วันจันทร์ ที่ 15 ธันวาคม 2568
เวลา 13.00 น.
บทเทศน์
พี่น้องที่เคารพรัก เมื่อมีความตายเกิดขึ้นในหมู่บ้าน
ในครอบครัว ในชุมชน แน่นอนว่า ทุกคนมีความรู้สึกคือ เสียใจ เศร้าใจ
และมีคำถามต่างๆ มากมายในความตายที่เกิดขึ้น
แต่สำหรับคนที่มีความเชื่อจะมีอีกความรู้สึกหนึ่งที่อยู่ลึกๆ ในจิตใจของตนเองว่า
ยินดีกับเขา ที่เขาจะได้พักผ่อน จะได้อยู่กับพระเจ้า จะได้กลับบ้านแท้ นี่คือ
ความรู้สึกของคนที่มีความเชื่อในพระเจ้า ซึ่งไม่ได้แปลว่า เขาต้องการให้ทุกคนตาย
แต่หมายความว่า มีความอบอุ่นในจิตใจ อบอุ่นในหัวใจ วางใจว่า
เขาจะได้อยู่กับพระเจ้า
ในพระวรสาร
ผมประทับใจเสมอในพระวาจาที่พระเยซูเจ้าตรัสไว้ว่า “เราเป็นหนทาง ความจริง และชีวิต
ไม่มีใครไปหาพระบิดาได้นอกจากผ่านทางเรา”
พี่น้องที่รักในพระคริสตเจ้า ในช่วงเวลาที่หัวใจของเราหนักอึ้ง
ในวันที่น้ำตาอาจมากกว่าคำพูด พระวาจาของพระเยซูเจ้าวันนี้ ไม่ได้มาเพื่อลบความเศร้า
แต่ มาประคองความเศร้าให้เต็มไปด้วยความหวัง พระองค์ตรัสว่า“เราเป็นหนทาง
ความจริง และชีวิต ไม่มีใครมาถึงพระบิดาได้นอกจากผ่านทางเรา” (ยน
14:6) คำตรัสนี้ พระเยซูเจ้าตรัส ไม่ใช่ในวันที่ทุกอย่างสงบ
แต่ตรัสในคืนก่อนทรงรับทรมาน เป็นคืนที่เต็มไปด้วยความกลัวความไม่แน่นอน
และการจากลา เหมือนกับหัวใจของพวกเราในวันนี้
“หนทาง” – เมื่อชีวิตดูเหมือนไม่มีทางไป ความตายทำให้เรารู้สึกว่า
เส้นทางของชีวิตถูกตัดขาด
เรามักถามว่า
จากนี้เราจะเดินต่ออย่างไร ทำไมต้องเป็นแบบนี้ ทำไมการจากลามาเร็วหรือมาเจ็บปวดเช่นนี้
พระเยซูเจ้า ไม่ตอบคำถามเหล่านี้ด้วยคำอธิบายยาว ๆ แต่พระองค์ตรัสว่า “เราเป็นหนทาง”หมายความว่า
แม้เราจะไม่เข้าใจเหตุผลทั้งหมดแต่ เราไม่ได้เดินอย่างโดดเดี่ยว หนทางนี้ไม่ใช่แผนที่
แต่หนทางนี้ หมายถึง บุคคล พระคริสตเจ้าทรงเดิน ผ่านความเจ็บปวด ผ่านความสูญเสีย
ผ่านความตายและทรงเดินผ่านความตายไปสู่ชีวิตใหม่ ด้วยการกลับคืนพระชนมชีพ ดังนั้น
วันนี้แม้เรายังไม่เห็นปลายทางแต่เรามั่นใจได้ว่าพระองค์กำลังนำผู้ล่วงลับเดินไปแล้ว
และกำลังจับมือเราให้เดินตามไปอย่างช้า ๆ
ไฟฉายในความมืด มีเรื่องเล่าเรื่องหนึ่ง
เด็กชายคนหนึ่งต้องเดินป่ากลับบ้านในยามค่ำ ป่ามืดมาก เขากลัวจนหยุดเดิน
ร้องไห้ พ่อของเขาซึ่งเดินมารับ ไม่ได้พูดว่า “ไม่ต้องกลัว
ป่าจะไม่อันตราย” แต่พ่อยื่นไฟฉายให้ แล้วพูดว่า “ลูกไม่ต้องเห็นทั้งทาง แค่เห็นก้าวต่อไปก็พอ” ชีวิตและความตายก็เช่นเดียวกัน
พระเยซูเจ้า ไม่ได้ให้เรามองเห็นทุกคำตอบ แต่พระองค์เป็น แสงสว่างพอสำหรับที่จะก้าวต่อไป
และสำหรับผู้ล่วงลับ พระองค์คือแสงที่นำทาง จากความมืดของความตาย ไปสู่บ้านของพระบิดา
“ความจริง” – เมื่อความตายไม่ใช่คำสุดท้าย
ในพิธีปลงศพ เรามักได้ยินคำปลอบใจมากมาย แต่ไม่ใช่ทุกคำจะเป็น
“ความจริง” พระเยซูเจ้าไม่ได้ตรัสว่า “ทุกอย่างจะโอเค” หรือ “อย่าร้องไห้” พระองค์ตรัสว่า “เราเป็นความจริง” ความจริงของพระคริสตเจ้า คือ ความตายมีจริง ความเจ็บปวดมีจริง การจากลามีจริง
แต่ความจริงที่ลึกยิ่งกว่าคือ ความตายไม่ใช่จุดจบของมนุษย์แต่เป็นการผ่านพ้น
พระเยซูเจ้าทรงสิ้นพระชนม์จริง ถูกฝังจริง แต่ทรงกลับคืนพระชนม์จริง
ดังนั้น
ความเชื่อคริสตชนไม่ได้บอกว่า “ความตายไม่สำคัญ” แต่บอกว่า ความตายไม่สามารถมีชัยสุดท้ายได้
สำหรับผู้ล่วงลับ ความจริงวันนี้คือ ชีวิตของเขา/เธอ ไม่ได้สูญหาย แต่ถูกวางไว้ในพระหัตถ์ของพระเจ้า
“ชีวิต” – ชีวิตที่ไม่ถูกทำลายด้วยความตาย
เมื่อเรามองร่างไร้วิญญาณตรงหน้า
เรารู้สึกว่าชีวิตได้จบลงแล้ว แต่พระเยซูเจ้าตรัสว่า “เราเป็นชีวิต” ชีวิตที่พระองค์ตรัสถึง
ไม่ใช่เพียงชีวภาพ ไม่ใช่แค่ลมหายใจ แต่คือ ชีวิตนิรันดร นักบุญออกัสตินกล่าวว่า
“ผู้ที่เรารักไม่ได้หายไป แต่เพียงไปอยู่ในห้องถัดไปของพระเจ้า” ชีวิตของผู้ล่วงลับ
ถูกเปลี่ยนรูปแบบ ไม่ใช่ถูกทำลาย เขา/เธอ ยังมีชีวิตอยู่ ในความรักของพระเจ้า ในความทรงจำของเรา
และในความหวังแห่งการพบกันอีกครั้ง
ข่าวดีสำหรับผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่
คำตรัสของพระเยซูเจ้า
ไม่ได้มีไว้เพื่อผู้ล่วงลับเท่านั้น แต่เพื่อ พวกเราที่ยังเดินอยู่บนหนทางนี้
พระองค์ตรัสกับเราในวันนี้ว่า เมื่อเจ้าเหนื่อย เราเป็นหนทาง เมื่อเจ้าสงสัย
เราเป็นความจริง เมื่อเจ้าอ่อนแรง เราเป็นชีวิต
การไว้อาลัยจึงไม่ใช่แค่การอำลา
แต่เป็น การฟื้นฟูความเชื่อ ให้เราใช้ชีวิตที่เหลือ ด้วยความรักมากขึ้น ด้วยการให้อภัยมากขึ้น
ด้วยความหวังที่ไม่ยอมแพ้ต่อความตาย
บทสรุป
พี่น้องที่รัก
วันนี้เราไม่ได้อยู่ต่อหน้าความว่างเปล่า แต่ยืนอยู่ต่อหน้า พระสัญญา พระเยซูเจ้าผู้ตรัสว่า
“เราเป็นหนทาง ความจริง และชีวิต” กำลังกล่าวกับผู้ล่วงลับว่า “จงมาหาเราเถิด เราจะพาเจ้ากลับบ้าน” และกำลังกล่าวกับเราว่า “อย่ากลัวเลย เรายังเดินกับเจ้า” ขอให้เราฝากผู้ล่วงลับไว้ ในพระหัตถ์แห่งความรักของพระเจ้า
และขอให้ความหวังแห่งการกลับคืนชีพ เป็นแสงสว่าง ในคืนที่หัวใจของเรามืดมน
อาแมน

0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น