BLOGGER TEMPLATES AND TWITTER BACKGROUNDS

วันพฤหัสบดีที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

วันศุกร์ 14 ธรรมดาปี B

มธ 10:16-23


        16
จงฟังเถิด เราส่งท่านไปเหมือนแกะในฝูงสุนัขป่า ท่านจงฉลาดประดุจงูและซื่อประดุจนกพิราบ
17จงระมัดระวังตนจากมนุษย์ เขาจะมอบท่านที่ศาลและเฆี่ยนท่านในศาลาธรรมของเขา       
18 ท่านจะถูกนำตัวไปต่อหน้าผู้ว่าราชการและเฉพาะพระพักตร์กษัตริย์เพราะเราเป็นเหตุ เพื่อเป็นพยานยืนยันแก่เขาและแก่บรรดาชนต่างชาติต่างศาสนา 
19เมื่อเขาจะมอบท่านที่ศาลนั้น อย่าวิตกกังวลว่าจะพูดอย่างไรหรือพูดอะไร สิ่งที่ท่านจะพูดนั้นจะได้รับการดลใจในเวลานั้นเอง  
20เพราะท่านจะมิได้พูดด้วยตนเอง แต่พระจิตของพระบิดาของท่านจะตรัสในท่าน
21พี่จะฟ้องน้อง น้องจะฟ้องพี่ให้ต้องโทษถึงตาย พ่อจะฟ้องลูก ลูกจะลุกขึ้นกล่าวโทษพ่อแม่ให้ถึงตาย
22คนทั้งปวงจะเกลียดชังท่านเพราะนามของเรา แต่ผู้ที่ยืนหยัดจนถึงวาระสุดท้ายก็จะรอดพ้น  
23เมื่อเขาจะเบียดเบียนท่านในเมืองหนึ่ง จงหลบหนีไปอีกเมืองหนึ่งเราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ก่อนที่ท่านจะไปทั่วทุกหัวเมืองของอิสราเอล  บุตรแห่งมนุษย์ก็จะเสด็จกลับมาแล้ว”



บทเทศน์


พี่น้องที่เคารพรัก การเป็นธรรมทูต หรือ การเป็นผู้ประกาศข่าวดีโดยตรง หรือโดยทางอ้อมนั้น ต้องถูกเรียกร้อง นั่นก็คือ การเสียสละตนเอง  การอุทิศตน การยอมมอบตนเองไว้กับพระเจ้าอย่างครบถ้วน นั่นคือ จะต้องเชื่อมั่น และไว้วางใจในพระเจ้า ในทุก  ๆ สถานการณ์ของชีวิต
ในพระวรสาร พระเยซูเจ้าทรงแนะนำและให้แนวทาง ให้กำลังใจแก่บรรดาศิษย์ ที่จะออกไปประกาศเรื่องพระอาณาจักรพระเจ้าท่ามกลางชนชาติอิสราเอล เพื่อเตรียมจิตใจของพวกเขาให้มีใจกล้าที่จะเผชิญกับทุกสิ่งที่จะเกิดขึ้น
พระเยซูเจ้าบอกว่า ท่านจงฉลาดประดุจงู และซื่อประดุจนกพิราบ  หมายความว่าพระเยซูเจ้าต้องการให้ศิษย์ของพระองค์รู้จักใช้สติปัญญา ตัดสินใจต่อสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นอย่างรอบคอบ สุขุม  ไม่โง่ เบาปัญญาให้คนอื่นชักจูงเราออกนอกลู่นอกทาง หรือละทิ้งภารกิจในการประกาศ และก็ไม่เจ้าเล่ห์ ที่จะหลอกล่อคนอื่น หรือเอารัดเอาเปรียบคนอื่น ศิษย์จะต้องเป็นซื่อ ๆ และจริงใจ
นอกจากนี้ การเป็นศิษย์ของพระเยซูเจ้ายังจะต้องเผชิญกับความยากลำบากอื่น ๆ อีก ไม่ว่าจะเป็นจากเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน คือ การปฏิเสธ การไม่ยอมรับ หรือแม้แต่คนในครอบครัวเของเราด้วยที่เกลียดชัง ที่กล่าวโทษพวกเรา พี่จะฟ้องน้อง น้องจะฟ้องพี่ พ่อจะฟ้องลูก และลูกจะกล่าวโทษพ่อแม่ให้ถึงตาย  เป็นความแตกแยกที่เกิดขึ้น เพราะเราเป็นศิษย์ของพระเยซูเจ้า   แต่พระเยซูเจ้าบอกว่า  พวกเราไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น พระเจ้าทรงประทับอยู่ในตัวของเรา  พระองค์จะทรงช่วยเราในยามที่เรามีปัญหา หรือวิกฤตในชีวิต
สิ่งที่เรียกร้องมากก็คือ การเพียรทน การยืนหยัดจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต  การยืนอยู่บนหนทางของพระเยซูเจ้าจนตลอดชีวิต ผู้นั้นจะได้รับความรอด
ประกาศกโฮเชยา ก็บอกว่า คนฉลาดจะเข้าใจในหนทางของพระเจ้า  คนชอบธรรมจะเดินในทางนี้  คนมีปัญญาจะเลือกทางนี้เป็นเป้าหมาย   แต่คนโง่ และคนทรยศเท่านั้นที่สะดุดทางของพระเจ้า  เพราะว่าทางของพระเจ้านั้นสูงกว่าวิถีทางของเรา เพราะทางของพระเจ้าจะต้องฝืนตนเอง จะต้องบังคับ และควบคุมตนเองอยู่ตลอดเวลา 
เราเป็นคริสตชน เราได้เลือกเดินในหนทางของพระเจ้า  เราได้ยึดเอาหนทางของพระองค์เป็นหลักแล้ว ก็ขอให้เรามุ่งมั่นที่จะเดินในทางนี้  ก็ขอให้เราพยายามเดินตรงในหนทางนี้ ตามพระบัญญัติของพระองค์ ตามกฎเกณฑ์  ตามพระประสงค์ของพระองค์
เพราะฉะนั้น ความทุกข์ อุปสรรค  ปัญหา ความยากลำบาก การเบียดเบียน การข่มเหงย่อมเกิดขึ้นอย่างแน่นอน และอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ด้วย แต่สิ่งสำคัญที่สุด พระเยซูเจ้าบอกว่า อย่ากังวลใจ อย่ากลัว อย่าท้อแท้ อย่าสิ้นหวัง เพราะว่าพระเจ้าทรงอยู่กับเรา  พระเจ้าทรงประทับในตัวของเรา


0 ความคิดเห็น: