การต้อนรับสมณฑูตปีเตอร์ ที่สำนักมิสซังท่าแร่-หนองแสง
พระสงฆ์เป็นผู้รับใช้
พระสงฆ์ดำเนินชีวิตอย่างเรียบง่าย
พระสงฆ์เป็นแบบอย่างพระคริสต์ผู้ตำต้อย
พระสงฆ์เป็นกันเอง
พระสงฆ์มีชีวิตท่ามกลางทุกคน
พระองค์ดำรงตนในพระคริสต์
การต้อนรับสมณฑูตปีเตอร์ ที่สำนักมิสซังท่าแร่-หนองแสง
พระสงฆ์เป็นผู้รับใช้
พระสงฆ์ดำเนินชีวิตอย่างเรียบง่าย
พระสงฆ์เป็นแบบอย่างพระคริสต์ผู้ตำต้อย
พระสงฆ์เป็นกันเอง
พระสงฆ์มีชีวิตท่ามกลางทุกคน
พระองค์ดำรงตนในพระคริสต์
เขียนโดย don Pietro Virote Phosawang ที่ 03:55 0 ความคิดเห็น
บทเทศน์
วันนี้ เราทำการสมโภชพระวรกายและพระโลหิตพระคริสตเจ้า หรือ เรียกว่า สมโภชศีลมหาสนิท ซึ่งในความหมายคือ เป็นการสมโภชการประทับอยู่ของพระเจ้าอย่างแท้จริงในชีวิตของเรา
หลังจากสมโภชปัสกา การผ่านความทุกข์ทรมาน ความตายและการกลับคืนพระชนมชีพของพระเยซูเจ้า เราททำการสมโภชพระเยซูเจ้าเสด็จสู่สวรรค์เพื่อประทับเบื้องขวาของพระบิดา พระองค์ทรงมาจากสวรรค์ ทรงเป็นพระเจ้า จึงเสด็จสู่สวรรค์ และจากนั้น เราทำการสมโภชพระจิตเจ้า พระจิตเจ้าเสด็จลงมาเพื่อนำทาง สอน และช่วยเหลือเรา จากนั้นเราทำการสมโภชพระตรีเอกภาพ คือ พระเจ้าเดียว สามพระบุคคล พระบิดา พระบุตรและพระจิต ทำให้เราเข้าใจพระเทวภาพของพระเจ้าและความรักของพระองค์มากขึ้น
วันนี้ เราทำการสมโภชพระวรการและพระโลหิต หรือศีลมหาสนิท ซึ่งพระเยซูเจ้าทรงตั้งขึ้นในวันพฤหัสบดีศักดิ์สิทธิ์ "นี่คือกายของเรา นี่คือโลหิตของเรา จงกิน จงดื่มเถิด" นี่คือ การประทับอยู่ของพระเจ้าอย่างแท้จริง อย่างเห็นได้ชัดเจน และอย่างเห็นได้เป็นรูปธรรม นี่เป็นการแสดงออกถึงความรักของพระเจ้าที่มีต่อมนุษย์ นี่เป็นการหล่อเลี้ยงมนุษย์อย่างแท้จริง
พี่น้อง ปังที่ถูกบิออก และถ้วยที่แบ่งกันดื่ม เป็นสัญลักษณ์ที่หมายถึงการที่เราเองจะต้องกินและดื่มเลือดเนื้อของพระเยซูเจ้า เพื่อจะได้มีส่วนร่วมในพระองค์ เพื่อเป็นเครื่องหมายบ่งบอกถึง ความเป็นหนึ่งเดียวกัน
เราเองก็ต้องบิตัวเองออก เราเองก็ต้องแบ่งเลือดเนื้อของเราให้แก่กันและกัน หมายความว่า การมีใจเหมือนพระเยซูเจ้า รักกัน แบ่งปันสิ่งที่จำเป็น และสิ่งที่ดีให้แก่กันและกัน
เสียสละตนเอง และรับใช้กันและกัน นี่คือความรักต่อกันและกัน
พระเยซูเจ้าตรัสว่า
ถ้าท่านไม่กินเนื้อของบุตรแห่งมนุษย์ และไม่ดื่มโลหิตของเขา ท่านจะไม่มีชีวิตในตนเอง ผู้ที่กินเนื้อของเรา และดื่มโลหิตของเรา ก็มีชีวิตนิรันดร เพราะเนื้อของเราเป็นอาหารแท้
และโลหิตของเราเป็นเครื่องดื่มแท้ ผู้ที่กินเนื้อของเรา และดื่มโลหิตของเรา ก็ดำรงอยู่ในเรา และเราก็ดำรงอยู่ในเขา ผู้ที่กินปังนี้จะมีชีวิตอยู่ตลอดไป” (เทียบ ยน 6:53-58)
พระสันตะปาปายอห์น
ปอล ที่ 2 ตรัสว่า “ฃีวิตของพระศาสนจักรมาจากศีลมหาสนิท”แน่นอนว่า
ชีวิตของคริสตชนก็มาจากศีลมหาสนิท เพราะศีลมหาสนิทคือเนื้อและเลือดของพระเยซูเจ้า
เป็นอาหารแท้ และเครื่องดื่มแท้ ผู้ที่กินและดื่มจะมีชีวิตนิรันดร อาหารนี้คือ
อาหารฝ่ายจิตวิญญาณ ที่ทำให้เรามีชีวิตในพระเจ้า
เขียนโดย don Pietro Virote Phosawang ที่ 01:00 0 ความคิดเห็น
4 มิถุนายน 2005 - 4 มิถุนายน 2023 ปีแต่ละปีมีพระพร
" ข้าพเจ้าเป็นผู้รับใช้ของพระเจ้า จงเป็นไปกับข้าพเจ้าตามน้ำพระทัยเถิด"
ชีวิตพระสงฆ์
เป็นชีวิตเพื่อคนอื่น
การมอบตนเองทั้งครบในวันบวช เป็นเครื่องหมายถึงการสละตนเอง น้ำใจของตนเอง เพื่อติดตามพระเยซูเจ้าในฐานะการเป็นศิษย์ที่ใกล้ชิด ในฐานะการเป็นบุคคลที่คล้ายกับพระองค์ เพื่อทำให้งานของพระองค์ทำเร็จไป เพื่อสืบสานพันธกิจของพระองค์ให้เกิดขึ้นในชีวิตนี้
ความเป็นตัวของตัวเองลดลง สิ่งที่เพิ่มเข้ามาคือชีวิตของพระเยซูเจ้า ความคิด อารมณ์ จิตใจ ความรู้สึก หรือแม้แต่การกระทำที่เป็นตัวตนของตนเอง ต้องลดลง เพื่อให้พระเยซูเจ้าเข้ามาอยู่ในความคิด อารมณ์ จิตใจ ความรู้สึก และกระทำเช่นเดียวกับที่พระองค์กระทำ
สละครอบครัว ไม่ใช่ทิ้งครอบครัว และไม่ใช่แสวงหาครอบครัว
ทุกชีวิตต้องเติบโตและก้าวไป แต่ละเส้นทางมีทางของตัวเอง แต่ละเส้นทางมีความเป็นไปได้ มีความสุข และความทุกข์ควบคู่กันไป การแทรกแซงเส้นทางของกันและกัน เป็นการทำลายตนเองและทำลายธรรมชาติของเส้นทางเดินโดยตั้งใจ ฉะนั้น การปล่อยให้ครอบครัวเดินตามเส้นทางของตนเอง และเราเองก็เดินตามเส้นทางของเรา จึงเป็นทางคู่ขนานที่สวยงาม และเป็นทางคู่ขนานที่นำไปสู่ความศักดิ์สิทธิ์ในพระเจ้า
เขียนโดย don Pietro Virote Phosawang ที่ 05:00 0 ความคิดเห็น
บทเทศน์
เดชะพระนาม พระบิดา และพระบุตร และพระจิต
พี่น้องที่รัก วันนี้ พระศาสนจักรทำการสมโภช "พระตรีเอกภาพ" ซึ่งธรรมล้ำลึกแห่งพระตรีเอกภาพ เป็นแก่นของคำสอนของพระศาสนจักร เป็นข้อความเชื่อที่ไม่อาจบิดเบือนได้ ไม่อาจตัดทิ้ง หรือ ไม่อาจเสริม ต่อ เติมได้
คริสตชนไม่สามารถเข้าใจได้ด้วยสติปัญญา ไม่สามารถเข้าใจด้วยความคิด แต่สามารถเข้าใจได้ด้วยหัวใจของเราเอง
พระเจ้าหนึ่งเดียว สามพระบุคคล คือ พระบิดา พระบุตร พระจิตเจ้า พระเจ้าหนึ่งเดียว ไม่อาจเป็นสอง หรือ สามได้ แต่พระเจ้าหนึ่งเดียวนี้ มีสามพระบุคคลที่แตกต่างกัน เท่าเสมอกัน เป็นหนึ่งเดียวกัน
3 บทบาทที่แตกต่างกัน
พระตรีเอกภาพ พระเจ้าหนึ่งเดียว สามพระบุคคล ในภาษาลาติน คำว่า persona หมายถึง หน้ากากที่นักแสดงสวมใส่เพื่อแสดงออกถึงบทบาทหรือหน้าที่ที่ตนเองได้เล่น นั่นคือ แสดงออกมาภายนอกตามบทบาทที่หน้ากากเป็น สวมหน้ากากอะไร ก็แสดงออกมาอย่างนั้น
พระตรีเอกภาพไม่ได้แสดงออกถึงบทบาทต่างๆ ตามหน้ากากที่สวม แต่พระตรีเอกภาพเป็นพระเจ้าหนึ่งเดียว แสดงออกมาในลักษณะ 3 ที่แตกต่างกัน เป็นพระเจ้าหนึ่ง พระเจ้าเดียว แต่เป็นสามพระบุคคลที่แตกต่างกัน
พระเจ้า พระบิดา ทรงเป็นพระผู้สร้าง ทรงสร้างและจัดการทุกสิ่งในสิ่งสร้างของพระองค์ ทุกสิ่งมาจากพระบิดา
พระเจ้า พระบุตร ทรงเป็นผู้ช่วยให้รอด ทรงเป็นพระผู้ไถ่ ไถ่บาปของเราและทำให้เราคืนดีกับพระเจ้าพระบิดา พระองค์ทรงสร้างสะพานระหว่างมนุษย์กับพระเจ้า
พระเจ้า พระจิตเจ้า ผู้บันดาลความศักดิ์สิทธิ์ ทำให้เราศักดิ์สิทธิ์ ให้เราเข้มแข็ง ให้เรามีกำลัง สอนเรา สร้างเรา และนำเราไปหาพระเจ้า เราพบปะกับพระเจ้าผ่านทางพระจิตเจ้าที่กระทำในตัวของเรา และผ่านทางตัวเรา และคนอื่น สิ่งสร้างใหม่ ทำให้เกิดสิ่งใหม่
แน่นอนว่า พระตรีเอกภาพคือ พระเจ้าแห่งความเป็นจริง แสดงออกในการเป็นพระบิดา พระบุตร และพระจิต เรารู้จักพระเจ้าผ่านการเผยแสดงทาง "พระคัมภีร์" ซึ่งแสดงให้เห็นว่า พระเจ้าทรงเป็น "ความรัก" ความรักของพระเจ้าแสดงออกมาในพระบุตรของพระองค์ คือพระเยซูเจ้า เราอยากเห็นพระเจ้า ก็ดูพระบุตร ดูพระบุตรก็ดูพระเยซูเจ้า เพราะพระองค์ทรงเป็นพระเจ้าที่สามารถมองเห็นได้ มองดูความรักที่พระเยซูเจ้าสอนและแสดงออกมา ก็จะพบความรักของพระเจ้า ความรักที่ยอมตายได้
พระเจ้าทรงเป็นความสมบูรณ์ของความรักซึ่งแสดงออกมาในพระตรีเอกภาพ พระเจ้าคือ ความรัก คือพระบิดา คือผู้ที่รัก พระบุตรเป็นผู้ถูกรัก พระจิตเจ้าเป็นความรักที่ดำรงอยู่ที่มาจากพระบิดาและพระบุตร
ให้เราทำสำคัญมหากางเขนทุกวัน ทุกที่ ทุกเวลา เดชะพระนาม พระบิดา และพระบุตร และพระจิต อาแมน
เขียนโดย don Pietro Virote Phosawang ที่ 00:00 0 ความคิดเห็น