บทเทศน์
สมโภชนักบุญเปโตรและนักบุญเปาโล
พี่น้องที่เคารพรัก
วันนี้พระศาสนจักรทำการสมโภชนักบุญเปโตรและนักบุญเปาโลอัครสาวก
ซึ่งเป็นเสมือนเสาหลักของพระศาสนจักร
ซึ่งเป็นการค้ำชูพระศาสนจักรให้ตั้งมั่น
หนุนนำพระศาสนจักรให้ตั้งตรงและถูกต้องในพระคริสตเจ้า
เสาหลักของพระศาสนจักร คือ อะไร? เสาหลักแรกคือ เปโตร คือ ศิลา คือ
ความเชื่อ
เสาหลักอีกเสาคือ เปาโล คือ วาจา คือ การประกาศ
การสร้างความแข็งแกร่ง
การเป็นเหมือนศิลาที่หนักแน่น มั่นคงและซื่อตรง
ท่านนักบุญเปโตรได้กระทำด้วยวิธีการ “อยู่กับพระเยซูเจ้า ฟังเสียงขององค์
ดูชีวิตของพระองค์ และติดตามพระองค์” นี่คือ
วิธีการที่จะทำให้เราเป็นเหมือนศิลาที่แข็งแกร่ง ตั้งมั่นอย่างสง่าและมั่นคง ฝนจะตก น้ำจะไหลเชี่ยว ลมจะพัดโหมเข้าใส่ก็ไม่สามารถทำให้บ้านเรือนหรือจิตใจของเราพังทลายได้
พี่น้อง ความเชื่อของเราจะต้องหนักแน่น
และมั่นคงอย่างกับศิลา อย่างกับหิน ไม่โอนเอียงไปกับอิทธิพลของโลก
อิทธิพลของค่านิยมทางโลก ความสุข สนุกสนานรื่นรมณ์ ความพึงพอใจในโลกนี้
ความเชื่อเราจะต้องสง่างามด้วยการดำเนินชีวิตที่ซื่อสัตย์เสมอ
ความเชื่อที่แข็งแกร่งดุจศิลา มาจาก การดำเนินชีวิตทีละเล็กทีละน้อย
ค่อยๆ เข้มแข็งและกล้าแกร่ง เริ่มจากการไปวัดทุกวันอาทิตย์ การสวดภาวนาทุกวัน
การอ่านพระคัมภีร์ ทีละเล็กทีละน้อย
ทำให้เรามีความรักและความสัมพันธ์กับพระเจ้า การมีความสัมพันธ์ที่ถูกต้องกับพระเยซูเจ้า
เหมือนอย่างนักบุญเปโตรใช้ชีวิตกับพระเยซูเจ้าทุกวัน ทีละเล็กทีละน้อยชีวิตของพระเยซูเจ้าค่อยๆก่อร่างสร้างตัวในชีวิตของนักบุญเปโตร
จนในที่สุดท่านได้ทำให้ชีวิตของท่านเป็นพยานถึงพระคริสตเจ้าด้วยชีวิต
ด้วยการสละชีวิต ด้วยการยอมตายบนไม้กางเขน
นี่คือ คำพูดของนักบุญเปโตรที่พูดกับพระเยซูเจ้าในพระวรสารนักบุญมัทธิว
14 ครั้ง เป็นคำพูดที่ง่ายๆ ตามสถานการณ์ของชีวิต ไม่ใช่คำพูดที่ปรุงแต่ง
แต่แฝงด้วยความจริงใจ
มธ 14:28
“พระเจ้าข้า ถ้าเป็นพระองค์ ก็จงสั่งให้ข้าพเจ้าเดินบนน้ำไปหาพระองค์เถิด”
มธ 15:15 “โปรดอธิบายข้อความที่เป็นปริศนานี้เถิด”
มธ 16:16 “พระองค์คือพระคริสตเจ้า พระบุตรของพระเจ้าผู้ทรงชีวิต
มธ 16:22 “ขอเถิด พระเจ้าข้า เหตุการณ์นี้จะไม่เกิดขึ้นกับพระองค์อย่างแน่นอน”
มธ 17:4 “พระเจ้าข้า ที่นี่สบายน่าอยู่จริงๆ
ถ้าพระองค์มีพระประสงค์ ข้าพเจ้าจะสร้างเพิงขึ้นสามหลัง หลังหนึ่งสำหรับพระองค์ หลังหนึ่งสำหรับโมเสส อีกหลังหนึ่งสำหรับเอลียาห์”
มธ 17:25 “เสียซิ”
มธ 17:26 “จากคนอื่น”
มธ 18:21 “พระเจ้าข้า ถ้าพี่น้องทำผิดต่อข้าพเจ้า ข้าพเจ้าต้องยกโทษให้เขาสักกี่ครั้ง ถึงเจ็ดครั้งหรือไม่
มธ 19:27 “ข้าพเจ้าทั้งหลายสละทุกสิ่งและติดตามพระองค์แล้ว จะได้อะไรบ้าง”
มธ 26:33 “แม้ทุกคนจะทอดทิ้งพระองค์ ข้าพเจ้าก็จะไม่ทอดทิ้งพระองค์เลย”
มธ 26:35 “ถึงแม้ข้าพเจ้าจะต้องตายพร้อมกับพระองค์ ข้าพเจ้าก็จะไม่ปฏิเสธพระองค์เลย”
มธ 26:70 “ฉันไม่รู้ว่าท่านพูดเรื่องอะไร”
มธ 26:72 “ฉันไม่เคยรู้จักคนนั้นเลย”
มธ 26:74 “ฉันไม่รู้จักคนนั้น”
พี่น้อง เสาหลักอีกเสาหนึ่งก็คือ นักบุญเปาโล
คือ วาจา คือ การประกาศ นักบุญเปาโลเป็นคนมีปัญญาที่ดี มีพรสวรรค์ มีใจกระตือรือร้น
ยึดมั่นและแน่วแน่ในตัวเอง ในความจริงของตัวเอง จุดเปลี่ยนคือ การพบปะกับพระเยซูเจ้าผู้ทรงกลับคืนพระชนมชีพ
เปลี่ยนสิ่งที่ยึดมั่น เปลี่ยนสิ่งที่แน่วแน่ และใช้พรสวรรค์ สติปัญญา
ความฉลาดรู้เพื่อประกาศถึงข่าวดีในการกลับคืนพระชนมชีพของพระเยซูคริสตเจ้า
ในหนังสือกิจการอัครสาวก 22:6-10
ได้บันทึกถึงประสบการณ์การพบกับพระเยซูคริสตเจ้าของนักบุญเปาโล
เวลาประมาณเที่ยงวัน ขณะที่ข้าพเจ้ากำลังเดินทางใกล้จะถึงเมืองดามัสกัส ทันใดนั้นมีแสงสว่างจ้าจากท้องฟ้าล้อมรอบตัวข้าพเจ้าไว้ ข้าพเจ้าล้มลงที่พื้นดินและได้ยินเสียงพูดกับข้าพเจ้าว่า “เซาโล เซาโล เจ้าเบียดเบียนเราทำไม” ข้าพเจ้าจึงถามว่า “พระเจ้าข้า พระองค์คือใคร” พระองค์ตรัสกับข้าพเจ้าว่า “เราคือเยซูชาวนาซาเร็ธ
ซึ่งเจ้ากำลังเบียดเบียนอยู่” คนที่อยู่กับข้าพเจ้าเห็นแสงสว่าง แต่ไม่ได้ยินเสียงคนที่พูดกับข้าพเจ้า แล้วข้าพเจ้าถามอีกว่า “พระเจ้าข้า ข้าพเจ้าจะต้องทำอะไร” องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับข้าพเจ้าว่า“จงลุกขึ้น เข้าไปในเมืองดามัสกัส ที่นั่นจะมีคนบอกทุกสิ่งที่พระเจ้าทรงกำหนดให้เจ้าทำ”
พี่น้อง
ประสบการณ์กับพระเจ้า ทำให้เราสามารถกล้าที่จะพูด
ที่จะประกาศถึงพระนามของพระองค์ได้อย่างดีและเต็มที่โดยไม่อายใครและด้วยความมั่นใจ
ท่านประกาศแม้จะประสบความยากลำบาก แม้จะต้องเผชิญกับอันตรายต่าง ๆ มากมายก็ตาม
ทั้งจากมนุษย์และจากธรรมชาติ แต่ด้วยความแน่วแน่ ด้วยความตั้งใจที่จะนำข่าวดีออกไปสู่ทุกคน
ท่านไม่ยอมแพ้
ท่านได้นำพระวาจาคือชีวิตของพระเยซูคริสตเจ้าที่เป็นชีวิตของท่านออกไปสู่ทุกคน
พี่น้อง
เราสมโภชนักบุญเปโตรและนักบุญเปาโลในวันนี้ ทำให้เราเห็นว่า
เรามีภารกิจที่จะต้องทำนั่นคือ 1. การสร้างความเชื่อของตนเองให้เข้มแข็ง หนักแน่น
และมั่นคงจนตลอดชีวิต 2.เราจะต้องประกาศข่าวดีเกี่ยวกับพระเยซูเจ้า นั่นคือ
พระองค์ทรงกลับคืนพระชนมชีพจากความตาย แก่ทุกคนที่อยู่รอบข้าง นี่คือ ภารกิจ นี่คือสิ่งที่เราจะต้องทำ
เพื่อเป็นอีกเสาหนึ่งของพระศาสนจักรในการที่จะค้ำชู หนุนนำ
และทำให้พระศาสนจักรตั้งมั่นตลอดไป
ขอให้ทุกท่านจงเจริญสุขเทอญ
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น