การไตร่ตรอง.. บทเทศน์ พระสังฆราช ENRICO DAL COVOLO
"จงฟังเถิด" บทสอนของพระเจ้าและพระศาสนจักรในเรื่องเกี่ยวกับกระแสเรียกของการเป็นพระสงฆ์
วันที่ ๓ มกราคม ๒๐๑๑
ในการฝึกปฏิบัติของพวกเรามีสองรูปแบบที่ใช้คือ เนื้อหาและวิธีการ
เนื้อหา.. เราจะมองดูประวัติศาสตร์ของกระแสเรียกการเป็นสงฆ์ของเรา
โครงสร้างในพระคัมภีร์จะเป็นดังนี้
การเรียกและการเลือกจากพระเจ้า
การตอบรับต่อการเรียก
พันธกิจ
ความยากลำบาก การผจญ การทดลอง ความสงสัยในการเรียก
การยืนยันจากพระเจ้า
วิธีการที่ใช้.. Lectio divina
Lectio การอ่านพระวาจาพระเจ้า
Mediatio การำพึง
Oratio การภาวนา
Contemplation การพิจารณาไตร่ตรองนำไปใช้
เวลา ๐๙.๑๐ น.
การกระทำแรกเริ่มในประวัติศาสตร์ทางพระคัมภีร์ของกระแสเรียก นั่นคือ การเรียกของพระเจ้า
๑. ในปฐมกาล กระแสเรียกคือพระหรรษทาน
๒. พระวาจา เทียบ ๑พกษ ๑๙: ๑-๒๑
๓. การรำพึง
๔. สำหรับการภาวนาและสำหรับชีวิต
๑ กระแสเรียกเป็นพระหรรษทาน..
พระเจ้าทรงเป็นแหล่งกำเนิดของทุกสิ่ง และกระแสเรียกก็มีจุดเริ่มต้นจากพระองค์..
ฉะนั้น เราจึงจำเป็นที่จะต้องมุ่งไปสู่ศูนย์กลางของการไตร่ตรองของเรา นั่นก็คือ ธรรมล้ำลึกของพระเจ้า..
ผ่านทาง lectio divina ซึ่งหล่อเลี้ยงประสบการณ์แห่งความเชื่อของบรรดาปิตาจารย์และของเราด้วย
“ไม่มีรูปแบบก็เป็นนักพรตที่ปราศจากพระวาจาของพระเจ้า”
เพื่อที่จะยืนยันว่า พระคัมภีร์เป็นเหมือนกัน “สองพระหัตถ์ของพระเจ้า”
ซึ่งได้สร้างเรา และได้สร้างเราอีกครั้ง..
ให้เรามองดู ประกาศกเอลียาห์ ซึ่งเป็นเสมือนตัวแทนของมนุษย์ที่แสวงหาพระเจ้า..
๒ บทอ่าน 1พกษ 19:1-21
ประกาศกเอลียาห์ถูกตามฆ่าจากกษัตริย์อาหับและพระมเหสี จึงได้หลบหนีไปในทะเลทราย
และท่านก็เต็มไปด้วยความท้อแท้ใจ และความกระวนกระวายใจ ท่านปรารถนาที่จะตายอีกต่างหาก..
แต่ด้วยอาศัยอาหารที่ทูตสวรรค์นำมาให้ ท่านกินและเดินทางตลอด 40 วัน 40 คืน จนไปถึงภูเขาของพระเจ้า
พระเจ้าตรัสถามท่านว่า “เอลียาห์ เจ้าทำอระไรอยู่?” เอลียาห์ตอบว่า ข้าพระองค์เต็มไปด้วยความกระตือรือร้นสำหรับพระองค์ แล้วพระเจ้าก็บอกให้เอลียาห์ออกจากถ้ำเพื่อพบปะกับพระองค์..
แล้วพระเจ้าทรงประทับอยู่ที่ไหน?
ไม่ประทับอยู่ในลม
ไม่ประทับอยู่ในแผ่นดินไหว
ไม่ประทับอยู่ในไฟ
ที่สุด ประกาศกได้ยินเสียงแผ่วเบาในความเงียบ แล้วพระเจ้าสั่งให้เอลียาห์ไปตามหนทางของตน
๓ การรำพึง
ให้เราพิจารณาดูว่า อะไรเป็นองค์ประกอบที่สำคัญในเรื่องเล่าเรื่องนี้?
๓.๑ ทะเลทราย
เป็นเหมือน “เงามืดในยามค่ำคืน” น่ากลัว และไร้ขอบเขต
การอยู่ในทะเลทราย เอลียาห์ได้สนทนากับพระเจ้า นั่นคือ การทำตัวเองให้ว่างเปล่า..
เพื่อจะได้มีประสบการณ์เกี่ยวกับพระเจ้า
ความว่างเปล่าในตัวเอง..เป็นเงื่อนไขที่สำคัญในการพบปะกับพระหรรษทานของพระเจ้า
สำหรับเรา.. เราทำตรงกันข้าม เราแสวงหา และพยายามสร้างสิ่งต่าง ๆ มากมายในชีวิต
เพื่อว่า ชีวิตของเราจะได้ไม่ว่างเปล่า..
หลายครั้งเราก็ลืมส่วนที่สำคัญที่สุดไปในชีวิตของเรา และสูญเสียส่วนที่ดีที่สุดไป
นั่นคือ การนั่งอยู่แทบเท้าของพระเยซูเจ้าเพื่อรับฟังพระวาจาของพระองค์
เมื่อเราละทิ้งตัวเอง พระหรรษทานของพระเจ้าก็จะเต็มเปี่ยมในชีวิตของเรา
๓.๒ อาหารของพระเจ้า
เส้นทางในทะเลทราย คือ ความว่างเปล่าภายในตัวเอง
เพื่อรับพระหรรษทานของพระเจ้า เป็นประสบการณ์ซึ่งไม่สามารถทำให้เป็นจริงได้
หากปราศจาก การเลี้ยงดูจากพระเจ้า..
ในทะเลทรายเราอาจจะหลงทางได้ เราอาจจะเผชิญกับสัตว์ที่ดุร้ายได้
เราอาจจะตายเพราะความหิวและกระหายได้..
แน่นอนว่า อาหารและน้ำจากสวรรค์เป็นเครื่องหมายถึงพระหรรษทานของพระเจ้า
และเป็นเสบียงอาหารสำหรับผู้มีความเชื่อเสมอ
๓.๓ การพบปะกับพระวาจาของพระเจ้า
ในส่วนหนึ่ง.. เป็นเวลานานที่พระเจ้าไม่ได้ตรัสอะไรเลยกับผู้รับใช้ของพระองค์
ในเวลานั้น เอลียาห์ต้องหลบหนี เหนื่อย และหมดความหวัง เพราพระเจ้าทรงเงียบอยู่..
แน่นอนว่า เอลียาห์ย่อมเจ็บปวดภายในจิตใจ เพราะในฐานะที่เป็นประกาศก
หากแต่ปราศจากพระวาจาของพระเจ้า..
ในอีกส่วนหนึ่ง..พระวาจาของพระเจ้าทำให้เกิดความเดือดร้อน
และเรียกร้องมากจนเกินไป พระจาวาของพระเจ้าขุดเจาะลงไปถึงส่วนที่เร้นลับที่สุดในหัวใจของเรา
แม้สิ่งที่ซ่อนอยู่ก็จะถูกเปิดเผย..
“เพื่อนเอ๋ย เจ้าทำอะไรอยู่ที่นี่ เจ้ามาที่นี่ทำไม?” เราจะตอบอย่างไร?
ข้าพระองค์อยู่ที่นี่ในช่วงเวลาของการฝึกปฏิบัติชีวิตภายในนี้..
ขอพระองค์ประทับอยู่เท่านั้น เพื่อข้าพระองค์จะได้กลายเป็นสงฆ์ที่ศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์...
๔ สำหรับการภาวนา และสำหรับชีวิต
จงพูดคุยกับพระเจ้าด้วยหัวใจ ต่อหัวใจ
จงพูดคุยกับพระเจ้าจากชีวิตของเราเอง
จงพูดคุยกับพระเจ้าแบบหน้าต่อหน้า
จงเปิดตัวเองออกโดยปราศจากเงื่อนไขใดใดทั้งสิ้น
จงเปิดตัวเองออกเพื่อต้อนรับสิ่งใหม่ ใหม่
จงเปิดตัวเองออกเพื่อที่จะเชื่อฟังต่อพันธกิจที่ได้รับ
จงเปิดตัวเองออกสู่พระเจ้า...
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น