BLOGGER TEMPLATES AND TWITTER BACKGROUNDS

วันศุกร์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ครบรอบแต่งงาน 2013

บทเทศน์

ครบรอบแต่งงาน

การแต่งงานเป็นเหมือนกับการเดินทาง

เมื่อเริ่มต้นที่จะออกเดินทางไปสู่เป้าหมายของการสร้างครอบครัว  แน่นอนว่า จำเป็นที่แต่ละคนจะต้องแสวงหา คนที่จะมาร่วมเดินทางไปกับเรา เราจะต้องมองหา และเลือกคนที่จะเดินไปกับเรา โดยมีเป้าหมายอันเดียวกัน  เครื่องมือที่เราใช้ในการเลือกก็คือ ความรัก  ความรักที่เรามีต่อบุคคลหนึ่ง หรือ ความรักที่เราถูกรักจากบุคคลหนึ่ง เรามักจะได้ยินว่า รักคนที่เรารัก หรือ รักคนที่รักเราดีกว่า เป็นต้น จะอย่างไรก็ตาม ความรักก็เป็นพื้นฐานของการเลือกผู้ที่จะร่วมเดินทางไปกับเรา
เมื่อได้คนที่ร่วมเดินทาง ได้เพื่อนที่รู้ใจ ได้คนที่มาร่วมทุกข์ร่วมสุขกับเราแล้ว เราก็ต้องออกเดินทาง คือ การแต่งงาน ในการแต่งงาน เรามีเป้าหมายร่วมกันคือ การสร้างครอบครัว  สร้างครอบครัวที่มาจากความรัก ความเป็นหนึ่งเดียวกันระหว่างเรากับคู่ชีวิตของเรา

เมื่อเป้าหมายชัดเจน และร่วมกันแล้ว เราก็ออกเดินทางร่วมกัน การใช้ชีวิตรวมกัน ความสุข และความทุกข์ การดำเนินชีวิตเพื่อที่จะสร้างครอบครัวที่อบอุ่น การสร้างครอบครัวที่น่ารัก การมีบุตร ซึ่งเป็นเหมือนของขวัญที่พระเจ้ามอบให้แก่เรา เมื่อมีบุตร ชายและหญิงก็เปลี่ยนสถานะเป็น พ่อ และ แม่ ซึ่งเป้าหมายเหมือนเดิม แต่สถานภาพเปลี่ยนไป

การเลี้ยงดูบุตร เป็นหน้าที่และความรับผิดชอบที่จะขาดไม่ได้ของผู้ที่เป็นพ่อและแม่ การเอาใจใส่ต่อบุตรเป็นเรื่องของความรักล้วน ๆ ไม่มีสิ่งใดเจือปน  พ่อแม่ต้องเหน็ดเหนื่อยและทำงานอย่างหนักเพื่อลูก เพื่อสร้างครอบครัวของตนเองให้แข็งแรงและมั่นคง

การอยู่ด้วยกันของคู่แต่งงาน จากปี ถึงปี ปีแล้วปีเล่า ระยะเวลาเป็นการพิสูจน์ความรักอย่างแท้จริง ระยะเวลาเป็นการพิสูจน์ความจริงแท้ของชีวิตคู่อย่างแท้จริง อุปสรรคทั้งส่วนตัวและส่วนครอบครัวไม่สามารถทำลายความสัมพันธ์และความรักของกันและกันได้ ถือว่าเป็นความรักที่บริสุทธิ์และแท้จริง

การอยู่ด้วยกันจนถึง 55 ปี ไม่ธรรมดา...

สิ่งที่ทำให้เราอยู่ด้วยกันได้ยืนนานจนถึงทุกวันนี้.. คือ พระหรรษทานของพระเจ้า ที่พระองค์ประทานชีวิตให้แก่เรา พระองค์ทรงอวยพรชีวิตของเรา

การตายต่อตัวเอง เพื่อให้ชีวิตใหม่เกิดขึ้นในชีวิตคู่ของเรา เหมือนกับเมล็ดพืชที่ต้องเปื่อยและสลายไป เพื่อให้มีความดีงาม และสิ่งใหม่เกิดขึ้น  สามี-ภรรยา หรือ บิดา-มารดา ต้องตายต่อตัวเองนับครั้งไม่ได้ เพื่อทำให้ความดีในครอบครัวงอกขึ้น เติบโตขึ้น

การแต่งงาน เป็นพระพรของพระเจ้าอย่างแท้จริง...


จากหนังสือ 108 ร้อยแปด 1009 พันเก้า เขียนโดย ศจ.มาโนช แจ้งมุข
  


พวกฝรั่งเขามีการนับ "ปีครบรอบวันแต่งงาน" ไว้อย่างน่าคิดมาก ตั้งแต่ครบรอบวันแต่งงานปีแรก ไปจนถึงวันครบรอบแต่งงานปีที่ 60 ดังต่อไปนี้

ครบรอบ 1 ปี เรียกว่า "ปีกระดาษ" ที่ใช้กระดาษเป็นสัญลักษณ์อาจจะเพราะว่า เพิ่งเริ่มต้นไม่นาน ยังไม่ค่อยมองเห็นคุณค่าของการสมรสมากนัก ยังบอบบางอยู่มาก

ครอบรอบ 2 ปี เรียกว่า "ปีฝ้าย" ฝ้ายเป็นต้นไม้ชนิดหนึ่งออกฝักมาเป็นปุยขาวนวล น้ำหนักเบา การสมรสมาถึงช่วงนี้ไม่มากนัก เป็นช่วงที่สามีภรรยาจะเรียนรู้จักนิสัยใจคอของกันและกัน

ครบรอบ 3 ปี เรียกว่า "ปีหนัง" หนังเป็นส่วนห่อหุ้มร่างกายสัตว์ ที่นำมาฟอกแล้วประดิษฐเป็นเครื่องใช้ เช่น กระเป๋า รองเท้า เสื้อคลุม มีลักษณะทนทาน เมื่อการแต่งงานมาถึงรอบปีที่ 3 แล้ว ก็นับว่าผ่านการผจญในครอบครัวมาพอสมควร ชีวิตเริ่มมองเห็นคุณค่าและความคงทน

ครบรอบ 4 ปี เรียกว่า "ปีผลไม้และดอกไม้" ผลไม้มีรสหวาน ทุกคนชอบรับประทานส่วนดอกไม้มีสีสวยและกลิ่นหอม ปีที่สี่แห่งการแต่งงานมักจะหวานชื่นและสวยงาม สามารถที่จะปรับตัวเข้ากันได้ดีขึ้น

ครบรอบ 5 ปี เรียกว่า "ปีไม้" ไม้เป็นพืชที่งอกขึ้นจากดิน มีลำต้น เนื้อแข็ง มีกิ่งก้านสาขา ปีนี้รากฐานแห่งการสมรสมั่นคงขึ้น เริ่มมีลูกหลายคน

ครบรอบ 6 ปี เรียกว่า "ปีน้ำตาลและขนม" น้ำตาลเป็นวัตถุที่มีรสหวาน ได้จากตาลอ้อยและมะพร้าว ส่วนขนม คือ ของกินที่ไม่ใช่กับข้าว ปรุงด้วยกะทิ หรือน้ำตาลเป็นของหวาน คู่แต่งงานปีนี้มีความรักกันอย่างหวานชื่น มีความเข้าใจกันมากกว่าปีที่ผ่านๆมา และนับวันความรัก จะเพิ่มพูนทวีขึ้น ดังที่พระคัมภีร์กล่าวว่า "สามีจงรักภรรยาของตน"

ครบรอบ 7 ปี เรียกว่า "ปีขนแกะ" ขนแกะเอามาทอเป็นเครื่องนุ่งห่ม ให้มีความอบอุ่นมากกว่าอย่างอื่น ปีนี้เป็นปีแห่งการเอาใจใส่ซึ่งกันและกันในทุกๆด้านไม่ว่าจะเป็นด้านร่างกาย จิตใจและด้านจิตวิญญาณ เลข 7 ในพระคัมภีร์ถือว่า เป็นเลข "ครบบริบูรณ์" ปีนี้ทุกอย่างจึงอุดมสมบูรณ์ด้วย

ครบรอบ 8 ปี เรียกว่า "ปีเกลือ" เกลือเป็นธาตุผสมมีรสเค็มใช้ประกอบอาหารและป้องกันการเน่าเสีย คู่แต่งงานเมื่อมาถึงปีนี้จะรักษาซึ่งกันและกัน ใช้ชีวิตให้เป็นประโยชน์ต่อคริสตจักร ต่อเพื่อนบ้านและสังคม ดังที่พระเยซูคริสต์ตรัสว่า "ท่านทั้งหลายเป็นเกลือแห่งแผ่นดินโลก" และในความสัมพันธ์กับคนอื่น พระคัมภีร์กล่าวว่า "จงให้วาจาของท่านประกอบด้วยเมตตาคุณ ปรุงด้วยเกลือที่มีรสเพื่อท่านจะได้รู้จักตอบให้จุใจแก่ทุกคน"

ครบรอบ 9 ปี เรียกว่า "ปีทองแดง" ทองแดงเป็นธาตุชนิดหนึ่งเป็นโลหะสีแดง บุแล้วรีดได้ง่ายเป็นตัวนำไฟฟ้าได้ดี และมีราคาไม่แพง จะเห็นได้ว่า ชวิตแห่งการสมรสเริ่มมีคุณค่ามากขึ้นจากการเป็นไม้ กลายเป็นโลหะ แต่ละฝ่ายเป็นสื่อแห่งพระคุณและความรักของพระเจ้า ที่หลั่งไหลสู่กันและกัน และยังไหลบ่าไปสู่คนอื่นๆด้วย

ครบรอบ 10 ปี เรียกว่า "ปีดีบุก" ดีบุกเป็นโลหะสีขาวมีประโยชน์มาก ใช้ทำฝาครอบเครื่องยนต์ หุ้มกล่องสบู่ ภาชนะหุงต้ม ทำกระป๋อง ในปีที่สิบนีชีวิตการแต่งงานมีประโยชน์มากขึ้น สายตาของเขาทั้งสองจะไม่มองเพียงแคบๆ เฉพาะในครอบครัวของตนเองเท่านั้น แต่จะตระหนักถึงผู้อื่นและยอมถวายตัวที่จะรับใช้พระองค์อย่างเต็มความสามารถ

ครบรอบ 11 ปี เรียกว่า "ปีเหล็กกล้า" เหล็กกล้าเป็นโลหะที่แข็งมาก ใช้ทำเครื่องมือต่างๆเหนียวมีความทนทาน การสมรสเมื่อมาถึงปีที่ 11 ความรักที่มีต่อกันจะแนบแน่นแข็งแรงในด้านความเชื่อ ความศรัทธาต่อพระเจ้า เป็นผู้นำครอบครัวที่ดี ฝึกฝนลูกๆในทางพระเยซูคริสต์ และนำคนอื่นมาพบกับความรอด

ครบรอบ 12 ปี เรียกว่า "ปีผ้าลินินและผ้าไหม" ผ้าไหมเป็นมันอ่อนนุ่ม สวยงามมีราคาแพง ส่วนผ้าลินินเป็นผ้าที่ได้จากต้นปอแฟลกทำเสื้อผ้า ชีวิตการแต่งงานที่สวยงามครบ 1 รอพอดี อ่อนหวานและมีคุณค่ายิ่งนัก คู่สมรสจะเข้าใจถึงความสูงส่งของสถาบันครอบครัวว่า "จงให้การสมรสเป็นที่นับถือแก่คนทั้งปวง"

ครบรอบ 13 ปี เรียกว่า "ปีลูกไม้" เป็นการขลิบระบายน่ารัก กระจุ๋มกระจิ๋มให้ความหมายต่อการแต่งงานมาก 

ครบรอบ 14 ปี เรียกว่า "ปีงา" ตามบ้านของผู้มีอันจะกิน เขาจะประดับด้วยงาช้างถือว่ามีคุณค่า ราคาแพงและหายากยิ่ง สง่างามและน่าเกรงขามด้วยเมื่อมีการแต่งงานผ่านมาถึงปีนี้ชีวิตคู่ดูเหมือนมีการประดับประดาด้วยสิ่งที่มีค่าราคาแพงและหายากยิ่ง

ครบรอบ 15 ปี เรียกว่า "ปีแก้วมณี" เป็นรัตนชาติที่มีรูปลักษณืหลากหลาย เป็นลูกแก้ว เป็นผลึก ใสสวยงาม การสมรสที่ดำเนินมาถึงปีที่สิบห้านี้ เปรียบประดุจอัญมณีมีค่า ชีวิตของเขาจะส่องแสงเป็นประกายสวยงามยิ่งนัก

ครบรอบ 20 ปี เรียกว่า "ปีไชน่า"

ครบรอบ 25 ปี เรียกว่า "ปีเงิน" เงินเป็นแร่สีขาวเนื้ออ่อนเงาวาว เรียกว่า สีเงิน ยิ่งขัดก็ยิ่งเงางาม คู่สมรสเมื่ออยู่ด้วยกันจนมาถึงป่านนี้แล้ว ได้ขัดเกลาซึ่งกันและกัน ทั้งทางด้านนิสัย ทัศนคติ รสนิยม จนหล่อหลอมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน

ครบรอบ 30 ปี เรียกว่า "ปีไข่มุก" ซึ่งได้มาจากหอยนางรมชนิดหนึ่ง เป็นของหายาก มีค่า กว่าจะเกิดเปนไข่มุกในตัวหอยได้ มันจะต้องพบกับความทุกข์ยากลำบากอย่างแสนสาหัส เรียกว่า "ความสวยงามที่เกิดจากความเจ็บปวด" ปีไข่มุกแห่งการแต่งงาน จึงแสดงให้เห็นถึงความสวยงามของชีวิตที่ผ่านความทุกข์ยากลำบาก

ครบรอบ 35 ปี เรียกว่า "ปีปะการัง" ปะการังเป็นหินที่เกิดใต้น้ำ บางอย่างเคลื่อนไหวได้อย่างสวยงาม นำเอามาประดับห้องรับแขกได้

ครบรอบ 40 ปี เรียกว่า "ปีทับทิม" ทับทิมเป็นพลอยชนิดหนึ่งสีแดง บางทีก็เรียกว่า แสงแดง เป็นเครื่องประดับที่สวยงามที่คอที่หู หรือที่นิ้วมือ

ครบรอบ 45 ปี เรียกว่า "ปีนิล" หรือบุษราคัม หรือเป็นสีเขียวขาบและสีเขียวแก่

ครบรอบ 50 ปี เรียกว่า "ปีทอง" ทองเป็นโลหะสีเหลืองทองบริสุทธิ์ เรียกว่า ทอง 24 กะรัต มีคุณสมบัติคือ คงทนต่อสภาพแวดล้อม ไม่เกิดสนิม มีค่าสูง มีราคาแพง ยากแก่การปลอมแปลง และมีค่าลงตัวเมื่อแบ่งแยก ปีที่ 50 เป็นปีที่คู่สมรสได้เคียงบ่าเคียงไหล่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาเกือบจะถึงบั้นปลายของชีวิตแล้ว ช่วงนี้สภาพแวดล้อมไม่มีอิทธิพลต่อเขาได้เลย เขาจะยืนหยัดอยู่อย่างมั่นคง เป็นร่มของพวกลูกๆหลานๆ

ครบรอบ 55 ปี เรียกว่า "ปีมรกต" ชาวกรีกโบราณเรียก มรกตว่า "หินดาวกระพริบ" มรกตเกิดขึ้นยากมาก ปกติจะพบในหินไมกาซิสต์ที่มีเปกมาไตท์เวนตัดผ่านหินดังกล่าว มรกตที่เจียระไนแล้ววาววับ มีแสงสีเขียวแผ่ออกมาเรืองตา คู่สามีที่อยู่กินด้วยกันจนลุล่าง 55 ปีนั้นมีไม่มากคู่นัก ชีวิตเขาจึงมีค่า

ครบรอบ 60 ปี เรียกว่า "ปีเพชร" เพชรบริสุทธิ์เป็นสารโปร่งตาไม่มีสี เพชรกระจายแสงได้มาก แสงเอ็กซเรย์ผ่านได้ เพชรเป็นสารที่แข็งที่สุดในโลก ทนทานต่อสารเคมีเกือบทุกชนิดใช้ทำเครื่องมือที่มีความละเอียดอ่อนและเที่ยงตรง และใช้ทำเครื่องประดับที่มีราคาแพง ซึ่งเป็นการสมควรแล้ว ที่จะยกให้คู่สมรสที่อยู่กินกันมาครบ 60 ปี เป็น "เพชร" ชีวิตการแต่งงานของเขาแข็งแรง ทนทาน ยาวนาน และมีค่ามากที่สุด


0 ความคิดเห็น: