BLOGGER TEMPLATES AND TWITTER BACKGROUNDS

วันพุธที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2557

วัน 3 เข้าเงียบประจำปี 2014

วันพุธ ที่ 10 กันยายน 2014

09.00 น.

มีพระสงฆ์ท่านหนึ่งสอนคำสอนคริสตชน และถามว่า "พระเป็นเจ้ากินข้าวกับอะไร?"
มียายคนหนึ่งตอบว่า กินกับลาบปลาตอง มีหมากพริก มีหมากลิ้นไม้..
อีกคนตอบว่า ปิ้งปลาเซือม (แซบที่สุด)
(ขำ ขำ)

เนื้อใน :

พระสันตะปาปาฟรัสซิส ตรัสว่า "ความชื่นชมยินดีแห่งพระวรสาร เติมเต็มชีวิตทั้งชีวิต
ของทุกคนที่แสวงหาพระเจ้า.."

พระสันตะปาปายอห์น ปอล ที่ 2 ย้ำเสมอให้ประกาศพระวรสาร ประกาศข่าวดีถึงพระคริสตเจ้า

เราจะต้องรู้จัก อ่าน  รำพึง  นำไปปฏิบัติ  และแบ่งปันชีวิต ในพระวาจาของพระเจ้า จึงจะเกิดผล
หากเราไม่ทำเช่นนี้ ผลที่ตามมา ลำบาก..

การประกาศพระวรสารแบบใหม่ ไม่ใช่การทำพระวรสารขึ้นใหม่  แต่เป็นการหมายถึง "การดำเนิน
ชีวิตแบบใหม่ การเทศน์สอนแบบใหม่ การหมุนชีวิตใหม่" เพื่อให้ทุกคนได้รับรู้
และเข้าใจ มีความเชื่อ และได้รับความรอดพ้น จากองค์พระคริสโตเจ้าของเรา

พระสงฆ์ผู้ประกาศข่าวดี ให้เราถามตัวเอง รำพึงตลอดเวลา ว่า พระเยซูคริสโตเจ้า เป็นพระวาจา
ของพระเจ้าแท้จริงหรือเปล่า?  เรามั่นใจแค่ไหน?  เราเชื่อมั่นแค่ไหน? หากเรามั่นใจ 100 เปอร์เซ็น
แน่นอนว่า การประกาศพระวรสาร จะมีชีวิตชีวา และมีความมั่นใจมากขึ้นหลาย

เนื้อใน : เรื่องการกลับใจ
มีครูบา (พระภิกษุ)ท่านหนึ่งเห็นพระสงฆ์มิสชันนารีในหมู่บ้าน ได้ไปเยี่ยมเยียนชาวบ้าน ทุกบ้าน
ไม่ว่าจะเป็นคริสต์ เป็นพุทธ เอาใจใส่ ขึ้นบ้านนั้น บ้านนี่ คุยกับเด็กน้อย เล่นกับเด็ก ๆ บ่ได้รังเกียจ
บ่ได้เลือกที่รักมักที่ชัง ทุกคนเท่าเทียมกัน
เห็นแบบอย่างเช่นนี้แล้วก็อยากจะคุย สนทนากับพระสงฆ์

จึงเกิดการสนทนาธรรมขึ้น โดยมีเงื่อนไขว่า ถ้าพระธรรมของใครดีกว่า แข็งกว่า กะให้คนนั้นสึก
และเปลี่ยนศาสนา

คุณพ่อกะได้ตกลง มีการสนทนาธรรมกันในเรื่องศีลศักดิ์สิทธิ์ 7 ประการ กับดอกบัว 7 ดอก และเรื่องบาปต้น กับเรื่องศีล
ใช้เวลาสนทนาธรรมเป็นแรมเดือน ที่สุด ครูบา กะได้สึกออกมา พร้อมกับเปลี่ยนศาสนา เพิ่นนั่นกะคือ
ปู่ของพระคุณเจ้านี่เอง

บทสรุปของการสนทนา ก็คือ อาศัยกำลังของมนุษย์ไม่สามารถที่จะเอาตัวรอดพ้นได้ มนุษย์จำเป็น
ต้องอาศัยความรัก และความเมตตาของพระเจ้าจึงจะสามารถรอดพ้นได้...

เราจะเห็นว่า การกลับใจของคนคนหนึ่ง มาจาก

"แบบอย่างชีวิตอภิบาลของพระสงฆ์"

นี่คือสิ่งที่สำคัญ

15.00 น.  

เนื้อใน : ไม้กางเขนของพระคริสโตเจ้า

การเป็นแบบอย่างของขีวิตพระสงฆ์  เป็นการประกาศข่าวดี เป็นการแพร่ธรรมที่ดีที่สุด

พระสันตะปาปายอห์น 23 ตรัสว่า หน้าที่ของข้าพเจ้าคือ การรู้จักและรับใช้พระเจ้าเสมอ
และเหตุผลของการมีชีวิตอยู่ของข้าพเจ้าก็คือ การช่วยมนุษย์ให้รอด

พระสันตะปาปยอห์น ปอล 2 ตรัสว่า "พวกลูกอย่ากลัว กางเขนเท่านั้นที่ให้ชีวิตที่แท้จริง
กางเขนคือชัยชนะ กางเขนเป็นยอดของความรักต่อมนุษยชาติ"

จงพิจารณาและรำพึง "ไม้กางเขนของพระคริสตเจ้าเสมอ"

ประสบการณ์การแพร่ธรรมในลาว..

กว่าที่ไม้กางเขนจะปักลงผืนดินประเทศลาว มีความยากลำบาก เพราะมีการเบียดเบียน
มีการต่อต้าน และมีการข่มเหง

มีประกาศว่า ให้ทุกหมู่บ้านที่ปักไม้กางเขนที่หน้าหมู่บ้านออก ถ้าไม่ทำจะต้องมีโทษ

หลายคนกลัวไม้กางเขน คนรัฐบาล กลัวไม้กางเขนของพระคริสโตเจ้า
พวกเขายอมรับไม่ได้

สุดท้าย ไม้กางเขนก็ได้ปักลงที่หัวใจ จิตใจ และจิตวิญญาณของชาวลาว
จนถึงกับว่า ไม่มีใครที่จะถอนออกไปจากจิตวิญญาณของเฮาได้เลย

ไม้กางเขนของพระคริสโตเจ้ามีไว้ แบก และติดตามพระองค์
หากเราไม่แบกกางเขน  ไม้กางเขนนั้นอาจจะล้มทับเฮากะได้เด้...



0 ความคิดเห็น: