BLOGGER TEMPLATES AND TWITTER BACKGROUNDS

วันเสาร์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2555

สมโภชนักบุญเปโตรและนักบุญเปาโล2012


บทเทศน์


สมโภชนักบุญเปโตร และนักบุญเปาโล

วันนี้ เราพากันมาร่วมมิสซาสมโภชนักบุญเปโตร และนักบุญเปาโล เสาหลักแห่งพระศาสนจักรคาทอลิกวันนี้ เราเฉลิมฉลองอะไร? และความยิ่งใหญ่ของ น.เปโตรและน.เปาโลอยู่ที่ไหน? พระสันตะปาปาเปาโลที่ 6 ตรัสว่า วันนี้ เราไม่ได้ฉลองชื่อของท่านทั้งสองนามเปโตรและเปาโล แต่เราเฉลิมฉลองงานพันธกิจของท่าน ที่ท่านทั้งสองได้กระทำในฐานะที่เป็นผู้ติดตามพระคริสตเจ้า ฉะนั้นสิ่งที่เราฉลองก็คือ ชีวิตและการดำเนินชีวิตของท่านน.เปโตร และน.เปาโล นั่นเอง
เรามาพิจารณาดูในเรื่องของ ชีวิต ของนักบุญทั้งสองท่านนี้ว่า ชีวิตของท่านนั้นยิ่งใหญ่แค่ไหน? วิเศษเพียงไร?
ซีมอน เป็นชาวประมงธรรมดาคนหนึ่ง หาปลามาเลี้ยงชีพ หาปลามาเลี้ยงครอบครัว ไม่ได้มีการศึกษาอะไรที่สูงมากนั้น มีความฉลาดในเรื่องการจับปลาเท่านั้นเอง ท่านเป็นคนใจร้อน มุทะลุ  พูดจาขวานผ่าซาก ตรงไปตรงมา ชีวิตทางศาสนา ท่านเป็นศิษย์ของยอห์นบัปติส รอคอยพระแมสสิยาห์ (พระผู้ไถ่) และเพื่อพบกับพระเยซูเจ้า ท่านก็ได้ถูกเรียกให้ติดตามพระองค์ไป โดยละทิ้งทุกสิ่ง อาชีพ การงาน ครอบครัวของตน เพื่อติดตามพระเยซูเจ้าไป ท่านอยู่กับพระเยซูเจ้าเสมอ และตลอดเวลา ท่านซึมซับชีวิตของพระเยซูเจ้า ทั้งคำสอนของพระองค์ และกิจการของพระองค์ เหตุการณ์สำคัญจะมีท่านอยู่ด้วยเสมอ
และในวันนี้ก็เช่นเดียวกัน ท่านตอบพระเยซูเจ้าว่า พระองค์ทรงเป็นพระคริสตเจ้า พระบุตรของพระเจ้า แล้วพระเยซูเจ้าก็บอกว่า ท่านคือเปโตร หรือ ศิลา และบนศิลานี้เราจะตั้งพระศาสนจักรของเรา นรกจะไม่มีวันเอาชนะพระศาสนจักรได้เลย  ดูเหมือนว่าคำตอบนี้จะเป็นความเข้าใจของท่าน แต่ไม่ใช่..ท่านตอบโดยที่ไม่เข้าใจอะไรเลย และต่อมาเมื่อพระเยซูเจ้าถูกจับกุม ท่านก็ได้ปฏิเสธพระองค์ ถึง 3 ครั้ง ปฏิเสธว่าไม่รู้จักพระองค์ ไม่รู้จักชายคนนี้เลย ปฏิเสธแม้แต่ต่อหน้าผู้หญิง และเด็กผู้รับใช้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า เปโตรไม่รู้จักพระเยซูเจ้าจริง ๆ ตลอดเวลา 2 ปีกว่า ๆ ที่อยู่ด้วยกัน ใช้ชีวิตร่วมกัน ไม่มีค่าและไม่มีความหมายอะไรเลย  เพราะความกลัว ความขี้ขลาดและความอ่อนแอ ทำให้ท่านต้องเอาชีวิตของตัวเองให้รอดพ้นก่อน แต่เมื่อท่านระลึกถึงสิ่งที่พระเยซูเจ้าพูดไว้ว่าท่านจะปฏิเสธพระองค์ ท่านก็ร้องไห้ เสียใจ สำนึกในความผิด ความอ่อนแอของตนเอง
หรือในหลายปีต่อมาหลังจากพระเยซูเจ้าสิ้นพระชนม์ ที่กรุงโรม น.เปโตรถูกจับโดยจักรพรรดิเนโร บรรดาคริสตชนที่กรุงโรมพากันหาวิธีให้ท่านหนีออกจากคุก และเมื่อหนีได้ ขณะที่ท่านกำลังเดินออกนอกกรุงโรมนั้น ท่านก็พบกับพระเยซูเจ้ากำลังแบกกางเขนเดินไปที่กรุงโรม น.เปโตรจึงถามพระเยซูเจ้าว่า พระอาจารย์ท่านกำลังจะไปไหน? พระเยซูเจ้าตอบว่า เรากำลังจะไปถูกตรึงกางเขนอีกครั้งที่กรุงโรม เพื่อท่าน น.เปโตรได้สติจึงกลับไปที่กรุงโรม เพราะไม่ต้องการทรยศพระเยซูเจ้าอีกครั้ง และท่านก็ถูกตรึงกางเขน เอาศีรษะปักลงดิน..
นี่คือชีวิตของน.เปโตร อัครสาวก ที่ติดตามพระเยซูเจ้าจนถึงที่สุดของชีวิต
เซาโล เป็นเกิดในตระกูลฟาริสี และท่านก็เป็นชาวฟาริสีที่เคร่งครัดต่อพระเจ้าองค์ ท่านเกลียดชังคริสตชน เพราะคริสตชนนับถือพระเยซู เทียบเท่ากับพระเจ้าของท่าน ขณะที่ท่านเดินทางไปเมืองดามัสกัส และในระหว่างทางได้ปะทะกับแสงเจิดจ้า และได้ยินเสียงที่พูดว่า เซาโล เซาโล เจ้าเบียดเบียนเราทำไม?  เราคือเยซูผู้ที่เจ้ากำลังเบียดเบียนอยู่ เซาโลมองไม่เห็นเป็นเวลา 3 วัน เมื่อได้รับการปกมือจากอานาเนีย ท่านก็มองเห็นและขอรับศีลล้างบาป และเปลี่ยนชื่อเป็น เปาโล ท่านได้เปลี่ยนการเดินทางชีวิตของท่าน จากที่ตามล่าคริสตชน ท่านกลับพูดถึงเรื่องของพระเยซูเจ้าผู้ทรงกลับคืนพระชนมชีพจากความตาย ท่านเทศน์สอนด้วยความกระตืนรือร้น และด้วยใจร้อนรน ท่านไม่เกรงกลัวสิ่งใด เพราะท่านบอกว่า ท่านมีชีวิตอยู่ไม่ใช่เพื่อตนเอง แต่มีชีวิตอยู่เพื่อพระคริสตเจ้า ท่านยังเขียนอีกว่า ตลอดการเดินทางประกาศข่าวดีนี้ ท่านต้องเผชิญกับอะไรบ้าง นั่นคือ ข้าพเจ้าถูกชาวยิวลงแส้ห้าครั้ง ครั้งละสามสิบเก้าที  ข้าพเจ้าถูกชาวโรมันเฆี่ยนตีสามครั้ง ถูกขว้างด้วยหินหนึ่งครั้ง เรืออับปางสามครั้ง ลอยคออยู่กลางทะเลหนึ่งคืนกับหนึ่งวัน  ข้าพเจ้าต้องเดินทางเสมอ ต้องเผชิญอันตรายในแม่น้ำ อันตรายจากโจรผู้ร้าย อันตรายจากเพื่อนร่วมชาติ อันตรายจากคนต่างชาติ อันตรายในเมือง อันตรายในถิ่นทุรกันดาร อันตรายในทะเล อันตรายจากพี่น้องทรยศ  ข้าพเจ้าต้องทำงานเหน็ดเหนื่อยลำบากตรากตรำ อดนอนบ่อย ๆ ต้องหิวกระหาย ต้องอดอาหารหลายครั้ง ต้องทนหนาว ไม่มีเสื้อผ้าสวมใส่  นอกจากสิ่งเหล่านี้แล้ว ข้าพเจ้ายังถูกบีบคั้นทุกวัน นั่นคือเป็นห่วงพระศาสนจักรทุกแห่ง (2คร 11:24-28) และท่านถูกตัดศีรษะที่นอกกำแพงกรุงโรม

นี่คือชีวิตของท่านนักบุญทั้งสอง น.เปโตรได้ชื่อว่า เป็นเสาหลักแห่งความเชื่อ เป็นหัวหน้าของอัครสาวก  น.เปาโลได้ชื่อว่า เป็นผู้สอนและผู้ป้องกันความเชื่อ หรืออัครสาวกของคนต่างศาสนา
จุดเปลี่ยนชีวิตของนักบุญเปโตร และนักบุญเปาโลก็คือ พระเยซูเจ้า พระคริสตเจ้า พระบุตรของพระเจ้าผู้ทรงชีวิต
จากชาวประมงจับปลา กลายเป็นชาวประมงจับมนุษย์ จากคนอ่อนแอ หวาดกลัว กลายเป็นคนกล้าหาญ เด็ดเดี่ยว และซื่อสัตย์
จากชาวฟาริสีที่เคร่งครัด กลายเป็นฟาริสีที่ใจดี ร้อนรน และปรารถนาให้ทุกคนได้รับข่าวดี จากคนที่เคยคิดจะทำลาย กลายเป็นคนปกป้อง สอน และนำผู้อื่นเข้ามามีความเชื่อในพระเยซูเจ้า
ดังนั้น จุดเปลี่ยนของชีวิตของท่านทั้งสองคือ พระเยซูเจ้า จากการพบปะกับพระเยซูเจ้า ทำให้ทั้งสองท่านนี้เปลี่ยนการดำเนินชีวิตแบบเดิม ๆ และหันมาดำเนินชีวิตแบบใหม่ ที่ดีกว่า ที่สมบูรณ์กว่า โดยเฉพาะในเรื่องการนำคำสอนของพระเยซูเจ้ามาปฏิบัติในชีวิต คำสอนเรื่อง ความรัก
ข้อคิดข้อปฏิบัติสำหรับเราทุกคนในวันนี้ก็คือ การรู้จักให้อภัยตนเอง และการรู้จักที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ดีกว่า..
น.เปโตรปฏิเสธพระเยซูเจ้า 3 ครั้ง แต่ท่านก็ตอบว่า รักพระเยซูเจ้า 3 ครั้งเช่นเดียวกัน
น.เปาโลเบียดเบียนบรรดาผู้ที่เชื่อถึงพระเยซูเจ้า เมื่อท่านพบความจริง ท่านก็กลายเป็นผู้ที่ปกป้อง สอน และประกาศข่าวดีถึงพระเยซูเจ้า
เพราะท่านทั้งสองได้รับการอภัยจากพระเจ้า เพราะท่านได้รับความรักจากพระเจ้า ท่านจึงให้อภัยตนเอง และมองไปข้างหน้า เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่
เราเองก็เช่นเดียวกัน มีหลายอย่างที่เราได้ทำผิดในอดีต มีหลายครั้งที่เราพลาดพลั้งไป จงให้อภัยตนเอง และเริ่มต้นใหม่ มองไปข้างหน้าเพื่อสร้างชีวิตใหม่ ชีวิตที่เต็มไปด้วยความหวังและความเชื่อมั่น สำหรับเราคริสตชนเราหวัง และเราเชื่อมั่นในพระเยซูเจ้าผู้ทรงรักเรา ผู้ทรงยอมตายเพื่อเรา
ขอพระเจ้าอวยพรพี่น้องทุกคน..

0 ความคิดเห็น: