BLOGGER TEMPLATES AND TWITTER BACKGROUNDS

วันเสาร์ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2555

สมโภชพระตรีเอกภาพ 2012

บทเทศน์


พระบิดา และพระบุตร และพระจิต ทรงเป็นพระเจ้าที่ทรงใกล้ชิดเรา ชนิดที่ว่า เราแทบจะไม่รับรู้ด้วยซ้ำไปว่า พระองค์ทรงอยู่เคียงข้างเราเสมอ ในทุกวัน ทุกเวลา และทุกสถานการณ์ของชีวิตที่เรากำลังดำเนินไป
ทุก ๆ วัน ทุก ๆ ครั้ง ทุก ๆ เวลาที่เราทำสำคัญมหากางเขน นั่นแหละเป็นการประกาศว่า เราเชื่อ เราไว้วางใจ เรามีพระเจ้า คือ พระบิดา และพระบุตร และพระจิตเจ้า ทรงคุ้มครอง ดูแล และปกปักรักษาเราเสมอ
ในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิม ได้พูดถึงพระเจ้าว่า  พระเจ้าของเราไม่เหมือนกับเทพเจ้าอื่นใด หรือรูปเคารพใดใด ที่มีตาแต่มองไม่เห็น มีหูแต่ไม่ได้ยิน มีปากแต่พูดไม่ได้  สำหรับประชากรของพระเจ้า พระองค์ทรงเปิดเผยพระองค์เองให้เรารับรู้ว่า พระองค์ทรงเป็นผู้มีชีวิตตั้งแต่ปฐมกาล ก่อนกาลเวลา และไม่มีสิ้นสุด พระเจ้าทรงเปิดเผยพระนามของพระองค์ให้มนุษย์คือ พระยาห์เวห์ หมายถึง พระองค์ทรงเป็นอยู่ ประทับอยู่กับพวกเรา
ในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่  เราเห็นว่า ตลอดชีวิตของพระเยซูเจ้า พระองค์มีความสัมพันธ์กับพระบิดา และพระจิตเจ้าเสมอ เป็นความสัมพันธ์ในลักษณะที่ขาดจากกันไม่ได้ พระบุตรไม่ได้ดำเนินชีวิตคนเดียวในโลกนี้ แต่พระองค์มีพระบิดาและพระจิตเจ้านำทางเสมอ และพระบิดาไม่เคยทอดทิ้งพระบุตรเลย
นักบุญออกัสติน ได้พูดถึงพระตรีเอกภาพเพื่อให้เราได้เห็นชัด ๆ ว่า พระบิดาทรงเป็นผู้ให้ความรัก  พระบุตรทรงเป็นผู้รับความรัก หรือถูกรัก ส่วนพระจิตเจ้าทรงเป็นความรัก
นอกจากนี้ ในพระคัมภีร์ยังเปิดเผยให้เราทราบอีกว่า พระเจ้าของเราทรงเป็นพระเจ้าผู้ทรงชีวิต (พระบิดา) พระเจ้าผู้ทรงเป็นผู้ช่วยให้รอด (พระบุตร) และพระเจ้าทรงเป็นองค์ความศักดิ์สิทธิ์ (พระจิตเจ้า) ทั้งสามนี้เป็นหนึ่งเดียวกัน พระบิดาเจ้าทรงเป็นชีวิต เป็นความรอด และเป็นความศักดิ์สิทธิ์ ทั้งพระบุตรและพระจิตเจ้าด้วยเช่นเดียวกัน
ในคำสอนของคาทอลิก สอนเราว่า
พระบิดา และพระบุตร และพระจิตเจ้า พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าแท้เพียงพระองค์เดียว ไม่ใช่สามองค์ แต่เป็นพระเจ้าองค์เดียว แต่มีสามพระบุคคล นั่นคือ พระบิดาให้กำเนิดพระบุตร แต่พระบิดาไม่ใช่พระบุตร พระบุตรกำเนิดมาจากพระบิดา แต่ก็ไม่ใช่พระบิดา พระจิตเจ้าไม่ใช่ทั้งพระบิดาและพระบุตร แต่เนื่องมาจากพระบิดา และพระบุตร 
หมายความว่า พระบิดาก็คือพระบิดา พระบุตรก็คือ พระบุตร พระจิตก็คือพระจิต เป็นหนึ่งเดียวกันในความสัมพันธ์ที่แยกจากกันไม่ได้
ดูเหมือนว่า พระเยซูเจ้าเท่านั้นที่บังเกิดจากพระนางมารี ตายบนกางเขน และกลับคืนพระชนมชีพ
ดูเหมือนว่า พระจิตเจ้าเท่านั้นที่เสด็จมาประทับเหนือพระเยซูเจ้าที่แม่น้ำจอร์แดน และในวันเปนเตกอสเตที่เสด็จมาเหนืออัครสาวก
ดูเหมือนว่า พระบิดาเท่านั้นที่ตรัสออกมาที่แม่น้ำจอร์แดน และที่ภูเขาทาร์บอ
แต่แท้จริงแล้ว พระบิดา พระบุตร และพระจิตเจ้าทรงกระทำงานของพระองค์อย่างที่แยกจากกันไม่ได้ ดูเหมือนจะแยกจากกันในพระองค์เอง แต่หาเป็นเช่นนั้นไม่ นี่คือความเชื่อของเรา
นี่คือความเชื่อของคาทอลิก


สิ่งที่เป็นแนวปฏิบัติสำหรับชีวิตคริสตชนของเราก็คือ ความสัมพันธ์ต่อกันและกัน

ความสัมพันธ์ต่อกันและกัน เริ่มต้นจากครอบครัว พ่อ แม่ ลูก ที่จะต้องสร้างและเลียนแบบชีวิตของพระตรีเอกภาพ พ่อ แม่ ลูก มีความแตกต่างกันในทางด้านร่างกาย และจิตใจ แตกต่างในบทบาทและหน้าที่ แต่ทุกคนก็ต้องสำนึกถึงความเป็นครอบครัว ในความเป็นพ่อ ในความเป็นแม่ ในความเป็นลูก เหนือสิ่งอื่นใด ทุกคนจะต้องสำนึกและตระหนักว่า เราเป็นครอบครัวที่ไม่อาจแบ่งและแยกได้  สิ่งที่รวมเราเป็นหนึ่งเดียวกัน ก็คือ ความรัก.. พ่อรักแม่ พ่อแม่รักลูก และลูกก็รักพ่อแม่  นี่คือความสัมพันธ์ของพระตรีเอกภาพ

ความรักกันและกัน จะขจัดความขัดแย้งทั้งหมด 
ความรักต่อกันและกัน จะทำลายความแตกแยกทั้งปวง
ความรักต่อกันและกัน จะก่อให้เกิดความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
ความรักต่อกันและกัน จะก่อให้เกิดการให้อภัยกันเสมอ

ความสัมพันธ์ต่อกันและกันในครอบครัวไม่พอ จะต้องขยายความสัมพันธ์ต่อกันและกัน กับ บุคคลรอบข้าง เพื่อนบ้านของเราด้วย เพื่อสานต่อ และสร้างความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน สันติภาพ และสันติสุขก็จะเกิดขึ้นในหมู่บ้านของเรา

พระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 ตรัสว่า "พระตรีเอกภาพคือความเป็นหนึ่งเดียวกันที่สมบูรณ์ที่สุดอย่างแท้จริง"
พระองค์ตรัสอีกว่า พระเจ้าเป็นความรัก พระบิดาเป็นความรัก พระบุตรเป็นความรัก และพระจิตเป็นความรัก 
เป็นความรักที่บริสุทธิ์ ไม่มีขอบเขต และตลอดนิรันดร
ภาพของพระตรีเอกภาพ เป็นภาพแห่งความรักเท่านั้น เพราะความรักทำให้เรามีความสุข พวกเราทุกคนมีชีวิตอยู่เพื่อที่จะรัก และเพื่อที่จะรับความรัก..


0 ความคิดเห็น: