BLOGGER TEMPLATES AND TWITTER BACKGROUNDS

วันเสาร์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2556

อาทิตย์ 4 เทศกาลมหาพรต ปี c


บทเทศน์


ภาพจาก ฝาแก้บาป ที่ Basilica di San Giovanni in Laterano


พี่น้องที่เคารพรัก เราอยู่ในเทศกาลมหาพรตซึ่งอาทิตย์นี้เป็นอาทิตย์ที่ 4 แล้ว อีกไม่กี่อาทิตย์เราก็จะเข้าสู่การเฉลิมฉลองที่ยิ่งใหญ่สำหรับคริสตชนก็คือ ปัสกา การกลับคืนพระชนมชีพของพระเยซูเจ้า ในแต่ละสัปดาห์ พระศาสนจักรได้จัดเตรียมเส้นทางให้เราคริสตชนเพื่อการเดินทางมุ่งสู่ปัสกาของพระเยซูเจ้า ผ่านทางพระวาจาของพระองค์ ในบูชาขอบพระคุณ

พระวาจาของพระเจ้าในสัปดาห์นี้ เราได้ยิน ได้ฟัง และได้เห็น ได้เข้าใจถึงความรักของพระเจ้า ผู้ซึ่งเป็นบิดา การกลับมาของลูกชายที่เสเพล รวมถึงความใจแคบของลูกชายคนโตที่อยู่กับบิดาด้วย

ครอบครัวคริสตชน เป็นมีความแตกต่างจากครอบครัวอื่น ๆ อย่างสิ้นเชิง เพราะชีวิตคริสตชนของเราอยู่ในพระหรรษทานและการดูแล ความคุ้มครองจากพระเจ้า ครอบครัวของคริสตชนถือเป็นเสมือนพระพรของพระเจ้า และเป็นของขวัญของพระเจ้าที่มอบให้แก่โลก

การดำเนินชีวิตของผู้ที่เป็นพ่อแม่ เป็นการสะท้อนความรักของพระเจ้าที่มีต่อกัน ความรักที่แบ่งปัน ความรักที่เสียสละ ความรักที่มอบตนเองทั้งครบให้แก่กันและกัน สำหรับบุตรก็เช่นกัน เป็นพระพรของพระเจ้าที่มอบเป็นของขวัญให้กับครอบครัว

ชีวิตของบุตร เป็นชีวิตที่ซึมซับ และเรียนรู้ความเป็นพ่อ ความเป็นแม่ เรียนรู้คุณธรรมจริยธรรม คุณงามความดี และความเชื่อความศรัทธาต่อพระเจ้าจากผู้ที่เป็นพ่อและแม่ ดังนั้น บุตรจึงเป็นเสมือนภาพแห่งความรักอันแท้จริงของพ่อและแม่ ภาพแห่งความเป็นหนึ่งเดียวกันของครอบครัว

พระวรสาร ได้พูดถึงครอบครัวหนึ่ง ซึ่งครอบครัวนี้ มีเพียงพ่อและลูกชายสองคน อาศัยและดำเนินชีวิตอยู่ด้วยกัน สามพ่อลูกอยู่ด้วยกันในความรัก

ลักษณะของบิดาในเรื่องนี้ เป็นเสมือนตัวแทนของพ่อแม่ เป็นลักษณะแห่งความใจดี และความรักต่อบุตรอย่างชนิดที่เปรียบไม่ได้ ใจดี และเมตตาต่อบุตรของตนเอง

เราจะเห็นได้จากการกระทำของบิดาที่มอบทรัพย์สมบัติให้กับลูกชายคนเล็ก คงจะเป็นวัยรุ่น กำลังใจร้อน อยากจะใช้อิสระ อยากจะมีชีวิตส่วนตัว เมื่อลูกขอส่วนแบ่งก่อนเวลา พ่อก็ไม่ได้พูดหรือบ่นว่าอะไร พ่อก็ทำตามใจของลูกชายคนเล็ก

เราจะเห็นได้อีกเมื่อลูกชายคนเล็กกลับมาแบบหมดตัว แทนที่จะตำหนิ ดุด่า หรือลงโทษ แต่สิ่งที่บิดาทำก็คือ การเข้าไปสวมกอด ต้อนรับลูก มีความชื่นชมยินดีกับลูก ดีใจที่ลูกยังมีชีวิตอยู่ ดีใจที่ลูกกลับมาบ้าน เพราะผู้เป็นบิดารอคอย และเฝ้ารอลูกชายอยู่เสมอ

นี่คือความใจดีของบิดา นี่คือความรักที่บิดามีต่อลูกชายของตนเอง

ลักษณะของลูกชายคนเล็ก เป็นตัวแทนของลูกที่ไม่ยอมเชื่อฟังพ่อแม่ เป็นตัวแทนของลูกที่ทำตามแต่ใจของตนเอง เอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง กระทำในสิ่งที่ตนเองคิดว่าถูกต้องและดี ทั้ง ๆ ที่ทำให้ครอบครัวเดือดร้อน เป็นลักษณะของลูกชายที่ดื้อรั้น อยากเป็นอิสระจากครอบครัว อยากออกจากครอบครัว เพื่อไปเที่ยวเตร่ แต่ผลสุดท้ายสิ่งที่ลูกชายคนเล็กทำก็ให้ผลที่ทำร้ายตนเองอย่างมหันต์ ตัวเองหมดเนื้อหมดตัว ไม่มีที่ไป ไม่มีใครต้อนรับ ต้องทนทุกข์ ต้องทรมาน อดมื้อกินมื้อ อยู่ในสภาพที่น่าสังเวช (สมน้ำหน้า เพราะเลือกเอง) ในที่สุด ลูกชายคนเล็กคิดถึงบ้าน คิดถึงครอบครัว คิดถึงพ่อ คิดถึงความรัก ความใจดีที่พ่อมอบให้ จึงสำนึกผิดและกลับไปหาพ่อ สำนึกถึงความรักและกลับใจ เปลี่ยนวิถีทางการดำเนินชีวิต เพื่อการเริ่มต้นชีวิตใหม่  (ชีวิตจริงของเรา เป็นแบบนี้ไหม? จะมีสักกี่คนที่สำนึกผิด และกลับบ้าน จะมีสักกี่คนที่มีเวลาและมีโอกาสที่จะกลับใจ ที่จะเปลี่ยนแปลงตนเอง จะมีสักกี่คนที่จะได้รับโอกาสแบบนี้ กลับใจทันเวลา เปลี่ยนแปลงทันเวลา บางคนกลับใจตอนพ่อแม่ตาย บางคนต้องรอให้พ่อแม่เจ็บป่วยหนักก่อนถึงจะกลับใจ)

ส่วนลูกชายคนโต เป็นผู้ที่อยู่กับพ่อ มีชีวิตอยู่กับพ่อ อยู่กลับครอบครัว เลี้ยงดูพ่อเสมอมา น่าแปลกใจที่ว่า ลูกชายคนโตอยู่กับพ่อ แต่ไม่ได้ซึมซับความใจดี ความเมตตา ความใจกว้างของบิดาเลย จะเห็นได้จากเมื่อน้องชายกลับมา พ่อดีใจ และชื่นชมยินดี ส่วนพี่ชายคนโตกลับโกรธ และเคียดแค้น ไม่ยอมเข้าบ้าน ไม่ยอมให้อภัยน้องชายของตนเอง ไม่เปิดใจต้อนรับน้องชายของตน ทั้ง ๆ ที่อยู่กับพ่อเสมอและตลอดมา ทุกสิ่งที่พ่อมีก็เป็นของลูก (ในทรัพย์สมบัติ) แต่ในเรื่องคุณธรรมแล้วลูกชายคนโตไม่ได้รับอะไรเลย

นี่คือ ลักษณะของครอบครัวหนึ่ง ซึ่งสะท้อนความจริงของครอบครัวของเราทุกวันนี้ บิดามารดากับบรรดาลูก ๆ ไม่ลงรอยกัน บิดามารดาไม่เป็นแบบอย่างแก่ลูก ๆ ในการดำเนินชีวิต ลูก ๆ ไม่เชื่อฟังพ่อแม่ ลูก ๆ ไม่สนใจที่จะเลี้ยงดูพ่อแม่ ลูก ๆ ปล่อยปละละเลยพ่อแม่ เพราะพ่อแม่และลูก ๆ ต่างคนต่างทำตามใจของตนเอง ไม่สนใจ ไม่เห็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน

พ่อแม่ จะต้องใจดี ให้อภัยเสมอ ไม่ว่าลูกจะทำผิดซ้ำแล้วซ้ำอีก จะทำผิดต่อครอบครัวมากมายก็ตาม หรือจะทำให้ครอบครัวเดือดร้อนก็ตาม พ่อแม่จะต้องใจดี พร้อมที่จะช่วยเหลือและเป็นกำลังใจให้ลูก มุ่งไปสู่ความดี เสมอ
ลูก ๆ ก็ต้องตระหนักว่า เราเป็นของขวัญที่มีค่าเสมอของครอบครัว สิ่งที่ทำให้พ่อแม่ดีใจก็คือ การกลับมาบ้าน หมายถึง การอยู่ด้วยกัน หมายถึงการเชื่อฟัง เคารพและรัก ให้เกียรติพ่อแม่เสมอ



0 ความคิดเห็น: