บนเส้นทางแห่งความรัก ๑๒

ชีวิตแต่งงานมุ่งไปสู่ความบริสุทธิ์/การถือพรหมจรรย์

แต่งงานแล้วจะถือพรหมจรรย์ได้อย่างไร?

แต่งงานแล้วจะยังถือว่าบริสุทธิ์อยู่อีกหรือ??

ถามแปลก แปลก

ชีวิตแต่งงานนั่นแหละ

ยิ่งต้องถือความบริสุทธิ์ และยิ่งต้องหนักแน่น

ในการถือพรหมจรรย์

ทำไม..เป็นอย่างนี้??

คนที่แต่งงานแล้วจะปล่อยปละละเลย

ปล่อยเนื้อปล่อยตัวไม่ได้

คนที่แต่งงานแล้ว

จะทำตัวเหมือนหนุ่มสาว เที่ยวจีบคนนั่น คนนี้ ไม่ได้

จะทำตัวเหมือนคนโสด ไม่ได้..

คนที่แต่งงานแล้ว

ต้องครองความบริสุทธิ์ไว้เฉพาะกับคู่ชีวิตของตนเท่านั้น

ต้องรักษาความบริสุทธิ์ไว้เฉพาะกับสามี/ภรรยาในศีลศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น

คนที่แต่งงานแล้ว

จะต้องถือความเป็นพรหมจรรย์ไว้กับคู่ชีวิตของตน

จะต้องสงวนความเป็นพรหมจรรย์ให้กับสามี/ภรรยาในศีลศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น

คิด  พูด และทำง่าย ๆ ก็คือ ผัวเดียว เมียเดียว  นั่นเอง

ผู้ใดมองหญิงด้วยความใคร่ ก็ได้ล่วงประเวณีกับนางในใจแล้ว  (มธ 5:28)

สามีภรรยาต้องครองความบริสุทธิ์และความเป็นพรหมจรรย์ไว้ให้แก่กันและกันเท่านั้น

จะแบ่งปันให้กับชายหรือหญิงอื่นใดไม่ได้เด็ดขาด

เพราะร่างกายเดียว จิตใจเดียว

เพราะร่างกายและจิตใจเป็นหนึ่งเดียวกัน

ในคู่ชีวิตของตนเองเท่านั้น

นี่เป็น ความเปราะบางที่สุดสำหรับชีวิตแต่งงาน

การถือความบริสุทธิ์ การถือพรหมจรรย์

การกระทำ.. เพียงแค่ครั้งเดียว..แต่มีผลตลอดไป

รอยแตกร้าวจะเกิดขึ้นในจิตใจของคู่ชีวิตของตน

รอยแตกร้าวจะเกิดขึ้นในครอบครัวของตนทันที

ความบริสุทธิ์ทั้งทางกายและจิตใจ

จะต้องรักษาและสงวนไว้ควบคู่กันไป

ครอบครัวคริสตชน

เส้นทางเดินของการเป็นคริสตชนก็คือ การมุ่งสู่พระเจ้า

ร่วมในความศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์

ร่วมในความบริสุทธิ์ของพระองค์

จะแต่งงาน หรือถือพรหมจรรย์ ก็สามารถร่วมในความบริสุทธิ์

และในความศักดิ์สิทธิ์กับพระเจ้าได้เหมือนกัน