BLOGGER TEMPLATES AND TWITTER BACKGROUNDS

วันอาทิตย์ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2554

บทเทศน์: อาทิตย์ 26 ธรรมดาปี A

                                                                อสค 18:25-28 
                                                                ฟป 2:1-11 
                                                                มธ 21:28-32


แบ่งปันความคิด (Omelia)





 

บทพระวรสาร

เรื่อง การรับฟังพระวาจาของพระเจ้าและนำไปปฏิบัติ เป็นเรื่องที่สำคัญมาก
มิใช่ ฟัง แล้ว ก็นิ่งเฉย


สิ่งที่เกิดขึ้น
       ชายคนหนึ่งมีลูกสองคน เขาไปบอกลูกคนแรกให้ไปทำงานที่สวน ลูกคนแรกก็ตอบว่า "ครับ"
                แต่ก็ไม่ได้ไปทำงาน
       เขาไปบอกลูกชายคนที่สองเช่นเดียวกัน ลูกคนที่สองตอบว่า "ผมไม่อยากไป" แต่แล้วก็เปลี่ยนใจ
               และเขาก็ไปทำงานในสวน

แล้วพระเยซูเจ้าถามว่า ใครทำตามใจของพ่อ?  ทุกคนตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า "ลูกคนที่สอง"

สังเกตว่า การทำตามใจพ่อ 

ไม่ใช่ การรับฟัง และการตอบรับว่า ครับ  ผมจะทำ  ผมจะไป เพียงแค่ต่อหน้า เพื่อเอาหน้า
ซึ่งเป็นเสมือนการเอาอกเอาใจ พูดตอบรับ เพียงเพื่อให้ผ่านพ้นไป
หาความจริงใจไม่มีเลย อยากให้พ่อสบายใจ เพียงแค่ลมปากเท่านั้น
คนประเภทนี้ เป็นเหมือนกับพวกผู้ดี แต่ปาก  หรือ ประเภทที่ดีแต่พูด ปากดี เท่านั้นเอง

การทำตามใจพ่อ เป็นการฟัง แม้จะเกิดปฏิกิริยาต่อต้าน หรือ เกิดความไม่พอใจ ซึ่งก็เป็นการ
แสดงออกถึงเสรีภาพของบุคคล เป็นการแสดงอารมณ์ ความรู้สึก ถึงความใส่ใจ
ซึ่งปฏิกิริยาตรงนี้ ไม่สำคัญมากเท่าใดนัก เพราะว่า ความรู้สึกนี้ สามารถเปลี่ยนแปลงได้
เมื่อเห็นความจริง ความถูกต้อง ก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลง เกิดความสำนึก แล้วก็จะเกิด
การกลับใจ เหมือนกับลูกคนที่สอง ที่กลับใจในเวลาต่อมา
และสิ่งสำคัญของการฟัง ก็คือ การนำไปปฏิบัติ..

คนที่ปฏิบัติตามคำของเรา ก็คือ บิดามารดาและพี่น้องของเรา
คนที่ฟังพระวาจาและนำไปปฏิบัติก็คือคนที่สร้างบ้านบนหิน แข็งแรงมั่นคง
คนที่ฟังพระวาจาและนำไปปฏิบัติก็คือ เมล็ดที่ตกลงบนดินดี เกิดผลร้อยเท่า

บทอ่านที่หนึ่ง

คนชั่วละทิ้งความชั่วแล้วทำความดี ก็จะได้รับการอภัยจากพระเจ้า
คนดีที่ละทิ้งความดีแล้วหันกลับไปทำความชั่ว เขาจะตายเพราะความชั่วของเขา

การให้อภัย เป็นการให้สำหรับคนที่สำนึกผิด  คนที่รู้ตัวว่าทำผิด ทำบาป ทำในสิ่งที่ไม่ดี
เพื่อเป็นโอกาสให้กลับใจและเปลี่ยนแปลงตนเอง ให้ทำสิ่งดี

เป้าหมายของการดำเนินชีวิตก็คือ ความดี

ถ้าคนหนึ่งละทิ้งความดี และหันไปทำชั่ว ก็แสดงว่า เขาเลือกที่จะทำชั่ว และต้องการเป็นคนชั่ว
ถ้าคนหนึ่งละทิ้งความดีงาม เพื่อไปหมกมุ่นกับความชั่ว ก็แสดงว่า เขาเห็นความชั่วดีกว่าความดี
แล้วเขาจะตายเพราะความชั่ว  เขาจะไม่ได้รับความรอดจากความดีที่กระทำ

การกลับใจ จึงเป็นกระบวนการจากความชั่วไปสู่ความดี
ไม่ใช่ จากคนดี กลายเป็น คนชั่ว..

แล้วเราจะทำอย่างไร?

หนึ่ง  จงทำความดีอย่างสม่ำเสมอ และตลอดไป
สอง  จงทำความดีในการกระทำ ไม่ใช่ทำความดีเพียงแค่คำพูด ปากเปล่าเท่านั้น
สาม  จงทำความดีตั้งแต่วันนี้  เวลานี้ ไม่ใช่ผลัดวันประกันพรุ่ง หรือ เอาไว้ก่อน เอาไว้ทีหลัง
สี่      จงทำความดีในทุกสถานการณ์ของชีวิต แม้แต่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากที่สุด หรือ
         สถานการณ์ที่บีบบังคับก็ตาม เพราะความดีเป็นความดีที่ต้องทำตลอดเวลา
ห้า   จงหันตัวเองออกจากความชั่ว และมุ่งสู่ความดีเสมอ
หก   พึงรู้และตระหนักเสมอว่า การกระทำย่อมดีกว่าคำพูดเสมอ

0 ความคิดเห็น: