บทเทศน์
พี่น้องที่เคารพรัก การเป็นคริสตชน
การเป็นศิษย์ติดตามองค์พระเยซูเจ้านั้น นับว่าเป็นความโชคดีของเราเหลือเกิน โชคดี
เพราะว่ามีพระเจ้าผู้ทรงพระทัยดี ผู้ทรงพระเมตตา ผู้ทรงรักเรา
พระองค์คอยดูแลเราเสมอ
ทั้งศีลมหาสนิท
ที่หล่อเลี้ยงชีวิตของเรา
ทั้งพระวาจาของพระเจ้า ที่เป็นเข็มทิศ นำทางชีวิตของเรา
เพื่อเราจะได้เดินตรงมุ่งหน้าไปหาพระเจ้า
อีกทั้งยังเป็นอุปกรณ์ปกป้องเราให้พ้นจากอำนาจของความชั่วอีกด้วย
ในบทอ่านที่
1 หนังสือกันดารวิถี คำพูดของโมเสสที่พูดกับโยชูวาในวันนี้ว่า “อันที่จริง
เราอยากให้ประชาชนของพระเจ้าทุกคนเป็นประกาศก
และให้พระเป็นเจ้าประทานพระจิตของพระองค์แก่ทุกคน”
ในสมัยก่อนการเป็นประกาศกจะต้องได้รับการเลือกจากพระเจ้า
การเป็นประกาศกจะต้องประกาศพระวจนะของพระเจ้า ประกาศความถูกต้อง ประกาศความดี
ต่อต้านความชั่ว และอำนาจของปีศาจ คนที่จะทำเช่นนี้ได้จะต้องได้รับพระพรพิเศษจากพระเจ้า
ไม่ใช่คนธรรมดาคนหนึ่งจะทำก็ทำได้
เพราะหน้าที่ของการเป็นประกาศกเรียกร้องความเข้มแข็ง เรียกร้องความกล้าหาญ
และความอดทน เพราะต้องพูดความจริง
ต้องประกาศในสิ่งที่คนอื่นไม่ชอบ ต้องประกาศพระวาจาย้ำแล้ว ย้ำอีก
เตือนแล้วเตือนอีก จนกว่าจะตาย หากไม่ได้รับพระพรพิเศษจากพระเจ้า
ย่อมไม่สามารถทำได้
เราทุกคนได้รับศีลล้างบาป
และได้รับพระจิตเจ้าแล้ว และเราทุกคนก็เป็นประกาศกของพระเจ้า เรามีพลังที่หนุนหลัง
เรามีพระหรรษทานที่ช่วยเหลือเราอยู่ ฉะนั้นอย่ากลัวที่จะประกาศความจริง
อย่ากลัวที่จะยืนยันความถูกต้อง
ในพระวรสาร
ให้เราพิจารณาคำพูดของพระเยซูเจ้า
พระวาจาของพระองค์ที่ตรัสแก่เราเพื่อสอนและเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตของเราในวันนี้
ในภาคแรก
ยอห์นได้ห้ามคนหนึ่งที่ขับไล่ปีศาจในนามของพระเยซูเจ้า
เพราะคนนั้นไม่ได้เป็นศิษย์ของพระองค์
และพระเยซูเจ้าบอกว่า “ผู้ใดที่ไม่ต่อต้านเรา ก็เป็นฝ่ายเรา” ฝ่ายของพระเยซูเจ้าก็คือ ผู้กระทำความดี
ผู้ที่ดำเนินชีวิตอยู่ในศีลธรรม ผู้ที่ดำเนินชีวิตอยู่ในความถูกต้อง
ผู้ที่มีชีวิตอยู่ในความรัก ความยุติธรรม ความเห็นอกเห็นใจกันและกัน สรุปแล้ว ทุกคนที่กระทำความดี
และเลือกความดี ก็เป็นฝ่ายของพระเยซูเจ้า
ก็ไม่ได้ต่อต้านพระเยซูเจ้า
ดังนั้น ทุกคนจึงเป็นคนของพระคริสตเจ้า แม้จะไม่ใช่คริสตชนก็ตาม
แม้จะเป็นคนต่างศาสนาก็ตาม หากเขาดำเนินชีวิตอย่างดีแล้ว เขาก็เป็นคนของพระเจ้า
เราจะต้องไม่อิจฉาคนอื่นเมื่อเห็นเขากระทำความดี
เราจะต้องไม่ขัดขวางคนอื่นเมื่อเขาจะทำถูกต้อง แต่เราควรที่จะใจกว้างต่อกันและกัน
เราควรที่จะส่งเสริมและสนับสนุนการทำความดีและความถูกต้อง
แม้ว่าคนนั้นจะไม่ใช่คริสตชน หรือเป็นใครก็ตาม
ภาคที่สอง ถ้ามือข้างหนึ่งเป็นเห็นให้ท่านทำบาป ถ้าเท้าข้างหนึ่งของท่าน หรือ
ถ้าตาข้างหนึ่งของท่านเป็นเหตุให้ท่านทำบาป จงตัดมันทิ้งเสีย จงควักมันออกเสีย
ดีกว่าจะตกนรกทั้งร่างกาย นี่เป็นคำพูดที่รุนแรง และน่ากลัวมากทีเดียว
ถ้าหากเราปฏิบัติตามตัวอักษร แน่นอนว่าหลายคนคงจะพิการไปแล้ว ถูกตัดมือ ตัดเท้า
ถูกควักดวงตาไปแล้ว เพราะว่าเราทุกคนเป็นคนบาป มีความบกพร่อง มีความอ่อนแอ
แต่ในความหมายที่แท้จริงก็คือ พระเยซูเจ้าต้องการจะบอกเราว่า
เราจะต้องเอาจริงเอาจังในการที่จะระมัดระวังตนเอง เราจะต้องใส่ใจในการที่จะกำจัดสิ่งที่เป็น ต้นตอของความชั่วร้ายต่าง
ๆ ไม่ว่าจะเป็นมือ หรือเท้า หรือตาของเราก็ตาม
ดีกว่าให้ร่างกายทั้งครบต้องตกนรก ในสุภาษิตของชาวยิวกล่าวว่า “ตาและมือเป็นนายหน้าของบาป” “ตาและใจเป็นเครื่องมือของบาป”
ตาเป็นส่วนของการมอง
ขณะที่มือ และเท้าเป็นส่วนของการกระทำของมนุษย์ทั้งครบ นั่นคือ
เป็นตัวแทนของการมองเห็นและการกระทำทั้งหมด โดยทางตาและมือ
มนุษย์ทั้งครบสามารถถูกชักนำให้ทำบาป ฉะนั้น
สิ่งใดก็ตามที่ล่อลวงเราให้ทำบาปต้องถูกขจัดออกไปเสียจากชีวิตของเรา ถ้านิสัยบางอย่างสามารถนำไปสู่ความชั่วร้าย
ถ้าการคบค้าสมาคมกับบางคนสามารถเป็นสาเหตุของการกระทำชั่ว
หรือถ้าความพึงพอใจบางอย่างสามารถเปลี่ยนเป็นความหายนะ สิ่งต่าง ๆ
เหล่านี้ต้องถูกขจัดออกไปจากชีวิตของเรา ไม่ว่าจะเป็นคำพูดคำจา ความคิด ความรู้สึก
จิตใจที่ทำให้เรานั้นเป็นบาป เป็นมลทิน เราจะต้องขจัดมันออกไปเสีย
เราเป็นคริสตชน
เราจะต้องทำให้ได้ เราจะต้องฝึกฝนตนเองอยู่เสมอ และทุก ๆ วันด้วย เมื่อมีโอกาสที่จะทำบาป
เราก็จะต้องฝืนและเอาชนะให้ได้
ในบทอ่านที่2 จากจดหมายของน.ยากอบถึงกลุ่มคริสชน ท่านพูดถึงคนมั่งมี
คนที่ร่ำรวยที่ได้มาจากการเบียดเบียนคนอื่น ได้มาจากความอยุติธรรม หรือการคดโกง
การเอารัดเอาเปรียบคนอื่น ท่านบอกว่า บุคคลเหล่านี้จะพินาศ หากไม่เปลี่ยนแปลง
เพราะความสุขที่เขาได้จากความทุกข์ของคนอื่นในเวลานี้จะเปลี่ยนเป็นความเศร้าโศกเมื่อเวลานั้นมาถึง
น.ยากอบต้องการให้เรามีใจกว้าง เปิดใจออก และมีใจเผื่อแผ่ต่อกันและกัน
ที่สำคัญอย่ายึดติดกับทรัพย์สมบัติในโลกนี้มากจนเกินความพอดี เพราะจะทำให้เรามองไม่เห็นคนอื่น
จะทำให้เราลืมความรัก ความเมตตาต่อคนอื่นไปได้
เพราะเมื่อเงินทองมาปิดตาของเราไว้แล้ว เราจะมองไม่เห็นอะไรเลย
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น