BLOGGER TEMPLATES AND TWITTER BACKGROUNDS

วันอาทิตย์ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2556

อาทิตย์ ที่ 18 เทศกาลธรรมดา ปี c


บทเทศน์

ความสัมพันธ์ของมนุษย์กับทรัพย์สมบัติในโลก

พระเยซูเจ้าตรัสว่า “จงระวังและรักษาตัวไว้ให้พ้นจากความโลภทุกชนิด” ความโลภ คือ ความอยากได้ มันอยู่ในจิตใจของมนุษย์ มันเป็นสัญชาตญาณแห่งการพัฒนาและเติบโตของสิ่งมีชีวิต  มนุษย์ทุกคนเมื่อเกิดมา มนุษย์ก็อยากจะมีหลายสิ่งหลายอย่างด้วยกันทั้งนั้น โดยเฉพาะสิ่งที่นำความสุขมาสู่ชีวิต ในเวลานี้.. ปัญหาสำหรับมนุษย์ในทุกวันนี้ก็คือ ความเป็น กับความมีไม่สมดุล หรือเท่าเทียมกัน นั่นหมายความว่า เมื่อเราเป็นบุตรของพระเจ้า เราก็เป็นคนของพระเจ้า และคนของพระเจ้าก็ต้องเป็นคนดี  ปัญหาคือ เรามีหลายสิ่งที่ไม่สอดคล้องกับการเป็นของเรา เรามีหลายอย่างที่มากเกินกว่าความเป็นของเรา เช่น เราแสวงหาการมีเงิน มีทอง มีความร่ำรวย มากกว่า การแสวงหา หรือ การประกอบกิจการที่ดีงาม เราแสวงหาชื่อเสียง เกียรติยศ ความมีหน้ามีตา จากความร่ำรวย มากกว่า การแสวงหาชื่อเสียงในการเป็นคริสตชนที่ดี ที่มีความเชื่อ
พระเยซูเจ้าตรัสว่า “จงระวังและรักษาตัว ให้พ้นจากความโลภทุกชนิด” การมีความอยากได้ อยากมี นั่นดีไหม?  ดี เพราะเป็นเหมือนแรงขับเพื่อให้มนุษย์ก้าวหน้า แต่สิ่งที่พระเยซูเจ้าบอกกับเราก็คือ “จงระวัง และอยู่ห่างไกลจากมัน” นั่นคือ เราไม่สามารถควบคุมความโลภ ในจิตใจของเรา ในทุกช่วงเวลาของชีวิตของเรา  วันนี้ เราอาจจะควบคุมได้ แต่ในเวลาอื่น เราก็ไม่แน่ โดยเฉพาะในเรื่องของเงินทอง หรือ ทรัพย์สมบัติ
มีคนบอกว่า “ถ้าทรัพย์สมบัติ เป็นเป้าหมายของความโลภแล้ว ยากที่จะถอนตัว”  พระเยซูเจ้าได้เล่าเรื่องอุปมาเพื่อสอนเราว่า “มีเศรษฐีคนหนึ่ง ร่ำรวยมาก เพราะมีที่ดินเป็นของตนเอง และที่ดินก็ให้ผลที่อุดมสมบูรณ์ จนนำความสุขมาสู่ชายคนนี้ แล้วเขาก็คิด วางแผนในอนาคต เพื่อจะได้มีความสุข”

สิ่งที่เราสังเกตเห็นก็คือ

1.       เศรษฐีคนนี้ คิดว่า การมีทรัพย์สมบัติมากมาย มีทุกอย่างที่เหลือเฟือ จะนำความสุขมาสู่ชีวิตของเขาได้
2.       เศรษฐีคนนี้มองเห็นแต่ตัวเอง  ใช้ชีวิตอยู่กับตัวเอง มุ่งหาแต่ตัวเอง คือ เห็นแก่ตัว นั่นเอง
3.       เศรษฐีคนนี้มั่นใจในตัวเองว่า ตนเองจะมีชีวิตในโลกนี้ตลอดไป
4.       เศรษฐีเน้น การกินดื่ม และสนุกสนาน ในโลกนี้

พระเยซูเจ้าสอนอะไรแก่เรา

1.       “จงคิดถึงชีวิตนิรันดรเถิด”
2.       จงอย่ายึดติดกับทรัพย์สมบัติในโลกนี้  หรือ อย่าสะสมทรัพย์สมบัติไว้ในโลกนี้ เพราะทรัพย์สมบัติที่มีมากมายในแผ่นดินนี้  ท่านไม่สามารถนำไปสวรรค์ได้ ไม่สามารถนำไปสู่การมีชีวิตนิรันดรกับพระเจ้าได้ ไม่สามารถแลกซื้อ หรือแลกเปลี่ยนกับความสุขนิรันดรในสวรรค์ได้ 
3.       พระเยซูเจ้าไม่ได้สอนให้เราเห็นแก่ตัวเอง แต่พระองค์สอนเราให้รู้จักที่จะแบ่งปัน แบ่งปันสิ่งที่มีอยู่เพื่อคนอื่น เพื่อคนที่เดือดร้อน หรือ มีความจำเป็นมากกว่าเรา
“ท่านจงไปขายทุกสิ่งที่มี แจกจ่ายให้คนยากจน แล้วท่านจะมีขุมทรัพย์ในสวรรค์ แล้วจงตามเรามาเถิด”
“ท่านจะรับใช้พระเจ้า และเงินทองพร้อมกันไม่ได้” เขาจะรักนายคนหนึ่ง และจะเกลียดนายอีกคนหนึ่ง”
4.       พระเยซูเจ้าสอนว่า “ความตาย ไม่ได้บอกวันและเวลา” ความตายจะมาถึงเราในเวลาที่เราไม่คาดคิด ความตายไม่ถามว่า คุณร่ำรวยหรือคุณยากจน  ความตายไม่เคยไว้หน้าใคร.. สิ่งสำคัญคือ จงเตรียมพร้อมไว้ จงเตรียมตัวให้อยู่ในการเฝ้าระวังเสมอ  และการเตรียมพร้อมสำหรับเราคริสตชนก็คือ การดำเนินชีวิตในปัจจุบันอย่างดีที่สุด ในฐานะที่เราเป็นคริสตชน  การถือตามพระบัญญัติ การรักษาพระบัญญัติ ในแต่ละวัน นั่นแหละคือสิ่งที่เป็นการเตรียมตัวของเรา


      ในหนังสือปัญญาจารย์ บอกว่า “ไม่เที่ยงแท้ที่สุด ทุกสิ่งทุกอย่างไม่เที่ยงแท้”  หรือทำนองที่ว่า “ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนอนิจจัง” ภายใต้ดวงอาทิตย์นี้ ไม่มีอะไรคงอยู่ตลอดกาล  แต่..ผู้ที่ดำเนินชีวิตตามหนทางของพระเจ้า ผู้ที่รักษาตนเองไว้ในพระหัตถ์ของพระเจ้า ผู้นั่นแหละจะได้รับชีวิตนิรันดร


0 ความคิดเห็น: