BLOGGER TEMPLATES AND TWITTER BACKGROUNDS

วันเสาร์ที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2562

อาทิตย์ที่ 5 มหาพรต C

บทเทศน์


พระเจ้าทรงเมตตาและกรุณา









เนื้อแท้ประการหนึ่งที่เราสามารถรู้จักพระเจ้าได้ ก็คือ พระองค์มีพระทัยเมตตากรุณาต่อมนุษย์ทุกคนที่เป็นคนบาป เราจะเห็นได้อย่างชัดเจน ซึ่งปรากฎในพระคัมภีร์ทั้งในภาคพันธสัญญาเดิม และเปิดเผยแสดงผ่านทางพระเยซูเจ้าในพันธสัญญาใหม่ ซึ่งพระองค์ทรงเป็นพระเจ้าที่มาบังเกิดเป็นมนุษย์และแสดงให้เห็นอย่างชัดเจน หรือ จะ จะ ว่า พระเจ้าทรงมีพระทัยเมตตากรุณาอย่างมาก

เพราะเสื้อคลุมเป็นเครื่องหุ้มกายชิ้นเดียวที่เขามี เขาจะใช้สิ่งใดป้องกันความหนาวเมื่อนอนเล่า ถ้าเขาร้องขอความช่วยเหลือจากเรา เราก็จะฟังคำร้องขอของเขา เพราะเราเป็นผู้มีเมตตากรุณา (อพย 22:27)
  
เราเป็นพระยาห์เวห์ พระเจ้าผู้เมตตาและกรุณา ไม่โกรธง่าย เปี่ยมด้วยความรักมั่นคง และความซื่อสัตย์ (อพย 34:6)
เพราะพระยาห์เวห์ พระเจ้าของท่าน ทรงเป็นพระเจ้าผู้ทรงเมตตากรุณา พระองค์ไม่ทรงทอดทิ้งหรือทำลายท่าน ไม่ทรงลืมพันธสัญญาที่ทรงสาบานไว้กับบรรพบุรุษของท่าน (ฉธบ 4:31)  

พระยาห์เวห์ตรัสว่า อิสราเอลที่เป็นกบฏเอ๋ย จงกลับมาเถิด เราจะไม่แสดงใบหน้าโกรธเกรี้ยวต่อท่าน เพราะเรามีเมตตากรุณาพระยาห์เวห์ตรัสเราจะไม่เก็บความโกรธไว้ตลอดไป (ยรม 3:12)

จงฉีกใจของท่าน มิใช่ฉีกเสื้อผ้า จงกลับมาหาพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน เพราะพระองค์ทรงเมตตาและกรุณา ไม่ทรงโกรธง่าย ทรงเปี่ยมด้วยความรักมั่นคง ทรงสงสารและไม่ทรงลงโทษ  (ยอล 2:13)

นี่คือข้อความที่ปรากฎในพันธสัญญาเดิมที่พระเจ้าตรัสด้วยพระองค์เองผ่านทางบรรดาประกาศก ผ่านทางผู้ส่งสารของพระองค์ ว่า พระองค์ทรงมีพระทัยเมตตากรุณา มนุษย์อย่าได้กลัวพระองค์ มนุษย์อย่าได้หลบซ่อนจากพระองค์ เพราะความรักต่อมนุษย์มีมากมาย พระองค์ทรงเมตตา โดยเฉพาะคนบาป โดยเฉพาะคนที่รู้ตัวว่าไม่มีใคร พระองค์เมตตาทุกคน

ในชีวิตของพระเยซูเจ้า พระองค์แสดงออกถึงความรักและความเมตตากรุณาเสมอ ทั้งในวาจาที่สอนและกิจการที่ทรงกระทำ
จงไปเรียนรู้ความหมายของพระวาจาที่ว่าเราพอใจความเมตตากรุณา มิใช่พอใจเครื่องบูชา (มธ 9:13)  

เจ้าต้องเมตตาเพื่อนผู้รับใช้ด้วยกัน เหมือนกับที่ข้าได้เมตตาเจ้ามิใช่หรือ (มธ 18:33)  

จงเป็นผู้เมตตากรุณาดังที่พระบิดาของท่านทรงพระเมตตากรุณาเถิด (ลก 6:36)  

ทุกสิ่งจึงขึ้นกับพระเมตตาของพระเจ้า ไม่ขึ้นกับความตั้งใจหรือความอุตสาหะของมนุษย์ (รม 9:16)

แต่พระเจ้าทรงเปี่ยมด้วยพระเมตตา ทรงสำแดงความรักยิ่งใหญ่ต่อเรา  (อฟ 2:4)  

ทำไมพระเจ้าจึงเมตตามนุษย์ ทั้งๆที่มนุษย์ได้ทำบาป?  เหตุผลหรือสิ่งที่เราสามารถพูดได้ก็คือ เพราะพระองค์ทรงรักมนุษย์ พระองค์ปรารถนาให้มนุษย์กลับมาหาพระองค์ อยู่กับพระองค์ บาปที่มนุษย์ทำ ไม่ได้มากมายไปกว่าความรักของพระเจ้าที่ทรงเมตตาต่อมนุษย์

พระองค์ทรงเมตตาต่อมนุษย์ มิใช่เพื่อให้มนุษย์ทำบาป ซ้ำแล้ว ซ้ำอีก พระองค์เมตตาและให้อภัยมนุษย์เพื่อให้มนุษย์ได้ตระหนักและเข้าใจว่า การทำบาปนั้นเป็นการทำให้พระเจ้าเจ็บปวด และให้มนุษย์รู้ว่า ความรักของพระเจ้ามีค่ามากกว่าการที่จะกระทำบาป

“เราก็ไม่ลงโทษท่าน ไปเถิดและอย่าทำบาปอีก” (ยน 8:11) นี่คือถ้อยคำที่พระเยซูเจ้าตรัสออกมาเพื่อให้หญิงผู้หนึ่งได้รับรู้ว่า บาปทำร้ายตัวเองและทำลายความสัมพันธ์กับพระเจ้า และบาปนำมาซึ่งความตาย แต่ความเมตตาของพระเจ้าที่แสดงออกผ่านทางการให้อภัย นำไปสู่การเริ่มต้นชีวิตใหม่ ชีวิตที่ไม่อยู่ในบาป แต่เป็นชีวิตแห่งพระหรรษทานของพระเจ้า มีชีวิตในหนทางของพระเจ้า

เพราะความรักความเมตตาของพระเจ้า เราจึงมีชัยบาปและความตาย
และ เต็มเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม  





0 ความคิดเห็น: