BLOGGER TEMPLATES AND TWITTER BACKGROUNDS

วันศุกร์ที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2554

เข้าเงียบประจำปี ๒๐๑๑

วันที่ ๕ มกราคม ๒๐๑๑


การไตร่ตรอง...บทเทศน์ พระสังฆราช ENRICO DAL COVOLO

"จงฟังเถิด"  บทสอนของพระเจ้าและพระศาสนจักรในเรื่องเกี่ยวกับกระแสเรียกของการเป็นพระสงฆ์



4.     การทดลอง ความสงสัย และการต่อต้าน เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตของเรา

            แน่นอนว่า แต่ละวันของชีวิตของการเป็นสงฆ์ย่อมมีหลายสิ่งที่เกิดขึ้น แต่สิ่งสำคัญก็คือ การกลับใจ  
                                            การกลับใจในแต่ละวัน และทุกวัน เพื่อจะได้เริ่มต้นใหม่
               ทุกคนมีความอ่อนแอ และผิดพลาด แม้แต่พระสงฆ์ การกลับใจจึงเป็นหนทางที่จะเริ่มต้นใหม่
              ในพระหรรษทานของพระเจ้า

เป็นการดีที่ผู้มีความเชื่อรู้และเข้าใจว่า พระสงฆ์เองก็สารภาพบาปด้วยความสม่ำเสมอ

การทดลอง.. เป็นประสบการณ์ที่เกิดขึ้นในการเรียกของพระเจ้า  พระคริสตเจ้าเองก็ถูกทดลองเหมือนกันในทะเลทราย.. 
ดูเหมือนว่า การทดลองที่เกิดขึ้นจะมีความสัมพันธ์กับการเติบโตทางความเชื่อ
                                                  น.ยอห์นมารีเวียเน กล่าวว่า เป็นบุญของวิญญาณที่ถูกผจญ  
เหมือนเป็นการยืนยันว่า การทดลองมีประโยชน์และมีความจำเป็น เพราะถือว่า เป็นการกระตุ้นความเชื่อ 
เพื่อบุคคลนั้น จะได้มีการดิ้นรนต่อสู้ เพื่อที่จะเอาชนะการผจญนั้น..

               สำหรับพระเยซูเจ้า.. พระองค์ทรงถูกต่อต้าน หรือ ทดลองจากบุคคล ๒ ประเภท นั่นคือ 
                       จากคนที่อยู่รอบข้าง และจากคนที่อยู่ใกล้ชิด หมายถึง พวกฟาริสี และบรรดาสาวก

จากพวกฟาริสี.
มีเป้าหมายในการทดลองพระเยซูเจ้า ซึ่งเห็นได้จากพระวรสาร มก 2, 1-3,6 มีดังนี้
·        เพราะว่า พระเยซูเจ้าให้อภัยคนบาป และพบปะ อยู่ร่วมกับคนบาป หญิงโสเภณี คนเก็บภาษี
·        เพราะว่า ศิษย์ของพระเยซูเจ้าไม่ถือศีลอดอาหาร
·        เพราะว่า พระเยซูเจ้าไม่เคารพวันสะบาโต
·        เพราะว่า พระเยซูเจ้ารักษาคนในวันสะบาโต
ในความเป็นจริงแล้ว เห็นผลเหล่านี้ต่างหากที่ทำให้พวกฟาริสีพยายามต่อต้านพระเยซูเจ้า
·        พวกฟาริสี ปฏิเสธพระเยซูเจ้า เพราะไม่ยอมรับว่า พระองค์ทรงเป็นพระบุตรของพระเจ้า ในวิธีการต่าง ๆ 
           ที่พระองค์ได้แสดงออกมา
·        พวกฟาริสี ไม่ยอมรับพระเมสสิยาห์  ซึ่งประกาศข่าวดีแก่คนคนยากจน และใจดีมีเมตตาต่อทุกคน 
            และที่สุดเลือกที่จะตายบนกางเขน

จากบรรดาสาวก
บรรดาสาวกเป็นผู้ที่ใกล้ชิดกับพระเยซูเจ้ามากที่สุด รวมทั้งเราด้วย ซึ่งเป็นพระสงฆ์ แต่ในหลายครั้งชีวิตของพวกเขาก็คัดค้านและต่อต้านพระเยซูเจ้าอยู่เสมอ ๆ ในพระวรสารน.มาร์โก มี 2 รูปแบบของการกระทำของบรรดาสาวก
๑.     ความไม่เข้าใจ  มันยากเกินไปที่จะเข้ากันได้กับการประกาศของพระเยซูเจ้า
๒.    มีความเข้าใจ แต่ไม่ปฎิบัติตาม

ความไม่เข้าใจ
มก 1,35-38  
                พระเยซูเจ้าทรงหลบออกจากฝูงชนเพื่อไปยังที่เปลี่ยนเพื่ออธิษฐานภาวนา 
               เปโตร แสวงหาพระเยซูเจ้า เมื่อพบแล้วก็บอกว่า ทุกคนกำลังแสวงหาพระองค์...  
               เหมือนกับว่า เปโตรกำลังจะดึง เหนี่ยวรั้งพระเยซูเจ้าไว้ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบต่อพระองค์..
ในความเป็นจริง พวกเขาไม่เข้าใจเลยว่า พระเยซูเจ้าเสด็จมาเพื่อทุกคน ไม่ใช่เฉพาะคนที่ชื่นชอบ แต่เพื่อทุกคน 
ทุกแห่ง ทุกสถานที่

มก 5, 25-31 
             พระเยซูเจ้าถามว่า ใครแตะต้องตัวของเรา บรรดาศิษย์ตอบว่า พระองค์ก็ทรงเห็นแล้วว่าฝูงชนเบียดเสียดกันอย่างนี้ 
              แล้วจะมาถามอีกว่า ใครแตะต้องตัวของเรา..
เป็นอีกครั้งหนึ่งที่พวกเขาไม่เข้าใจเลย ผู้คนเข้ามาหาพระเยซูเจ้ามีหลายประเภท เช่น อยากรู้อยากเห็น 
หรือ ไม่ก็ตาม ๆ กันไป แต่มีหญิงคนหนึ่งที่คิดในใจว่า ถ้าเพียงฉันได้แตะเสื้อของพระเยซูเจ้า 
                              ฉันก็จะหายจากโรค.. นางเต็มเปี่ยมไปด้วยความเชื่อในพระองค์

มก 8, 14-21  
               ความไม่เข้าใจชัดเจนยิ่งขึ้นเมื่ออยู่บนเรือ และพระเยซูเจ้าตรัสกับเขาว่า
                                     ระวังเชื้อแป้งของพวกฟาริสี และเฮโรด... 
              บรรสาวก คิดว่า พระเยซูเจ้าตำหนิพวกเขาที่ลืมนำเอาขนมปังมาด้วย พระเยซูเจ้าจึงตำหนิพวกเขาว่า 
              ทำไมถึงมีใจแข็งกระด้างเช่นนี้

                                   ความไม่เข้าใจ มาจาก หัวใจที่แข็งกระด้าง

เข้าใจ แต่ไม่ทำ
                  ตัวอย่างของเปโตร (มก 8, 27-33) ซึ่งดูเหมือนว่าจะเข้าใจพระเยซูเจ้า ตอบว่า 
                   “พระองค์คือ พระเมสสิยาห์ พระบุตรของพระเจ้า 
                 แต่เมื่อพระเยซูเจ้าประกาศถึงการรับทรมาน และความตาย  เปโตรจึงคัดค้านพระเยซูเจ้า 
                 และบอกว่าสิ่งเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน

ตรงจุดนี้ของพระวรสาร ซึ่งถือว่า เป็นศูนย์กลางทางโครงสร้างพระวรสารของนักบุญมาระโก.. 
พระเยซูเจ้าออกจากาลิลี มุ่งไปยังกรุงเยรูซาเล็ม และตัดสินใจไปสู่เนินเขากัลป์วาลิโอ 
พระเยซูเจ้าเป็นเพียงคนหนึ่งที่ไปตายเพื่อทุกคน พระองค์ไม่ใช่ผู้นำทางการเมือง ไม่ใช่ผู้นำการต่อต้าน..

เปโตรเข้าใจว่าพระเยซูเจ้าเป็นใคร แต่คัดค้านพระองค์  ตรงจุดนี้เป็นปัญหา
                       ระว่าง การพูด และการทำ 
                                 ระหว่างความเข้าใจและการปฏิบัติ 
                                             ระหว่างคำพูดและชีวิต..

ไม่ใช่แค่การประกาศพระวรสารเท่านั้น
                     แต่จะต้องทำให้เป็นจริงในชีวิตของผู้ประกาศด้วย
ไม่ใช่แค่ประกาศถึงพระเยซูเจ้าว่าเป็นพระคริสตเจ้าและพระเมสสิยาห์ 
                       จำเป็นจะต้องเป็นเพื่อนร่วมเดินทางไปกับพระองค์จนถึงกางเขนด้วย
ไม่เป็นการเพียงพอเพียงแค่ในคำพูด..
                       แต่จำเป็นที่จะทำให้เป็นจริงในกลุ่มคริสตชนด้วย

                                                                          ดังนั้น..คุณจงไปและทำเถิด...




0 ความคิดเห็น: