BLOGGER TEMPLATES AND TWITTER BACKGROUNDS

วันเสาร์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2556

อาทิตย์ 23 ธรรมดา ปี C



บทเทศน์


ในทุกวันนี้ มันง่ายมากที่จะเป็นแฟนคลับของพระเยซูเจ้า แต่การจะเป็นผู้ติดตามของพระองค์อย่างแท้จริงนั้น
มันค่อนข้างจะยาก และท้าทายต่อชีวิตของเรา  การเป็นแฟนคลับง่าย เพราะเป็นวันนี้ วันพรุ่งนี้ก็ไปแล้ว หรือเลิกแล้ว 
แต่ในการติดตามพระเยซูเจ้านั้น พระองค์ทรงเรียกร้อง “การอุทิศตน”  “การเสียสละตนเอง”

โชคไม่ดีสำหรับพระศาสนจักรในทุกวันนี้ เพราะพระศาสนจักรเต็มไปด้วยแฟนคลับมากกว่าที่จะเป็นแฟนตัวจริง 
หรือผู้ติดตามของพระเยซูเจ้าอย่างแท้จริง  เพราะบรรดาแฟนคลับ 
มักจะเป็นประเภทที่ฉาบฉวย ไม่จริงใจ และตามอารมณ์ของตนเอง พอใจก็ไป ไม่พอใจก็แล้วไป

การติดตามพระเยซูเจ้า พระองค์เน้น เรื่องการอุทิศตนเอง และเสียสละตนเอง ทั้งหมดแด่พระองค์  
รวมทั้งความรักที่เรามีต่อบุคคลรอบข้าง หรือแม้กระทั่งตัวเอง หากเราต้องเลือกระหว่างพระองค์ และบุคคลรอบข้าง  
พระองค์ไม่ได้สอนให้เราเกลียดชังเพื่อนพี่น้อง แต่พระองค์สอนเราให้รู้จักเลือกสิ่งที่จะต้องเป็นอันดับหนึ่งในชีวิตของเรา

พระสันตะปาปาฟรังซิส ตรัสไว้ เมื่อวานนี้ว่า “บรรดาคริสตชนต้องไม่ลืมเสมอว่า
ศูนย์กลางของชีวิตคริสตชนก็คือ พระคริสเจ้า” และพระองค์ตรัสอีกว่า 
“เราต้องเอาชนะการทดลองด้วยท่าทีที่ว่า ปราศจากพระเจ้า เราก็ดำเนินชีวิตอยู่ได้” 
มีคริสตชนหลายคนเป็นคริสตชน แต่ดำเนินชีวิตปราศจากพระคริสตเจ้า
 “ฉันจะต้องทำอย่างนั้น ฉันจะต้องได้อย่างนี้ ทั้ง ๆ ที่ไม่รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองต้องทำนั้นเพื่ออะไร? 
สิ่งที่ตนเองทำนั้น ทำให้ตัวเองรอดไปสวรรค์หรือเปล่า? หากชีวิตคริสตชนดำเนินไป หรือทำงาน 
หรือทำสิ่งต่าง ๆ โดยปราศจากพระคริสตเจ้าสิ่งที่เราทำ นั้นก็เปล่าประโยชน์ ไม่สามารถเราให้รอดพ้นได้ 
เราทำไปเพื่ออะไร?  หากเรากระทำสิ่งใดในฐานะที่เราเป็นคริสตชน และเพื่อพระคริสตเจ้า 
แน่นอนว่า สิ่งนั้นย่อมมีความหมาย เพราะ เราทำเพื่อมุ่งไปสู่พระคริสตเจ้า
ดังนั้น ชีวิตคริสตชน จำเป็นต้องมีพระคริสตเจ้าเป็นศูนย์กลางเสมอ

พระเยซูเจ้าตรัสว่า “ถ้าผู้ใดติดตามเราโดยไม่รักเรามากกว่าบิดามารดา ภรรยา บุตร พี่น้องชายหญิง 
และตัวเอง เป็นศิษย์ของเราไม่ได้”  หากเราเป็นคริสตชน แต่มีเงื่อนไขเสมอในการปฏิบัติศาสนกิจ 
หรือตามคำสอนของพระองค์ ก็แสดงว่า เรายังไม่ได้เป็นศิษย์ที่แท้จริงของพระองค์ 
แต่หากเราสามารถสละตนเอง น้ำใจตนเอง สามารถสละเวลาเพื่อมาวัด สละเวลาเพื่อสวดภาวนา 
สละเวลาเพื่อทำกิจศรัทธา หรือกิจกรรมของพระศาสนจักรต่าง ๆ ได้อย่างไม่มีเงื่อนไข “บ่มีหยังคา..” 
นั่นแหละคือการเป็นคริสตชนที่แท้จริง เพราะการเป็นคริสตชนคือ การปฏิบัติคำสั่งสอนของพระองค์อย่างจริงจัง

พระสันตะปาปาฟรังซิส ได้เคยตรัสไว้ว่า เราจะต้องเป็นคริสตชนตลอดเวลา ไม่ใช่คริสตชนครึ่งเวลา 
หรือ คริสตชนบางเวลาเท่านั้น ต้องเป็นคริสตชนตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อทุกคนจะได้เห็นพระคริสตเจ้าในชีวิตของคริสตชน 
และให้เราถามตัวเองเสมอว่า “เราเป็นศิษย์ หรือติดตามพระเยซูเจ้ามาหลายปีแล้ว พระเจ้าได้ประโยชน์อะไรจากเราบ้าง? 
หรือ เราได้ทำประโยชน์อะไรให้กับพระองค์บ้าง?

“ผู้ใดไม่แบกกางเขนของตนและติดตามเรา ผู้นั้นเป็นศิษย์ของเราไม่ได้” พระประสงค์ของพระบิดาเจ้า
สำหรับพระเยซูเจ้าคือ กางเขน เมื่อผ่านกางเขน ก็จะพบกับพระสิริรุ่งโรจน์ สำคัญก็คือ การแบกกางเขน 
ที่ต้องทุกข์ทรมาน แต่พระเยซูเจ้าก็ทำ เพื่อให้พระประสงค์ของพระบิดาเจ้าสำเร็จไป


เราคริสตชนเอง ก็เช่นกัน หนทางแห่งกางเขนเท่านั้นที่จะนำเราไปพบกับความรอดพ้น  
เราจะต้องแบกไม้กางเขนของเราทุกวัน และติดตามพระองค์เสมอ แบกกางเขน และสายตาก็จ้องมองพระองค์ 
เมื่อผ่านกางเขนแล้ว เราก็จะได้พบกับความสุขที่แท้จริง และความสุขนิรันดร



0 ความคิดเห็น: