BLOGGER TEMPLATES AND TWITTER BACKGROUNDS

วันอาทิตย์ที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2554

บทเทศน์เกี่ยวกับบัญญัติเอก


ถ้าหากเราพูดถึงความรัก เราคิดถึงอะไรและอย่างไร?

ตามธรรมดาของมนุษย์ทั่ว ๆ มักจะคิดถึงความรักในระดับของมนุษย์ด้วยกัน
และในระดับของมนุษย์กับบรรดาสัตว์ สิ่งของ ธรรมชาติ นั่นคือ

ในระดับของมนุษย์ด้วยกัน เราก็คิดถึง การไม่เบียดเบียนกัน การไม่เอารัดเอาเปรียบกัน 
การช่วยเหลือจุนเจือ ให้ความยุติธรรม สร้างสันติสุขให้เกิดขึ้นในสังคมของกันและกัน 
ซึ่งเป็นในเรื่องของสังคมสงเคราะห์ หรือ งานเมตตาจิตบ้าง เป็นต้น

ในระดับของมนุษย์กับธรรมชาติ สัตว์ สิ่งของ มนุษย์ก็จะให้ความรัก ความเคารพ 
การดูแลเอาใจใส่ การครอบครอง การถนุถนอม เป็นต้น
ซึ่งถ้าทำเช่นนี้ได้ก็ถือว่า เป็นคนดี   แต่ยังไม่สมบูรณ์

สำหรับเราคริสตชน เมื่อพูดถึงความรัก เราคิดถึงแก่นของความเป็นคริสตชน เป็นแก่นแท้
เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในชีวิตคริสตชน เพราะเมื่อเราพูดถึงความรัก 
เราคิดถึงพระเจ้า เพราะว่า พระเจ้าทรงเป็นความรัก

วันนี้พระเยซูเจ้าสอนเราว่า จงรักพระเจ้าสิ้นสุดจิตใจ สุดวิญญาณ และสุดสติปัญญา 
และรักเพื่อนมนุษย์เหมือนรักตัวเอง..

พระเยซูเจ้าตรัสว่า จงรักพระเจ้าสิ้นสุดจิตใจ สุดวิญญาณ และสุดสติปัญญา และรักเพื่อนมนุษย์เหมือนรักตัวเอง..

ให้เราพิจารณาดู อันดับแรกคือ ให้รักพระเจ้า หมายความว่า 
เราจะต้องเอาพระเจ้าเป็นศูนย์กลาง เอาพระเจ้าเป็นจุดตั้งในการที่จะรักสิ่งอื่นใด  
หมายความว่า เราจะต้องรักพระเจ้าให้ได้เสียก่อน นั่นคือ การสร้างจิตสำนึก
และการตระหนักรู้ตัวอยู่เสมอว่า พระเจ้าทรงรักเรา พระเจ้าทรงรักเรา 
และความรักของพระองค์ดึงดูดจิตใจของเราให้รักพระองค์ 
ความรักของพระเจ้าดึงเราให้เราเข้ามาอยู่ในห้วงแห่งความรักของพระองค์


ให้เรารักพระเจ้าเป็นอันดับแรก ไม่ได้หมายความว่า จุดเริ่มต้นมาจากเรา เรารักเพราะเราอยากจะรัก เรารักเพราะว่าเราปรารถนาที่จะรัก ไม่ใช่อย่างนั้น..

ที่สำคัญคือ พระเจ้าทรงรักเรา และเรียกเราให้เข้ามาสู่ความรักของพระองค์

พระเจ้าดึงดูดและเรียกเราให้เรามาสู่ความรักของพระองค์ ด้วยคำสอนและด้วยการกระทำ 
   พูดว่ารักมนุษย์และก็ทำให้มนุษย์ได้เห็นจะจะ เห็นเต็มหู เต็มตา 
นั่นคือ การมาบังเกิดเป็นมนุษย์ และการตายบนไม้กางเขนเพื่อไถ่บาปของมนุษย์  
สอนมนุษย์ให้รู้จักความรัก นั่นคือ รักแม้แต่ศัตรู รักแม้แต่คนที่เบียดเบียนเรา 
อีกทั้งยังบอกให้ราสวดภาวนาให้คนที่เบียดเบียนเราด้วย  
สอนมนุษย์ให้รู้จักให้อภัยไม่ใช่แค่ 3 หรือ 7 ครั้ง แต่ให้อภัยตลอดชีวิต ให้อภัยตลอดไป

แล้วเรายังต้องการอะไรอีก หรือ มีอะไรอีกที่พระองค์ยังไม่ได้กระทำเพื่อเรา 
มีอะไรอีกที่พระองค์ควรจะทำแล้วยังไม่ได้ทำเพื่อเรา

บัญญัติที่สองคือ รักเพื่อนมนุษย์เหมือนรักตัวเอง 
ลำดับความสำคัญเมื่อเรารักพระเจ้าสำนึกถึงความรักของพระเจ้าในชีวิตของเราแล้ว 
ยังไม่พอ ต้องรัก คนอื่น เหมือนรักตัวเองด้วย
รักคนอื่น ในลักษณะที่มองคนอื่นในสายตาของพระเจ้า รักคนอื่นตามจิตตารมณ์ของพระเจ้า คือ ไม่แบ่งแยก

รักคนอื่น หมายความว่า รักทุกคน ไม่แบ่งแยก ลักษณะภายนอก ภายใน
ไม่แบ่งแยกจากการกระทำ เพราะทุกคนเป็นบุตรของพระเจ้า ทุกคนเป็นประชากรศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้า

รักคนอื่น หมายถึง รักในความเป็นบุคคลของเขา ในความเป็นแก่นของตัวของเรา 
คือ ความเป็นคนที่มาจากพระเจ้า

สุดท้าย รักตัวเอง..เคารพต่อตัวเอง เคารพต่อศักดิ์ศรีของตัวเอง

จงรักพระเจ้าสิ้นสุดจิตใจ สุดวิญญาณ และสุดสติปัญญา และรักเพื่อนมนุษย์เหมือนรักตัวเอง..

เป็นความรักที่ไม่มีตัวเองเป็นศูนย์กลาง ไม่ใช่ตัวเองเป็นจุดเริ่มต้น
 แต่เป็นเพราะ ความรักของพระเจ้าที่มีต่อเรา ดึงดูดเรา
 และเรียกเราให้เข้ามาสู่ความรักของพระองค์ ความรักของพระเจ้าดึงดูดเราให้เรารักคนอื่น
 ความรักของพระเจ้าเรียกเราให้รักคนอื่นเหมือนอย่างที่พระองค์ทรงรักเรา และรักมนุษย์ทุกคน..

เราจะปฏิบัติตนอย่างไร?

ภายในครอบครัว 
      สวดภาวนาภายในครอบครัว เช่น ภาวนาก่อนอาหาร หรือ หลังอาหาร ภาวนาก่อนนอน
      พากันไปวัดไปวา มิสซาวันอาทิตย์และวันสมโภชต่าง ๆ         
      พูดจาดีดี ช่วยเหลือกัน 
      พ่อแม่ลูกดูแลกันและกัน ที่สุดให้อภัย

ครอบครัวต่อครอบครัว..     
    ทักทาย สนใจ ห่วงใย ช่วยเหลือกันและกัน แบ่งปัน 
    ยามทุกข์เดือดร้อนไม่ทอดทิ้งกัน แต่พยายามให้กำลังใจกัน    
    ร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกัน เล็กน้อย ๆ ก็เป็นความสุขแท้..  

นี่แหละคือการแพร่ธรรมที่ดีที่สุด..

0 ความคิดเห็น: