BLOGGER TEMPLATES AND TWITTER BACKGROUNDS

วันพุธที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2556

ฉลองนักบุญเปาโลกลับใจ 2013


บทเทศน์ โอกาสฉลองนักบุญเปาโลกลับใจ
ที่  โรงเรียนเซนต์โยเซฟ ท่าแร่
วันที่ 24 มกราคม 2013



วันนี้เราได้เห็นอำนาจของพระเจ้าในชีวิตของนักบุญเปาโล จากผู้เบียดเบียนกลายเป็นอัครสาวกผู้ฟัง ผู้รับความเชื่อในพระคริสตเจ้าและปกป้องความเชื่อนั้น และกลายเป็นผู้ประกาศข่าวดีถึงพระเยซูคริสตเจ้า
เด็กชายเซาโล เกิดในตระกูลเบนจามิน (ชาวยิวมี 12 ตระกูล) บิดามารดาเป็นชาวยิว แต่มีอีกสัญชาติหนึ่งคือ โรมัน ซึ่งครอบครัวของท่านได้ซื้อมา  เด็กชายเซาโลเป็นคนขยัน ตั้งใจเรียน ท่องจำพระคัมภีร์ ช่วยงานพ่อแม่ทำงาน เด็กชายเซาโลเป็นฟาริสีที่รักพระเจ้า ท่านได้รับการปลูกฝังให้รักพระเจ้าเพียงพระองค์เดียว พ่อแม่ อาจารย์สอนพระคัมภีร์ต่างก็สอนท่านให้รักพระเจ้ามากกว่าสิ่งใด และความรักต่อพระเจ้าแสดงออกในการปฏิบัติตนตามกฎบัญญัติ
เมื่อโตขึ้น เซาโล กลายเป็นฟาริสีที่เคร่งครัดต่อศาสนา รักษากฎเกณฑ์ ธรรมเนียม ธรรมบัญญัติไว้อย่างเคร่งครัด ท่านมีจิตใจร้อนรนในการปกป้องศาสนา ปกป้องความเชื่อ ปกป้องพระเจ้า ไม่ให้ใครมาลบหลู่ได้
วันหนึ่ง มีการจับกุมชายคนหนึ่งชื่อ สเตเฟน เขาเป็นคนเชื่อในพระเยซูคริสต์ เขาบอกว่า พระเยซูคริสต์ทรงเป็นพระเจ้า ทรงกลับคืนชีพจากบรรดาผู้ตาย นี่คือ การดูหมิ่นพระเจ้า จะมีพระเจ้าอื่นใดไม่ได้ มนุษย์จะกลายเป็นพระเจ้าไม่ได้ ชาวเมืองจึงจับ สเตฟน และเอาหินทุ่มใส่ท่านจนเสียชีวิต และ เซาโลก็เห็นดีเห็นชอบด้วย เพราะเป็นการถูกต้องแล้ว ที่ต้องลงโทษคนที่สบประมาทพระเจ้า
นอกจากนี้ เซาโลยังต้องการที่จะกวาดล้าง คนที่เชื่อในพระเยซูเจ้า ว่าทรงเป็นพระเจ้า ให้หมดไป จึงออกเดินทางไปที่เมืองดามัสกัส เพราะที่นั่นมีบรรดาผู้ที่เป็นศิษย์ของพระเยซูเจ้าอยู่ที่นั่นเป็นจำนวนไม่น้อย ระหว่างทาง เซาโลก็ได้พบกับ พระเยซูคริสตเจ้า ในรูปแบบของแสงเจิดจ้า จนทำให้ตาของท่านนั้นมืดไป ท่านได้ยินเสียงตรัสว่า
เซาโล เซาโล เจ้าเบียดเบียนเราทำไม?   เราคือ เยซูชาวนาซาเร็ท ผู้ซึ่งเจ้ากำลังเบียดเบียนอยู่ 
เซาโล อยู่ในความมืดเป็นเวลา 3 วัน (ตาของท่านมองไม่เห็น เพราะแสงจ้าระหว่างทาง นั่นเอง) แน่นอนว่า ตลอดเวลานั้น ท่านได้คิด ไตร่ตรอง และรำพึงภาวนาถึงประสบการณ์ที่ท่านได้พบปะกับพระเยซูเจ้าผู้ทรงกลับคืนพระชนมชีพ  (เราเบียดเบียนคริสตชนไม่ใช่หรือ? แต่ทำไมพระเยซูจึงบอกว่าเบียดเบียนพระองค์ นี่หมายความว่า คริสตชน กับพระเยซูเจ้านั้น เป็นหนึ่งเดียวกัน)
และเมื่อท่านพบความจริง ท่านก็ได้กลับใจ รับศีลล้างบาป กลายเป็นศิษย์ของพระเยซูเจ้า กลายเป็นผู้ประกาศข่าวดีถึงพระเยซูเจ้าว่าพระองค์ทรงเป็นพระเจ้า ผู้ทรงกลับคืนพระชนมชีพอย่างแท้จริง ท่านประกาศข่าวดีนี้ สำหรับทุกคน รวมทั้งคนต่างศาสนาด้วย เพื่อความรอดพ้นจะได้เกิดขึ้นในโลก
จะมีอะไรพรากเราไปจากความรักของพระเจ้าได้ ความทุกข์ลำเข็ญหรือ ความคับแค้นใจหรือ การเบียดเบียนข่มเหงหรือ เราชนะโดยง่ายอาศัยพระผู้ทรงรักเรา
ไม่ว่าจะมีชีวิตอยู่หรือตาย เราก็เป็นคนของพระเจ้า
วันนี้ เราทำการฉลองการกลับใจของนักบุญเปาโล ซึ่งทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมากมายต่อโลก นักบุญเปาโลเป็นเหมือนเสาหลักอีกเสาหนึ่งของศาสนาคริสต์ เพราะท่านนำข่าวดีไปสู่คนต่างศาสนา 
เราพบว่า การกลับใจของบุคคลหนึ่ง เป็นเหมือนของขวัญที่งดงามสำหรับบุคคลใกล้ชิด สำหรับครอบครัว สำหรับสังคม สำหรับโลก
เพราะ การกลับใจ หมายถึง การเป็นทุกข์เสียใจ ในสิ่งที่ตนเองได้กระทำ และพร้อมกับตั้งใจที่จะเปลี่ยนแปลงตนเอง เริ่มต้นชีวิตใหม่ พร้อมด้วยความคิด จิตใจใหม่ เพื่อมุ่งสู่หนทางที่ถูกต้องและดีงาม

ทำไมจึงบอกว่า การกลับใจ เป็นเหมือนของขวัญ?
เพราะของขวัญ เป็นของฟรี  เป็นของที่เราได้รับมาเปล่า ๆ เป็นของที่มีคนให้แก่เรา โดยที่เราไม่ต้องเสียอะไรเลย
เพราะของขวัญนำความยินดีมาสู่เรา นำความสุขมาสู่ชีวิตของ ไม่ว่าจะมีราคาหรือไม่มีก็ตาม แต่คุณค่ามากมายจากคนที่ให้ เช่น ดินสอแท่งหนึ่งจากชายอันเป็นที่รัก
เช่นเดียวกัน การกลับใจของคนคนหนึ่ง ก็นำความสุข ความยินดีมาสู่ทุกคน
ในครอบครัว บรรดาลูก ๆ ที่เกเร เที่ยวเตร่ ดื้อด้าน มึน ยอมกลับใจเปลี่ยนแปลงชีวิต  เป็นคนว่านอนสอนง่าย เชื่อฟังพ่อแม่ ขยัน ทำหน้าที่ของตนอย่างดี ย่อมทำให้พ่อแม่ดีใจ สุขใจ และชื่นชมยินดี
ในสวรรค์ เมื่อคนบาปคนหนึ่งกลับใจ ชาวสวรรค์ก็ชื่นชมยินดี

ข้อคิด 1 ข้อ จากการกลับใจของนักบุญเปาโล
ความกล้าหาญที่จะเปลี่ยนแปลงตนเอง  กล้าเปลี่ยน กล้าละทิ้งเส้นทางเดินที่ผิด เพื่อมุ่งสู่เส้นทางที่เหมาะสม ถูกต้อง และแท้จริง : นักบุญเปาโลเป็นแบบอย่างแก่เราในเรื่องนี้ เดิมท่านคิดว่า บรรดาคริสตชนที่เชื่อ เคารพ นับถือนามเยซูนี้เป็นอันตรายต่อความเชื่อในพระเจ้าหนึ่งเดียว สูงสุดของท่าน ท่านจึงต้องกำจัด และต้องจัดการขั้นเด็ดขาด โดยการจับกุม เบียดเบียน ทรมาน เพื่อให้เลิกเชื่อในพระนามของเยซูนี้  แต่เมื่อท่านได้รู้จักความจริง ว่า พระเยซูเจ้าทรงเป็นพระเจ้า เป็นพระบุตรของพระเจ้า ท่านจึงเปลี่ยนเส้นทางเดินชีวิตใหม่ แทนที่จะต่อสู้ จับกุม เบียดเบียน ท่านประกาศถึงข่าวดี ประกาศพระนามของพระเยซูคริสตเจ้า และคำสอนของพระองค์ อุทิศตน ทุ่มเท อดทนเป็นเลิศ ถูกจองจำ ถูกโบยตีนับไม่ถ้วน ถูกลงแส้ ถูกขว้างด้วยหิน เรือล่ม ลอยคอกลางทะเล ต้องเผชิญกับอันตรายต่าง ๆ
แต่ท่านไม่ยอมแพ้  ไม่ท้อถอย
เราเองก็เช่นกัน หากเรารู้ว่า เส้นทางการดำเนินชีวิตของเราอยู่ในขณะนี้ ไม่ดี ไม่ถูกต้อง ผิดกฎ ผิดระเบียบวินัยของบ้าน โรงเรียน สังคม เราก็ต้องเปลี่ยนเส้นทางเดินใหม่
ผิดกฎของบ้าน คือ ชอบเที่ยวกลางคืน ไม่ชอบนอนบ้านตนเอง เกเร ไม่เชื่อฟังพ่อไม่ พูดจาหยาบคายต่อพ่อแม่ ไม่ช่วยงาน แต่ชอบขอเงินจากพ่อแม่
ผิดกฎของโรงเรียน มาเรียนสาย ไม่ทันเวลา ไม่ตรงเวลา คุยกันในห้องเรียน โดดเรียน ไม่เข้าเรียน
ผิดกฎของสังคม มั่วสุมเสพยา ลักขโมย เป็นกลุ่มเป็นแก๊ง ขี่มอเตอร์ไซด์เสียงดัง
การกระทำเหล่านี้ เป็นการกระทำไม่ถูกต้อง และเป็นการกระทำที่ผิด ถ้าเราไม่รู้ วันนี้ เรารู้ว่า ผิด ผิดแล้วต้องกล้า กล้าที่จะแก้ไข กล้าที่จะเปลี่ยนแปลง กล้าที่จะปรับเปลี่ยนชีวิตของตน ให้ตรงกับความจริง ให้ตรงกับกฎระเบียบของครอบครัว โรงเรียน สังคม

ข้าแต่นักบุญเปาโล ช่วยวิงวอนเทอญ

0 ความคิดเห็น: