วันจันทร์ 14 ธรรมดาปี B

Matthew 9:18-26

18 While he was thus speaking to them, behold, a ruler came in and knelt before him, saying, "My daughter has just died; but come and lay your  hand on her, and she will live."
19 And Jesus rose and followed him, with his disciples.
20 And behold, a woman who had suffered from a hemorrhage for twelve years came up behind him and touched the fringe of his garment;
21 for she said to herself, "If I only touch his garment, I shall be made well."
22 Jesus turned, and seeing her he said, "Take heart, daughter; your faith has made you well." And instantly the woman was made well.
23 And when Jesus came to the ruler's house, and saw the flute players, and the crowd making a tumult,
24 he said, "Depart; for the girl is not dead but sleeping." And they laughed at him.
25 But when the crowd had been put outside, he went in and took her by the hand, and the girl arose.
26 And the report of this went through all that district.


บทเทศน์

ในบทอ่านที่ 1 จากหนังสือประกาศกโฮเชยา ท่านได้บรรยายให้ชาวอิสราเอลได้เห็นภาพความสัมพันธ์ระหว่างพระเจ้ากับมนุษย์  ระหว่างพระเจ้ากับชาวอิสราเอล และระหว่างพระเจ้ากับเราทุกคน

เพื่อความเข้าใจง่ายยิ่งขึ้นถึงความรักของพระเจ้า  ประกาศกได้ให้ภาพความสัมพันธ์ของสามี-ภรรยา เป็นภาพความสัมพันธ์ของพระเจ้ากับมนุษย์  พระเจ้าทรงเลือกที่จะหมั้นกับเรา ด้วยความซื่อสัตย์ ด้วยความรักของพระองค์ ด้วยความยุติธรรม ด้วยความชอบธรรมของพระองค์จะคงอยู่ตลอดไป  จะมั่นคงกับเรามนุษย์เสมอ

เรากับพระเจ้าจะไม่ใช่คนแปลกหน้าต่อกัน  เรากับพระเจ้าจะใกล้ชิดกัน เรากับพระเจ้าจะเป็นหนึ่งเดียวกัน

ในพระวรสาร พระเยซูเจ้าทรงเป็นความรักของพระเจ้า ทรงเป็นพันธสัญญาของพระเจ้า พระองค์ได้แสดงออกถึงความซื่อสัตย์ ความรักที่ให้ไว้กับมนุษย์ ด้วยการช่วยมนุษย์ให้พ้นจากความทุกข์ทรมานจากโรคภัยไข้เจ็บ  จากความเจ็บป่วย และแม้แต่ความตาย  พระเยซูเจ้าก็ทรงสามารถช่วยเราให้รอดพ้นได้

หญิงคนหนึ่งเป็นโรคตกเลือดมา 12 ปีแล้ว กลับหายเป็นปกติ เพราะนางความหวัง และเชื่อมั่น  และเด็กหญิงวัย 12 ขวบที่ได้ตายไปแล้วกลับมีชีวิตอีกครั้งหนึ่ง เพราะความรักและความเชื่อของผู้เป็นบิดา 

นี่คืออานุภาพแห่งความรักของพระเจ้าที่ทรงมีต่อมนุษย์ และอานุภาพของความเชื่อของมนุษย์ที่มีต่อพระเจ้าผู้ทรงฤทธานุภาพ

เราเองก็เช่นเดียวกัน ความรักของพระเจ้าแผ่ขยายมาถึงเราทุกวัน  อัศจรรย์แห่งความรักของพระเจ้าอยู่กับเราเสมอ เราได้ประสบกับพระเมตตาของพระเจ้าเสมอในชีวิตของเรา เช่น วันนี้เรามีชีวิตใหม่  วันนี้เรามีโอกาสมาร่วมพิธีมิสซาบูชาของพระคุณ  วันนี้เรามีบุญที่ได้รับศีลมหาสนิท รับองค์พระเยซูเจ้า  ให้เราขอบพระคุณพระองค์  และขอให้สิ่งเหล่านี้เพิ่มพูนความเชื่อของเราให้แน่แฟ้นและเข้มแข็งยิ่งขึ้นในพระนามของพระองค์

อย่าให้ความยากลำบากฝ่ายกาย โรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ มาทำลายความเข้มแข็งของเรา อย่าให้ความเจ็บไข้ได้ป่วย ความทุกข์ทรมาน มาทำลายความเชื่อของเรา หรือแม้แต่ความตายก็อย่าให้มันมีอำนาจมากพอที่จะดึงเราออกห่างจากพระเจ้า

ตรงกันข้ามเมื่อประสบกับสิ่งเหล่านี้ ขอให้เราใกล้ชิดกับพระเจ้า 

เป็นบุญของเราแท้ เมื่อมีความทุกข์แสนสาหัสที่สุดในชีวิต  แต่เราก็ยังสวดภาวนาถึงพระเจ้า และสามารถใกล้ชิดกับพระองค์ได้