ทุกการเดินทางย่อมมีการเตรียมตัว
ความเรียบง่ายจะนำไปสู่เส้นทางที่ไม่ลำบากใจ
อาหารรองท้อง
แผนที่การเดินทาง
และผู้คนที่เดินทางด้วยกัน สร้างประสบการณ์ในเวลาหนึ่งด้วยกัน
อาหารเที่ยงขอวัน ง่ายๆ แต่ได้ความแปลกใหม่และความอร่อย

ทุกการเดินทางย่อมมีการเตรียมตัว
ความเรียบง่ายจะนำไปสู่เส้นทางที่ไม่ลำบากใจ
อาหารรองท้อง
แผนที่การเดินทาง
และผู้คนที่เดินทางด้วยกัน สร้างประสบการณ์ในเวลาหนึ่งด้วยกัน
เขียนโดย don Pietro Virote Phosawang ที่ 06:43 0 ความคิดเห็น
บทเทศน์
พระเยซูเจ้าเอาชนะการผจญของปีศาจในเรื่องอะไรบ้าง?
1. เรื่องปาก เรื่องท้อง นั่นคือความหิวกระหาย การขาดแคลนปัจจัย
4 หรือจะเป็นความไม่อิ่มในร่างกาย
ปีศาจท้าทายให้เสกก้อนหินเป็นอาหาร.. มองดู เป็นไปไม่ได้ และไม่น่าจะเป็นไปได้
แต่แท้จริงพระเยซูเจ้าทำได้
หลายครั้ง ชีวิตของเรา
บางคนแลกศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์เพื่อให้อิ่ม เพื่อให้เต็ม เพื่อให้มีอยู่มีกิน
นั่นคือ การขายตัวเองให้ปีศาจ ยอมทำตามปีศาจเพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่ต้องการ
แต่พระเยซูเจ้าเตือนว่า มีพระเจ้าที่รักเราอยู่ ทรงดูแลเรา และเลี้ยงดูเราอยู่นะ
2. เรื่องอำนาจ บารมี ความั่งคั่ง ชื่อเสียง
เกียรติยศ เมื่อมนุษย์กินอิ่ม มีเงินมีทอง มีสิ่งที่ต้องการไม่ขาดแคลน
มนุษย์มักจะขยับความต้องการของตนเองขึ้นไปอีกขึ้น ด้วยความต้องการอำนาจ
ต้องการเหนือคนอื่น ต้องการที่จะปกครองคนอื่น ต้องการให้มีคนมารับใช้ แต่.. พระเยซูเจ้าสอนว่า
ให้เรารักพระเจ้า รับใช้พระองค์เพียงพระองค์เดียวเท่านั้น ให้เรายึดกับพระองค์
สร้างความสัมพันธ์ที่ถูกต้องกับพระองค์ และหมั่นที่จะแสวงหาพระองค์
เพราะการที่เรารักพระเจ้า นมัสการพระองค์เท่านั้น เราก็จะเป็นอิสระจากสิ่งเหล่านี้
3. การท้าทายต่างๆ ในชีวิตเพื่อผลลัพท์ของตนเอง
ถ้าอย่างนั้น.. ถ้าอย่างนี้..แล้วจะได้อย่างนั้น.
แล้วจะได้อย่างนี้..หากเรายอมฟังเสียงของปีศาจโดยไม่ไตร่ตรองอย่างดีและอย่างถ่องแท้
เราอาจจะตกหลุมพลางของปีศาจก็ได้ พระเยซูเจ้าสอนเราให้ฟังเสียงของพระเจ้า
อย่าทดลอง เพราะไม่มีคำว่า “ถ้า” สำหรับพระองค์ มีแต่ความจริง
มีแต่ความถูกต้องและมีแต่ความรักของพระองค์ที่จะมีกับเรา
ขอเพียงเราไว้วางใจในพระองค์ ขอเรามั่นใจในพระองค์
การผจญของปีศาจ ไม่ใช่จะเกิดขึ้นเพียงครั้งนี้ ครั้งเดียว และจบ
แต่การผจญของปีศาจจะเกิดขึ้นสมอจนตลอดชีวิตของเรา ดังที่พระคำภีร์กล่าวว่า
“ปีศาจแยกจากไป..รอจอกว่าจะถึงเวลาที่เหมาะสม” ปีศาจคอยวนเวียนอยู่รอบๆ
ดุจสิงโตพร้อมที่จะกัดกินเรา เวลาของปีศาจไวเสมอ และไม่เคยรอช้า
สิ่งสำคัญคือ ตัวของเราเองต้องการจะเอาชนะไหม? ถ้าต้องการ เราจะชนะปีศาจได้ด้วยอะไร? คำตอบก็คือ “พระวาจาของพระเจ้า” เท่านั้นจึงจะขับไล่ปีศาจได้
เขียนโดย don Pietro Virote Phosawang ที่ 04:44 0 ความคิดเห็น
บทอ่านจากพระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญลูกา ลก 6:39-45
เวลานั้น พระเยซูเจ้าตรัสอุปมาให้เขาเหล่านั้นฟังว่า
“คนตาบอดจะนำทางคนตาบอดได้หรือ ทั้งคู่จะตกลงไปในคูมิใช่หรือ
ศิษย์ย่อมไม่อยู่เหนืออาจารย์
แต่ทุกคนที่ได้รับการฝึกฝนอย่างดีแล้วก็จะเป็นเหมือนอาจารย์ของตน
ทำไมท่านจึงมองดูเศษฟางในดวงตาของพี่น้อง แต่ไม่สังเกตเห็นท่อนซุงในดวงตาของตนเลย ท่านจะกล่าวแก่พี่น้องได้อย่างไรว่า ‘พี่น้อง ปล่อยให้ฉันเขี่ยเศษฟางออกจากดวงตาของท่านเถิด’ ขณะที่ท่านไม่เห็นท่อนซุงในดวงตาของตนเอง ท่านคนหน้าซื่อใจคดเอ๋ย จงเอาท่อนซุงออกจากดวงตาของท่านก่อนเถิด ท่านจะเห็นชัด แล้วจึงค่อยไปเขี่ยเศษฟางออกจากดวงตาของพี่น้อง
ต้นไม้ที่เกิดผลไม่ดีย่อมไม่ใช่ต้นไม้พันธุ์ดี หรือต้นไม้พันธุ์ไม่ดีย่อมไม่ให้ผลดีเช่นกัน เรารู้จักต้นไม้แต่ละต้นได้จากผลของต้นไม้นั้น เราย่อมไม่เก็บผลมะเดื่อเทศจากพงหนามหรือเก็บผลองุ่นจากกอหนาม คนดีย่อมนำสิ่งที่ดีออกจากขุมทรัพย์ที่ดีในใจของตน ส่วนคนเลวย่อมนำสิ่งที่เลวออกมาจากขุมทรัพย์ที่เลวของตน เพราะปากย่อมกล่าวสิ่งที่อัดอั้นอยู่ในใจออกมา
คนตาบอดจะนำทางคนตาบอดได้หรือ?
คำตอบ ก็คงจะมีทั้งที่ตอบว่า
ได้ และตอบว่า ไม่ได้ สำหรับพระเยซูเจ้านั้น คนที่ตาบอดหากจะนำทางคนอื่น
ก็คงจะต้องหลงทาง ผิดทาง หรือเป็นอันตรายได้ เพราะตาบอด ก็นำทางอย่างคนตาบอด เมื่ออยู่ในความืด
ย่อมไม่เห็นแสงสว่าง เมื่ออยู่ในความมืดย่อมไม่เห็นอุปสรรค เมื่อจมอยู่ในความมืดอยู่คงอยู่ในความมืดสนิท
การนำทางคนอื่นจึงนำไปสู่หายนะเท่านั้น
ยิ่งเป็นผู้นำที่ตาบอดฝ่ายจิต
ย่อมไม่สามารถที่จะบำรุงเลี้ยงชีวิตฝ่ายจิตของคนอื่นได้ ยิ่งเป็นผู้นำวิญญาณ
หากยังจมอยู่ในความมืด ไม่รู้จักความจริง จะนำจิตวิญญาณไปสู่ความรอดพ้นได้อย่างไร
ผู้นำฝ่ายวิญญาณต้องพบความรอดก่อน จึงสามารถนำผู้อื่นไปสู่ความรอดพ้นได้ และผู้ที่เป็นผู้นำแท้จริงของเรา
ก็คือ พระเยซูเจ้า
คนดีย่อมนำขุมทรัพย์ที่ดีในใจของตน
เป็นความจริงแท้ทีเดียว
ที่เราทุกคนจะต้องฝึกฝนตนเอง และควบคุมตนเองให้ได้ โดยเฉพาะการควบคุมจิตใจที่มักจะแสดงออกมาทางคำพูด
เพราะปากย่อมพูดในสิ่งที่อยู่ในใจ คำพูดที่แสดงออกมา จึงเป็นสิ่งที่บ่งบอกสิ่งที่เป็นตัวตนที่อยู่ในใจออกมา
ยิ่งเป็นคนดี ย่อมพูดสิ่งที่ดี สิ่งที่ให้กำลังใจ สิ่งที่เป็นประโยชน์แก่คนอื่น “ต้นไม้พันธุ์ดี
ย่อมให้เกิดผลที่ดี”
ความดีและความชั่วอยู่ในตัวของเรา
ขึ้นอยู่กับว่า เราจะบำรุงเลี้ยงสิ่งใดดีกว่ากัน การเจตนาไม่ดี ความปรารถนาไม่ดี
ความคิด ความอ่านไม่ดีต่อตนเองและผู้อื่น บ่อยๆ ย่อมเป็นอาหารชั้นดีที่เลี้ยงมและทำให้ความชั่วในจิตใจเข้มแข็ง
จึงต้องมองดูใจของตนเองเสมอ “เอาท่อนซุงออกก่อนที่อยู่ในตาของเรา แล้วจะมองเห็นชัด”
เห็นความไม่ดีในตัวเอง รู้จักควบคุม เห็นความไม่ดีตัวเองต้องรู้จักหลีกเลี่ยง
หล่อเลี้ยงความดีในตัวของเราด้วย
การสวดภาวนา การมองโลกในแง่ดี การพูดดี เจตนาดี ทำดี คิดดี การฟังพระวาจาของพระเจ้า
การยกจิตใจขึ้นหาพระเจ้า การแสวงหาความดีงาม สิ่งเหล่านี้ ส่งเสริมและหล่อหลอมความดีในตัวเราให้เติบโตและแข็งแรง
สามารถเอาชนะทุกสิ่งได้
ความชั่วไม่มีผลอะไรเลยกับชีวิตของเรา หากเราไม่สนใจและไม่สร้างพลังให้มัน แต่ความดีเป็นชีวิตของเรา ที่เราจะต้องเอาใจใส่ เลี้ยงดู และต้องเพ่ิมความเข้มแข็งเสมอ
รักความดี ทำความดี สร้างความดี เหมือนที่พระเยซูเจ้าสอนเรา
เขียนโดย don Pietro Virote Phosawang ที่ 03:25 0 ความคิดเห็น