กท 3:7-14 ลก 11:14-26
บทเทศน์
ในบทอ่านที่หนึ่ง เราได้ยินน.เปาโลบอกว่า มนุษย์จะเอาตัวรอดได้ ก็ต่อเมื่อเขามีความเชื่อ
ด้วยตัวอย่างของอับราฮัม ที่เชื่อมั่นในพระเจ้า ยึดมั่นในอำนาจของพระเจ้า เพราะความเชื่อ
ท่านจึงได้ชื่อว่าเป็นผู้ชอบธรรม
ตรงข้ามกับชาวยิวที่สอนให้ปฏิบัติตามบัญญัติอย่างเคร่งครัดเพื่อจะได้เอาตัวรอดได้
เราจะต้องเข้าใจว่า น.เปาโลมิได้หมายความว่าจะต้องละทิ้งพระบัญญัติของพระเจ้า
แล้วก็เชื่อในพระเจ้าอย่างเดียว
แต่นักบุญเปาโลบอกว่า ความเชื่อสำคัญที่สุด
ความเชื่อเป็นพื้นฐานของการปฏิบัติ
ความเชื่อทำให้มนุษย์กลายเป็นคนชอบธรรมได้ และหากปฏิบัติตามพระบัญญัติอย่างเคร่งครัดโดยไม่มีความเชื่อ
การกระทำนั้นก็ไร้ประโยชน์
หากปฏิบัติตามพระบัญญัติอย่างเคร่งเครัด โดยลืมจิตตารมณ์ของพระบัญญัติ
การถือตามพระบัญญัติก็เปล่าประโยชน์
พี่น้องที่เคารพรัก
พระเยซูเจ้าเสด็จมาในโลกนี้ ประกาศสอน ทำกิจการดี ช่วยเหลือคนยากจน
คนที่ได้รับความเดือดร้อนต่าง ๆ มากมาย ไม่ใช่ว่าทุกคนจะชื่นชมยินดี
ไม่ใช่ว่าทุกคนจะชื่นชอบพระองค์เสมอไป ก็มีประชาชนหลายคนที่ปฏิเสธ และคัดค้าน
ขัดแย้ง และหาวิธีการต่าง ๆ เพื่อจะจับผิดพระองค์บ้าง เพื่อจะทดลอง
ทดสอบพระองค์บ้าง
วันนี้ก็เช่นเดียวกัน
มีบางคนได้เห็นกิจการของพระเยซูเจ้าแล้วก็ยังกล่าวหาพระองค์อีก พระองค์ขับไล่ปีศาจซึ่งทำให้คนเป็นใบ้
เมื่อมันออกไปแล้ว ประชาชนต่างก็พูดกันต่าง ๆ นานา บางคนก็ว่า พระองค์ขับไล่ปีศาจด้วยอำนาจของเบเอลเซบูล
เจ้าแห่งปีศาจ
หรือเป็นชื่อของเทพเจ้าของชาวคานาอัน
นี่แหละจิตใจของมนุษย์
หากจิตใจของเรามีความคิดที่ชั่วร้ายก็จะมองไปทางไหนมีแต่ความชั่วร้าย หากจิตใจของเรามีความเศร้า
เราจะมองไปทางไปก็จะเห็นเป็นเรื่องน่าเศร้าทั้งหมด หากจิตใจเรา เต็มเปี่ยมไปด้วยพระคุณของพระเจ้า
เราจะมองเรื่องอะไร สถานการณ์ใดก็จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับพระเจ้า เช่นกัน
พระเยซูเจ้าจึงสอนพวกเขาให้เข้าใจว่า
อาณาจักรใดที่แตกแยกกัน อาณาจักรนั้นจะคงอยู่ไม่ได้
ถ้าพระองค์ขับไล่ด้วยอำนาจของปีศาจ ก็เท่ากับว่าพระองค์แตกแยกกันเอง ด้วยเหตุผลเช่นนี้
จึงเป็นไปไม่ได้ที่พระเยซูเจ้าจะขับไล่ปีศาจด้วยอำนาจของซาตาน แต่ถ้าพระองค์ขับไล่ด้วยอำนาจของพระเจ้า
ก็แสดงว่า พระอาณาจักรของพระเจ้ามาถึงแล้ว
เราที่เป็นผู้อยู่ในพระอาณาจักรของพระเจ้า ก็จำเป็นที่จะต้องอยู่ฝ่ายพระเจ้า
จำเป็นจะต้องปฏิบัติตามพระบัญญัติของพระเจ้า
เพื่อจะได้เข้าอยู่ในการปกครองของพระเจ้า คนที่อยู่ในการปกครองของพระเจ้า
ปีศาจหรือว่าอำนาจแห่งความมืดจะต้องถูกขับไล่ออกไป
พระองค์ยังเตือนเราให้ระมัดระวังอีกว่า
ทุกครั้งที่เราสามารถเอาชนะการประจญ การทดลอง การล่อลวงให้ทำบาป เรามีโอกาสทำบาป แต่เราไม่ทำ เวลาคนที่ว่าร้าย หรือนินทาเรา
เราสามารถที่จะอดทนและอดกลั้น ให้อภัยได้
เวลาที่เราโมโหแต่เราสามารถควบคุมได้
แสดงว่าเรามีพลังในการที่จะเอาชนะการผจญเหล่านี้
พระเยซูเจ้าบอกว่า อย่าเพิ่งดีใจ เพราะการทดลองจะเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า
ปีศาจจะล่อลวงเราหนักขึ้น เราจะมีโอกาสทำบาปมากขึ้น
ถ้าหากว่าเราไม่ตั้งใจ และไม่ระมัดระวังจริง ๆ แล้ว “สภาพของคน ๆ
นั้นก็จะเลวร้ายกว่าเดิมเสียอีก”
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น