พระวรสาร
38พระเยซูเจ้าเสด็จจากศาลาธรรมเข้าไปในบ้านของซีโมน
มารดาของภรรยา
ซีโมนกำลังป่วยเป็นไข้หนัก
คนที่อยู่ที่นั่นอ้อนวอนพระองค์ให้ทรงช่วยนาง
39พระองค์จึงทรงก้มลงเหนือนางและบังคับไข้
นางก็หายไข้ ลุกขึ้นมารับใช้ทุกคนทันที
40เมื่อดวงอาทิตย์ตก
ผู้ที่มีคนเจ็บป่วยเป็นโรคต่าง ๆ นำผู้เจ็บป่วยเหล่านั้นมาเฝ้าพระองค์
พระองค์ทรงปกพระหัตถ์เหนือผู้ป่วยแต่ละคนและทรงรักษาเขาให้หายจากโรค
41ปีศาจออกจากคนจำนวนมาก พลางร้องตะโกนว่า “ท่านเป็นพระบุตรของพระเจ้า” แต่พระองค์ทรงสั่งไม่ให้ปีศาจพูด
เพราะมันรู้ว่าพระองค์เป็นพระคริสตเจ้า
42เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น
พระองค์เสด็จออกไปยังที่สงัด ประชาชนต่างเสาะหาพระองค์จนพบ
แล้วหน่วงเหนี่ยวพระองค์ไม่ยอมให้จากพวกเขาไป
43แต่พระองค์ตรัสว่า “เราต้องประกาศข่าวดีเรื่องพระอาณาจักรของพระเจ้าให้แก่เมืองอื่นด้วย
เพราะเราถูกส่งมาก็เพื่อการนี้”
44พระองค์จึงทรงเทศน์สอนตามศาลาธรรมแห่งแคว้นยูเดีย
บทเทศน์
พี่น้องที่เคารพรัก ภารกิจหรือเป้าหมายของพระเยซูเจ้า ก็คือ
สร้างพระอาณาจักรของพระเจ้าบนโลกนี้
น.เปาโลได้เขียนจดหมายถึงชาวเมืองโครินทร์ว่า
หากเรายังดำเนินชีวิตแบบนี้คือ ยังมีความอิจฉาริษยา ยังมีการทะเลาะวิวาทกัน ยังมีความโกรธเคือง
เกลียดกัน นี่ก็ย่อมแสดงให้เห็นว่า เรายังดำเนินชีวิตตามธรรมชาติ
และดำเนินชีวิตเหมือนกับมนุษย์ทั่วไป
สำหรับเราคริสตชน
เราจะต้องดำเนินชีวิตตามพระจิตเจ้า ต้องดำเนินชีวิตตามพระวาจาของพระเจ้า
การเสียสละ การแบ่งปัน การให้อภัย การมีน้ำใจ ใจกว้าง ใจดี มีเมตตาต่อกันและกัน
นี่แหละที่จะทำให้เมล็ดพันธุ์แห่งพระอาณาจักรของพระเจ้าบังเกิดขึ้นในโลกของเรา
โดยเริ่มจากตัวเราเองก่อน
ในพระวรสาร
พระเยซูเจ้าได้ทรงกระทำให้เราเห็นเป็นแบบอย่างในการสร้างพระอาณาจักรของพระเจ้า
นั่นก็คือ พระองค์พยายามรักษาความเจ็บป่วย โรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ ขับไล่ปีศาจที่สิงอยู่ในมนุษย์ นี่แสดงให้เห็นว่า
การสร้างพระอาณาจักรของพระเจ้านั้น จะต้องมีการชำระตนเองจากความชั่วร้ายต่าง ๆ
เสียก่อน อำนาจแห่งความมืด
อำนาจแห่งความชั่วร้าย
อำนาจของปีศาจและอาณาจักรของมันจะต้องถูกขับไล่ออกไปจากมนุษย์เสียก่อน
เพื่อให้พระอาณาจักรของพระเจ้าบังเกิดผล
เพื่อให้พระอาณาจักรของพระเจ้าเติบโตในตัว ในจิตใจของมนุษย์ได้
ตราบใดที่จิตใจของมนุษย์ยังเต็มไปด้วยความคิดที่ชั่วร้าย ยังเต็มไปด้วยความปรารถนาที่ไม่ดีต่าง ๆ
ตราบนั้นพระอาณาจักรของพระเจ้าย่อมไม่มีทางที่จะเริ่มต้นขึ้นได้
น.เปาโลบอกว่า
เราทุกคนเป็นไร่นาของพระเจ้า หากว่าที่นาของเราเต็มไปด้วยวัชพืช เต็มไปด้วยก้อนหิน เต็มไปด้วยกอหนาม
เมล็ดพันธุ์ที่ดีจะเกิดขึ้นได้อย่างไรเรา
และเราทุกคนเป็นอาคารของพระเจ้า เป็นที่ประทับของพระองค์
หากอาคารของเราเต็มไปด้วยหยักไย เต็มไปด้วยฝุ่น จะเหมาะกับการเป็นที่ประทับของพระเจ้าได้อย่างไร
จึงจำเป็นที่เราจะต้องปัดกวาด
ชำระล้างจิตใจของเรา ด้วยการเสาะแสวงหาพระองค์อยู่เสมอ
เหมือนกับชาวยิวในพระวรสารที่พวกเขาพยายามเสาะหาพระองค์
และพยายามหน่วงเหนี่ยวพระองค์ไว้ ไม่ให้จากพวกเขาไป
เราก็ควรที่จะยึดพระองค์ไว้
เกาะติดพระวาจาของพระองค์ไว้
ให้พระองค์เข้ามาสู่ความคิดของเรา
เข้ามาสู่ความรู้สึก
เข้ามาเป็นความปรารถนาของเรา เข้ามาอยู่ในตา เข้ามาอยู่ในปากเขาเราและเข้ามาอยู่ในใจของเราทุก
ๆวัน ทุก ๆ เวลาของชีวิต
อาณาจักรของพระเจ้ามาถึงพวกเราแล้ว
ให้เรามาสร้างอาณาจักรของพระเจ้าให้เกิดขึ้นบนโลกนี้ด้วยการดำเนินชีวิตในการเป็นคริสตชนที่ดี
ยึดมั่นในพระวาจาของพระองค์ เริ่มต้นที่ตัวเราเองก่อน
เมื่อแต่ละคนเริ่ม ทีละเล็กทีละน้อย
พระอาณาจักรของพระเจ้าก็จะขยายออกไปจนสุดปลายแผ่นดินเอง
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น