นๆ ตามค่านิยมและโลกนิยม
ที่พวกเขาต้องการและตอบสนอง
ขอนั่งข้างขาวคนหนึ่ง นั่งข้างซ้ายอีกคนหนึ่ง.. แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงความคิดและความ
ปรารถนาที่แท้จริงในการเป็นศิษย์ ในการติดตามพระเยซูเจ้า พวกเขาติดตามด้วยความตาบอด
ใจบอด หวังแต่สิ่งในโลกนี้ เหมือนคนตาบอดที่มองไม่เห็นสิ่งใด
คุณค่าของโลกครอบงำจิตใจของเรามากเท่าใด ตาของเราก็จะยิ่งบอดสนิทมากขึ้นเท่านั้น
เราจะมองไม่เห็นคุณค่าที่เป็นแก่นแท้ เราจะมองไม่เห็นคุณค่าที่แท้จริงของชีวิต ของพระเยซูเจ้า
เราจะมองเห็นแต่ตัวเอง และโลกเท่านั้น
คำสอนของพระเยซูเจ้า : การรับใช้
การรับใช้ เป็นเส้นทาง หรือหนทางแห่งการเป็นศิษย์อย่างแท้จริง ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร อยู่ตรง
ไหน หรือทำอะไร "การรับใช้" คือ หัวใจของความยิ่งใหญ่
รับใช้ ด้วย จิตใจ
รับใช้ด้วย หัวใจ
รับใช้ด้วย จิตวิญญาณ
เขียนโดย don Pietro Virote Phosawang ที่ 16:18 0 ความคิดเห็น
วันอาทิตย์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2559
อาทิตย์สัปดาห์ที่ 2 ธรรมดา ปี c
บทเทศน์
"ผม (ดิฉัน) ขอรับคุณเป็นภรรยา (สามี) และขอสัญญาว่าจะถือซื่อสัตย์ต่อคุณ ทั้งในยามสุขและยามทุกข์ ในเวลาเจ็บป่วย และสบาย เพื่อรักและยกย่องให้เกียรติคุณ จนกว่าชีวิตจะหาไม่"
เมื่อเราไปร่วมพิธีแต่งงาน หรือ ไปร่วมงานแต่ง สิ่งที่สัมผัสได้ คือ บรรยาศของความสุข ความดีใจ ความยินดี บรรยาศของความสนุกสนาน รื่นเริง เป็นความสุขของทุก ๆ คนที่อยู่ในงานแต่ง
บ่าวสาว ผู้มาร่วมงาน แต่งตัวสวยๆ งาม ๆ หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส สีสัน สีชมพู สีสะอาดงามตาม ดอกไม้ ประดับประดา ทำให้มีความสุขใจ และเอิ่มใจ
บ่าวสาว มีความสุข พร้อมกับกล่าวถ้อยคำ ข้างต้น เพราะความรัก.. จึงกล่าวสิ่งนี้
พี่น้องที่รัก หลายคนเคยกล่าวถ้อยคำนี้ครั้งเดียวจนตลอดชีวิตบ้าง บางคนกล่าวสองครั้งบ้าง บางคนแทบยังไม่กล่าวเลยก็มี เรากล่าวถ้อยคำ คำนี้มาหลายปีแล้ว เรากล่าวว่า เราจะรักกัน หนุ่มสาวกล่าวถ้อยคำ ด้วยความหนักแน่นและเต็มใจ กล่าวออกมาต่อหน้าพยานหลาย ๆ คน ให้เราคิดถึงบรรยาศของงานของเราดูสิว่า มีความสุขมากแค่ไหน?
พระเยซูเจ้า แม่พระ และบรรดาศิษย์ไปร่วมงานแต่ง ที่หมู่บ้านคานา ในแคว้นกาลิลี ทุกคนมีความสุข เสียงหัวเราะ สนุกสนาน บรรดาศิษย์ก็คงจะเต็มที่กับงานอย่างแน่นอน
แต่แล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ เหล้าองุ่นหมด.. นั่นเป็นเครื่องหมายว่า การเตรียมงานไม่พร้อม ผู้จัดงานเลี้ยงไม่ใช่มืออาชีพ ขายหน้า เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น น่าอับอาย
ถ้าหากเราจะเปรียบ เหล้าองุ่น เหมือนกับความรักของ "บ่าว-สาว" ในงานแต่งงาน ทุกคนมีความสุข ในวันแต่งงานโลกเป็นสีชมพู หวาน สวยงาม หอม สดชื่น ต่างคนต่างมีสิ่งดีดีให้แก่กัน ต่างคนต่างแสดงออกถึงสิ่งที่ดีดีต่อกัน
เหล้าองุ่นหมด ความรักลดลง หรือ หมดไปในชีวต จะเกิดอะไรขึ้น?
คำตอบ "การหย่าร้าง" "การตัดขาดความสัมพันธ์ต่อกัน" "การหันหลังให้กัน" กลายเป็นคู่ขนาน ไม่ใช่คู่ชีวิต กลายเป็นคนแปลกหน้า แทนคนรู้ใจ กลายเป็นคนอื่น แทน คนรัก
หนังสือประกาศกอิสยาห์ ในบทอ่านที่หนึ่ง
พระเจ้าทรงบอกกับชาวอิสราเอลว่า สมรสแล้ว นั่นเป็นเครื่องหมายว่า พระเจ้าทรงเป็นเจ้าบ่าว ส่วนประชาชนอิสราเอล เป็นเจ้าสาว
เจ้าบ่าว ที่รักเจ้าสาวอย่างมาก รักมากมาย จนยอมส่งพระบุตรลงมาบังเกิดเป็นมนุษย์ และตายเพื่อพวกเขา รักมาก อยู่ใกล้ชิดกับพวกเขาตลอดเวลา เป็นความรักที่ไม่เปลี่ยนแปลง และไม่มีวันหมดไป
"จงชื่นชมยินดีเถิด" พระเจ้าอยู่ใกล้ พระเจ้าอยู่กับท่าน พระเจ้าสดับฟังท่าน พระเจ้าทรงเป็นเจ้าบ่าวของท่าน
เหล้าองุ่นหมด... ความรักหดหายไปในคู่ชีวิต คู่แต่งงาน ทำอย่างไร?
พระเจ้าทรงเป็นเจ้าบ่าวที่มีความ "อดทนสูง" ทำดี นำทาง ช่วยเหลือ ปราบศัตรูให้กับชาวอิสราเอล สิ่งที่ได้รับคือ การทรยศ การนมัสการพระบาอัล การหันหลังหนี การไม่รู้สำนึก การบ่น ต่อว่า การด่าว่า กล่าวผรุสวาส แต่พระเจ้า ทรง "อดทน" และรอคอยด้วยความหวัง
เหล้าองุ่นหมด..ความรัดหดหายไป
สามี-ภรรยา อยู่ด้วยกัน สัญญาจะอยู่ด้วยกัน จะรักกันจนตลอดชีวิต จงเลียนแบบความรักของพระเจ้า "อดทน" ต่อกัน
การหย่าร้างเกิดขึ้นเพราะขาดความอดทน สามีรับไม่ได้กับภรรยา ภรรยารับไม่ได้กับพฤติกรรมของสามี ดื่มเหล้า พูดจาด่าว่า...
เหล้าองุ่นหมด..
สามี-ภรรยา อย่าลืม "แม่พระ" สวดภาวนาด้วยกัน สวดภาวนาให้กัน แม่พระรีบไปบอกพระเยซูเจ้าว่า เจ้าภาพเหล้าหมด เมื่อเราภาวนา แม่พระจะรีบไปบอกพระเยซูเจ้า ว่า ความรักของเรากำลังลดลง พระองค์จะได้เติมความรักของเราให้เต็มเปี่ยมล้นเช่นเดิม
ขอพระเจ้าอวยพร
เขียนโดย don Pietro Virote Phosawang ที่ 04:26 0 ความคิดเห็น
วันจันทร์ที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2559
สัมมนาสงฆ์หนุ่ม 4 มิสซังอีสาน
จุดประสงค์ของกลุ่มสงฆ์หนุ่ม
1. เพื่อความเป็นหนึ่งเดียวกันในกลุ่มสงฆ์หนุ่ม 4 มิสซังอีสาน
2. เพื่อสร้างความสัมพันธ์ และการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
วจนพิธีกรรมเปิด
โดย พระคุณเจ้าลือชัย ธาตุวิสัย
เขียนโดย don Pietro Virote Phosawang ที่ 07:28 0 ความคิดเห็น
วันอาทิตย์ที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2559
สมโภชพระคริสตเจ้าสำแดงองค์2016
พระคริสตเจ้าสำแดงองค์
เขียนโดย don Pietro Virote Phosawang ที่ 00:34 0 ความคิดเห็น