BLOGGER TEMPLATES AND TWITTER BACKGROUNDS

วันเสาร์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2555

สัปดาห์ที่ 30 เทศกาลธรรมดา ปี B




บทเทศน์


การรักษาบารทิเมอัสคนขอทานที่ตาบอดเป็นอัศจรรย์ครั้งสุดท้ายในพระวรสารของนักบุญมาระโกที่พระเยซูเจ้าทรงกระทำก่อนที่พระองค์จะเสด็จเข้ากรุงเยรูซาเล็ม  ที่เมืองเยริโค เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ก่อนที่จะถึงกรุงเยรูซาเล็ม  ทุกคนที่จะไปกรุงเยรูซาเล็มต้องผ่านเมืองนี้ คนตาบอดเป็นบุคคลที่ถูกทอดทิ้งน่าสงสาร เป็นขอทานที่ไม่มีใครสนใจ ไม่มีใครดูแล เขาดำเนินชีวิตข้างถนน เกียรติและศักดิ์ศรีไม่มี ถูกดูหมิ่นและเหยียดหยามว่า นี่เป็นผลของบาป..บาปทำให้เขาตาบอด..

แต่บารทิเมอัสก็เป็นแบบอย่างและให้ข้อคิดกับเรา


บารทิเมอัส ขออะไรจากพระเยซูเจ้า
ครั้งแรก เขาร้องขอความเมตตากรุณาจากพระเจ้า พระโอรสของกษัตริย์ดาวิดเจ้าข้า โปรดเมตตาข้าพเจ้าเถิดเพราะว่า บารทิเมอัสมองไม่เห็นพระเยซูเจ้า เขารู้แต่เพียงว่า ตัวเขาเป็นคนบาป เป็นคนที่น่าสงสารที่อยู่ในสภาพของบาป และสภาพของการถูกลงโทษ เพราะฉะนั้น สิ่งที่เขาต้องการคือ ความเมตตาและการให้อภัยในความบาปของเขา เพื่อเขาจะได้ไม่ต้องลงไปสู่แดนผู้ตายตลอดนิรันดร เขาจึงร้องขอความเมตตาจากพระเจ้า และเพราะเขาเชื่อว่า บุคคลนี้เป็นบุตรของดาวิด คงจะช่วยให้เขารอดพ้นได้

ประการที่สอง เขาร้องขอแสงสว่าง รับบูนี พระอาจารย์ ให้ข้าพเจ้าแลเห็นเถิด หลังจากที่เขาได้ยินกลุ่มชนบอกว่า ทำใจดี ๆ ไว้ ลุกขึ้น พระองค์กำลังเรียกเจ้าแล้ว มันเป็นประสบการณ์ใหม่ที่คนตาบอดได้รับ มันเป็นประสบการณ์ที่เขาไม่เคยได้รับมาก่อน นั่นคือ ความสนใจที่อยากจะเจอกับเขา ความสนใจที่อยากจะพบกับคนบาป เขารู้สึกถึงเกียรติ และศักดิ์ศรี เขารับรู้ถึงความรักของพระเจ้าที่มีต่อเขา เขาจึงร้องว่า พระอาจารย์ โปรดให้ข้าพเจ้ามองเห็นเถิด เขาต้องการแสงสว่าง เขาต้องการการรักษา โดยที่เขาเชื่อมั่นว่า พระเยซูเจ้าทรงช่วยเขาให้สามารถมองเห็นได้แน่นอน เขามีความหวังในพระเยซูเจ้า และมั่นใจในพระองค์
คำตอบของพระเยซูเจ้าที่ให้แก่เขา ก็คือ ไปเถิด ความเชื่อของเจ้าได้ช่วยเจ้าให้รอดพ้นแล้ว

พี่น้องที่เคารพรัก ในการดำเนินชีวิตคริสตชนของเรา สิ่งที่เราต้องการจากพระเจ้าก็คือ ความเมตตากรุณา และแสงสว่างส่องทางเดินในชีวิตของเรา เพื่อเพิ่มความเชื่อ เพิ่มความหวัง เพิ่มความมั่นใจ และเพื่อความรักต่อพระองค์
บารทิเมอัส ตาบอด มองไม่เห็น ไร้คุณค่า ไร้ศักดิ์ศรี หมดหวัง หมดกำลังใจ และทิ้งศักดิ์ศรีความเป็นบุตรของพระเจ้า ขาดความมั่นใจในความเป็นบุตรของพระเจ้า เพราะสังคมตราหน้าว่า เป็นคนบาป เป็นคนที่สมควรได้รับโทษ
เราคริสตชน เรามีตา เรามองเห็น เราสามารถสัมผัสได้ถึงความงามของสิ่งสร้างที่พระเจ้าทรงสร้างมาเพื่อเรา ธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และโลก 
พี่น้องคริสตชน เรามองเห็นความดีงามของพระเจ้า เรามองเห็นหลักปฏิบัติของพระเจ้า เรามองเห็นศีลธรรมจริยธรรมของพระเจ้า เรามองเห็นหนทางแห่งการดำเนินชีวิตเพื่อมุ่งไปสู่ความศักดิ์สิทธิ์ในพระเจ้า
ความดีงาม กฎของพระเจ้า พระองค์ทรงจารึกไว้ในหัวใจของเรา พระองค์ทรงบรรจุไว้ในจิตใจ ในมโนธรรมของเรา อะไรดี อะไรถูก พระเจ้าบอกเราผ่านทางมโนธรรมของเรา อะไรผิด อะไรเป็นบาป พระเจ้าบอกเราผ่านทางมโนธรรมของเรา
เมื่อเราดำเนินชีวิตอยู่ในแสงสว่างแห่งความเชื่อ และพระบัญญัติของพระเจ้า เราย่อมมองเห็นทางของพระเจ้าได้อย่างชัดเจน และไม่หลงทาง
ในความเป็นจริงไม่เป็นเช่นนั้น ในความเป็นจริง หนทางของพระเจ้า ทำไมหลายครั้งเรามองเห็นไม่ชัดเจนบ้าง คลุมเครือบ้าง หลายครั้งเราไม่แน่ใจว่าใช่ทางของพระเจ้าไหม? เพราะความอ่อนแอ ความบกพร่อง การตกอยู่ในสภาพบาปของเรา
เราจะทำอย่างไร? ทำเหมือนกับบารทิเมอัส กล้าที่จะสลัดเสื้อคลุมของตนเองทิ้ง  กล้าที่จะกระโดดเข้าไปเฝ้าพระเยซูเจ้า  เราต้องไม่ประนีประนอมกับความชั่วร้าย เราต้องไม่ประนีประนอมกับความบาป เราจะต้องเด็ดเดี่ยว และกล้าที่จะเข้าหาพระเจ้าด้วยใจจริง...ความเชื่อ จะทำให้เราเข้มแข็ง  ข้าพเจ้าเชื่อว่า พระเจ้าทรงสรรพานุภาพ.. หมายความว่า เราเชื่อว่า พระเจ้าทรงทำได้ทุกสิ่งทุกอย่าง พระเจ้าทรงอำนาจ ไม่มีสิ่งใดที่พระเจ้าจะทำกระทำไม่ได้.. แม้แต่การให้อภัยความบาป ความผิดที่มนุษย์บอกว่า ให้อภัยไม่ได้ แต่สำหรับพระเจ้าพระองค์ให้อภัยบุตรของพระองค์เสมอ ขอเพียงการสำนึกผิด และการกลับใจมาหาพระองค์ 


0 ความคิดเห็น: