BLOGGER TEMPLATES AND TWITTER BACKGROUNDS

วันจันทร์ที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2555

บทเทศน์: เตรียมจิตใจฉลองวัดหนองห้าง




บทเทศน์ วัดแม่พระแห่งสันติภาพ หนองห้าง
ความเชื่อและการแบ่งปัน
15  มีนาคม   2012
              บทนำ
อุดมการณ์ หรือ เป้าหมายทุกอย่าง ย่อมมีการกระทำ
ความรัก หรือ ความเชื่อ ย่อมต้องแสดงออกมาภายนอก
หากมีเป้าหมาย แต่ไม่มีการกระทำ เป้าหมายนั้น ก็เป็นเพียงสิ่งที่ตั้งเอาไว้ สวยหรูเท่านั้น
หากมีความรัก แต่ไม่แสดงออกมาภายนอก ที่บ่งบอกว่ารัก ความรักนั้นก็เป็นเพียงสิ่งที่เร้นลับ
หากมีความเชื่อ แต่ไม่มีการแสดงออกมาภายนอก ความเชื่อนั้น ก็ตายแล้ว..

เนื้อหา 1: ความเชื่อ

ความสำคัญของความเชื่อ

เราที่รวมกันในวันแห่งนี้ เราได้ชื่อว่า เป็นคริสตชน 
และคริสตชน มาจากคำที่ว่า คริสต์ บวก กับผู้คน 
หมายถึง ผู้คนที่นับถือพระคริสต์เป็นแบบอย่าง ผู้คนที่นับถือพระคริสต์ 
หมายถึง การเลียนแบบ หมายถึงการทำตามคำสอน 
หมายถึงการยอมรับทุกสิ่งที่เป็นพระคริสต์ หมายถึงการปฏิบัติตามคำสอน 
ปฏิบัติตามสิ่งที่พระคริสต์ได้ให้ ได้สร้าง ได้ทำเอาไว้ 
หรือจะพูดอีกนัยหนึ่งก็คือ การทำตัวเองให้เหมือนพระคริสต์ทุกประการ
เพราะพระองค์คือรูปแบบชีวิต


เราทุกคนได้รับศีลล้างบาป อาจจะในความเชื่อของพ่อแม่ ปู่ย่า ตายายของเรา (ล้างบาปเด็ก) เราหลายคนอาจจะรับศีลล้างบาปในความเชื่อที่ตัวเองมี (ล้างบาปตอนเป็นผู้ใหญ่) 
การรับศีลล้างบาป ก็เท่ากับการยอมรับความเชื่อในพระคริสตเจ้า 
เป็นเสมือนการบ่งบอกว่า เราเป็นคนของพระคริสตเจ้า เราเป็นคริสตชน

คุณค่าของชีวิตของเราไม่ใช่การเป็นคริสตชน แต่อยู่ที่การเป็นลูกของพระเจ้า

นี่แหละคือตัวตนของเราที่แท้จริง คือ การเป็นลูกของพระเจ้า การเป็นคริสตชน การเป็นผู้มีความเชื่อในพระเจ้า เราไม่ได้เชื่อถึงสิ่งใด นอกจากพระเจ้า และสิ่งที่พระองค์ทรงสอนเรา

การฉลองวัด เราฉลองวัดของเรา ที่เป็นปูน อิฐ หินดินทราย สิ่งก่อสร้างที่ปรากฏภายนอก ก็เป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะวัดเป็นสถานที่ที่เรามนุษย์ได้พบปะกับพระเจ้า เพราะวัดเป็นศูนย์รวมผู้มีความเชื่อ เพื่อสร้างความสัมพันธ์ระหว่างกัน และกับพระเจ้า

การฉลองวัด มีความหมายที่ลึกเข้าไปอีก นั่นคือ การฉลองตัวเราเองแต่ละคน หรือชีวิตคริสตชนของเราแต่ละคน หมายความว่า เป็นการฉลองความเชื่อของเรา  ความเชื่อกับชีวิตของเราจะแยกจากกันไม่ได้ ตั้งแต่เมื่อรับศีลล้างบาป ความเชื่อกับชีวิตของเราก็เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน 

วัดหรือวิหารที่มีชีวิตก็คือ ตัวของเราเองแต่ละคน เพราะเราแต่ละคนเป็นวิหารของพระจิตเจ้า เราเองแต่ละคนเป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ระหว่างกันและกันกับเพื่อนพี่น้อง และกับพระเจ้า ตัวของเราเป็นที่ประทับของพระเจ้า 


การฉลองวัด เป็นการฉลองความเชื่อ.. ซึ่งก็เท่ากับว่า การฉลองวัด เป็นการฉลองพระเจ้า 
เป็นเสมือนการขอบคุณพระเจ้า สำหรับชีวิต สำหรับครอบครัว 
สำหรับหน้าที่การงาน สำหรับสุขภาพ สำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่พระองค์ทรงดูแล 
และปกป้อง รักษาเรา จนถึงทุกวันนี้

การฉลองความเชื่อ จึงเป็นการฉลองที่แสดงออกถึงความชื่นชมยินดีของเราทุกคนที่อยู่หมู่บ้านของเรา ตั้งแต่เด็กเล็ก ๆ ที่ได้รับศีลล้างบาป 
บรรดาเด็กคำสอน บรรดาเยาวชน บรรดาผู้หลักผู้ใหญ่ พ่อบ้านแม่บ้าน 
รวมทั้งผู้อาวุโสสูงสุดของหมู่บ้านด้วย ทุกคนจะต้องชื่นชมยินดี 
ทุกคนจะต้องขอบคุณพระเจ้า ทุกคนจะต้องเฉลิมฉลองความเชื่อของตนเองต่อพระเจ้า

การฉลองวัด หรือ ฉลองความเชื่อจึงเป็นหน้าที่และความสำนึกของเราทุกคนที่จะต้องมีส่วนร่วม ที่ต้องแสดงออกถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ที่จะต้องแสดงออกตามบทบาทหน้าที่ของตนเอง ตามอายุ ตามกำลังความสามารถของตนเอง เพื่อแสดงออกให้เห็นถึงความเติบโต ความเข้มแข็งของความเชื่อ


อีกนัยหนึ่งก็คือ การทำตัวเองให้เหมือนพระคริสต์ทุกประการ เพราะพระองค์คือรูปแบบชีวิต
                  
เราทุกคนได้รับศีลล้างบาป อาจจะในความเชื่อของพ่อแม่ ปู่ย่า ตายายของเรา (ล้างบาปเด็ก) 
เราหลายคนอาจจะรับศีลล้างบาปในความเชื่อที่ตัวเองมี (ล้างบาปตอนเป็นผู้ใหญ่) 
การรับศีลล้างบาป ก็เท่ากับการยอมรับความเชื่อในพระคริสตเจ้า เป็นเสมือนการบ่งบอกว่า 
เราเป็นคนของพระคริสตเจ้า เราเป็นคริสตชน
               
 คุณค่าของชีวิตของเราไม่ใช่การเป็นคริสตชน แต่อยู่ที่การเป็นลูกของพระเจ้า
                
นี่แหละคือตัวตนของเราที่แท้จริง คือ การเป็นลูกของพระเจ้า การเป็นคริสตชน 
การเป็นผู้มีความเชื่อในพระเจ้า เราไม่ได้เชื่อถึงสิ่งใด นอกจากพระเจ้า และสิ่งที่พระองค์ทรงสอนเรา
                
การฉลองวัด เราฉลองวัดของเรา ที่เป็นปูน อิฐ หินดินทราย 
สิ่งก่อสร้างที่ปรากฏภายนอก ก็เป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะวัดเป็นสถานที่ที่เรามนุษย์ได้พบปะกับพระเจ้า 
เพราะวัดเป็นศูนย์รวมผู้มีความเชื่อ เพื่อสร้างความสัมพันธ์ระหว่างกัน และกับพระเจ้า
                
การฉลองวัด มีความหมายที่ลึกเข้าไปอีก นั่นคือ การฉลองตัวเราเองแต่ละคน 
หรือชีวิตคริสตชนของเราแต่ละคน หมายความว่า เป็นการฉลองความเชื่อของเรา  
ความเชื่อกับชีวิตของเราจะแยกจากกันไม่ได้ ตั้งแต่เมื่อรับศีลล้างบาป 
ความเชื่อกับชีวิตของเราก็เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
               
 วัดหรือวิหารที่มีชีวิตก็คือ ตัวของเราเองแต่ละคน 
เพราะเราแต่ละคนเป็นวิหารของพระจิตเจ้า 
เราเองแต่ละคนเป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ระหว่างกันและกันกับเพื่อนพี่น้อง 
และกับพระเจ้า ตัวของเราเป็นที่ประทับของพระเจ้า


การฉลองวัด เป็นการฉลองความเชื่อ.. ซึ่งก็เท่ากับว่า การฉลองวัด เป็นการฉลองพระเจ้า 
เป็นเสมือนการขอบคุณพระเจ้า สำหรับชีวิต สำหรับครอบครัว สำหรับหน้าที่การงาน 
สำหรับสุขภาพ สำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่พระองค์ทรงดูแล และปกป้อง รักษาเรา จนถึงทุกวันนี้
             
การฉลองความเชื่อ จึงเป็นการฉลองที่แสดงออกถึงความชื่นชมยินดีของเราทุกคน
ที่อยู่หมู่บ้านของเรา ตั้งแต่เด็กเล็ก ๆ ที่ได้รับศีลล้างบาป บรรดาเด็กคำสอน 
บรรดาเยาวชน บรรดาผู้หลักผู้ใหญ่ พ่อบ้านแม่บ้าน รวมทั้งผู้อาวุโสสูงสุดของหมู่บ้านด้วย 
ทุกคนจะต้องชื่นชมยินดี ทุกคนจะต้องขอบคุณพระเจ้า 
ทุกคนจะต้องเฉลิมฉลองความเชื่อของตนเองต่อพระเจ้า
          


การฉลองวัด หรือ ฉลองความเชื่อจึงเป็นหน้าที่และความสำนึกของเราทุกคนที่จะต้องมีส่วนร่วม 
ที่ต้องแสดงออกถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน 
ที่จะต้องแสดงออกตามบทบาทหน้าที่ของตนเอง ตามอายุ 
ตามกำลังความสามารถของตนเอง 
เพื่อแสดงออกให้เห็นถึงความเติบโต ความเข้มแข็งของความเชื่อ



0 ความคิดเห็น: