มธ 9:32-37
32เมื่อคนที่เคยตาบอดทั้งสองคนจากไปแล้ว มีผู้พาคนใบ้ถูกปีศาจสิงคนหนึ่งมาเฝ้าพระเยซูเจ้า
33ครั้นปีศาจถูกขับออกไปแล้ว คนใบ้ก็พูดได้ ประชาชนต่างประหลาดใจ กล่าวว่า “ยังไม่เคยเห็นอะไรเช่นนี้เลยในอิสราเอล”
34แต่ชาวฟาริสีกล่าวว่า “คนนี้ขับไล่ปีศาจด้วยอำนาจของเจ้าแห่งปีศาจนั่นเอง”
35พระเยซูเจ้าเสด็จไปตามเมืองและตามหมู่บ้าน ทรงสั่งสอนในศาลาธรรม ทรงประกาศข่าวดีเรื่องพระอาณาจักร ทรงรักษาโรคและความเจ็บไข้ทุกชนิด
36เมื่อพระองค์ทอดพระเนตรเห็นประชาชน ก็ทรงสงสาร เพราะเขาเหล่านั้นเหน็ดเหนื่อยและท้อแท้ประดุจฝูงแกะที่ไม่มีคนเลี้ยง
37แล้วพระองค์ตรัสแก่บรรดาศิษย์ว่า “ข้าวที่จะเก็บเกี่ยวมีมาก แต่คนงานมีน้อย จงวอนขอเจ้าของนาให้ส่งคนงานมาเก็บเกี่ยวข้าวของพระองค์เถิด”
บทเทศน์
พี่น้องที่เคารพรัก เมื่อวานนี้ประกาศกโฮเชยา ได้บอกกับเราว่า
พระเจ้าทรงรักเรา พระองค์ทรงเป็นเหมือนกับสามีที่ซื่อสัตย์ และรักภรรยา
หมายถึงชาวอิสราเอลหรือมนุษย์อยู่เสมอ
ในวันนี้เราได้เห็นถึงความไม่ซื่อสัตย์
และ การทรยศของมนุษย์ต่อพระเจ้า เป็นเหมือนกับภรรยาที่ทรยศต่อสามี
ภรรยาไปมีชู้ โดยการกราบไหว้ นมัสการพระเท็จเทียม
กราบไหว้รูปเคารพ ที่หล่อด้วยเงิน ทองคำ พระเจ้าบอกว่า
รูปวัวหล่อทองคำนี้ไม่ใช่พระเจ้า
นอกจากนี้พวกเขายังได้สร้างแท่นบูชาขึ้นเพื่อถวายเครื่องบูชาแด่พระเจ้า แต่เมื่อถวายเครื่องบูชาเสร็จแล้วพวกเขาก็พากันกิน-
ดื่มกันจนเมามาย
ทำเหมือนกับว่าใช้แท่นบูชาของพระเจ้าเป็นศูนย์รวมของความสนุกสนานของพวกเขา การประพฤติเช่นนี้
เป็นการลบหลู่พระนามของพระองค์ เป็นการแสดงออกถึงความไม่เคารพ
และไม่เชื่อถึงพระองค์ พระเจ้าเที่ยงแท้ จากการกระทำอันน่ารังเกียจนี้เอง
การลงโทษจะมาถึงพวกเขาอย่างแน่นอน พวกเขาจะต้องได้รับโทษบาปที่พวกเขาได้กระทำ
ความไม่ซื่อสัตย์
และการนมัสการเงินทอง รูปเคารพต่าง ๆ
เป็นการดูหมิ่นพระเจ้าเที่ยงแท้อย่างร้ายกาจที่สุด
เรามาพิจารณาดูชีวิตของเราบ้าง? ทุกวันนี้ พระเท็จเทียม หรือ
การเอาใจออกห่างจากพระเจ้า หรือการกราบไหว้รูปเคารพต่าง ๆ
หรือการไม่ซื่อสัตย์ของพระเจ้า แสดงออกมาในหลาย ๆ รูปแบบ เช่น
การเลือกเอาสิ่งอื่นที่สำคัญมากกว่าพระเจ้า การยึดน้ำใจของตนเอง
มากกว่าการถือตามพระบัญญัติของพระเจ้า และการแสวงหาสิ่งวัตถุภายนอก มากกว่า
การแสวงหาพระเจ้า
หากชีวิตของเราเป็นเช่นนี้
เราจงหันกลับมาหาพระเจ้า เพื่อเราจะได้รับความรอดพ้น จงแสวงหาพระเจ้าก่อนอื่นใดหมด และจงแสวงหาพระอาณาจักรพระเจ้าเหนือสิ่งอื่นใด
ในพระวรสาร
เราได้เห็นถึงภารกิจของพระเยซูเจ้า ก็คือ การเทศน์สอน
การประกาศข่าวดีเรื่องพระอาณาจักรพระเจ้า
และการทำอัศจรรย์รักษาโรคและความเจ็บไข้ทุกชนิด เป็นภารกิจแห่งความรัก
ที่พระองค์พยายามเดินทางไปทั่วแคว้นต่าง ๆ ในอิสราเอล
เพราะต้องการให้ทุกคนได้รับความรอด
เพราะว่ามนุษย์เป็นเหมือนกับฝูงแกะที่ไม่มีผู้เลี้ยง
เป็นฝูงแกะที่ต้องเผชิญกับหมาป่าอยู่เสมอ
พระองค์ทรงสงสารและต้องการช่วยเราให้รอดพ้น
และภารกิจของพระเยซูเจ้า
เราก็ต้องซึ่งถือว่าเป็นภาระกิจของเราคริสตชนทุกคนด้วย ที่จะต้องเทศน์สอน ประกาศข่าวดีเรื่องพระอาณาจักรสวรรค์
และเยียวยารักษากันและกัน เป็นภารกิจของเราด้วยที่จะต้องนำความรอดที่เราได้รับจากองค์พระเยซูเจ้าไปสู่บุคคลอื่น
บรรดาเด็ก
ๆ เรามาวัดทุกวัน ๆ ต่อไปจะไม่เพียงพอ
เรายังมีข้อเรียกร้องจากพระเยซูเจ้าอีกนั่นก็คือ การชักชวนเพื่อน ๆ
ของเรามาวัดพร้อมกับเราด้วย
บรรดาผู้หลักผู้ใหญ่ เราก็ต้องดึงคนอื่นให้มารู้จักกับพระเยซูเจ้าให้ได้
สรุปแล้วก็เป็นหน้าที่ของเราทุกคนที่จะต้องทำให้คนที่อยู่รอบข้างของเรารู้จักกับพระเยซูเจ้า
และทำให้เราได้พบกับความรอด อาจจะใช้เวลาเป็นเดือน เป็นปี
แต่ขอให้เราเริ่มตั้งแต่วันนี้ ในการนำข่าวดีไปสู่บุคคลอื่น
นำความรักของพระเจ้าไปสู่ทุกคนที่เราได้พบ
ขอพระเจ้าเป็นพละกำลังแก่เราในการประกาศข่าวดีของพระองค์
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น